xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

หญิงหน่อย อ้วน แก่ สปอร์ต อดลงผู้ว่ากทม.ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-แม้ว่าบรรดาลิ่วล้อจะยกขบวนออกมาอุ้มกระเตง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สมาชิกบ้านที่เลขที่ 111 อาทิ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ยังลงทุนออกมาพูดยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าอย่างไรเสีย หญิงหน่อย ก็ไม่ใส่เกียร์ถอยแน่นอน หรือจะเป็นบรรดา สก. สข.ของพรรคเพื่อไทย ที่ออกมารวมตัวแสดงพลังออกมาหนุน แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกันในที่ประชุมเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ส่งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามของพรรค เพื่อไทย เนื่องจาก สข., สก. เชื่อว่าหาก ส่งคุณหญิงสุดารัตน์จะมีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งสูง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเชียร์จะดันกันขนาดไหนก็ตามที แต่งานนี้ดูเหมือนบรรดากองเชียร์ หญิงหน่อย ในพรรคเพื่อไทย คงจะต้องฝันค้างไปตามๆกันเสียแล้ว เพราะที่สุดแล้ว หญิงหน่อยก็ได้ออกโรงมาบอกถึงความชัดเจนในเรื่องนี้อย่างเป็นทางการชนิดแจ่มแจ้งเลยทีเดียว

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กชื่อ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์(http://www.facebook.com/khunyingsudarat?fref=ts) ถึงความชัดเจนในการลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า

“ข่าวสุดารัตน์ ลงไม่ลง ผู้ว่าฯ สับสนเหลือเกิน !! ขอเรียนยืนยันอีกครั้งว่าดิฉันไม่พร้อมลงสมัครผู้ว่าฯจริงๆ ข่าวที่บอกว่าดิฉันบินไปฮ่องกงเพื่อไปขอนายกทักษิณ ให้ส่งลงสมัครผู้ว่าฯ ก็ไม่จริงค่ะ ดิฉันไม่เคยขอใครในพรรคเพื่อไทยให้ส่งดิฉันลงสมัครผู้ว่าฯ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ ทักษิณ หรือ นายฯ กยิ่งลักษณ์ ในที่ประชุมพรรคฯเมื่อวันศุกร์ ดิฉันได้บอกกับเพื่อน พี่น้อง สมาชิกพรรคฯ ถึงความไม่พร้อม เนื่องจากงานบูรณะสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าที่ดิฉันได้รับผิดชอบอยู่ ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ เป็นงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อพุทธศาสนาและในหลวงของเรา ที่ดิฉันมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้ดีที่สุด ดิฉันต้องกราบขอโทษผู้สนับสนุนอีกครั้งนะค่ะ ที่ไม่ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ตามแรงเชียร์

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ประชุมถือเป็นเรื่องที่สะเทือนใจดิฉันเป็นอย่างยิ่ง ที่โดนเพื่อนร่วมงานทั้ง ส.ส. ส.ก. ส.ข. ว่าดิฉันทิ้งเพื่อนหรือเป็นแม่ทัพที่หนีทัพยามต้องออกรบ ซึ่งไม่ใช่นิสัยดิฉันเลยที่จะทิ้งเพื่อนทั้งพวกพ้องหรือทรยศหักหลังใคร ดิฉันก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้เพื่อนร่วมงานทุกท่าน กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราต้องกราบขอโทษเพื่อนๆ อีกครั้ง และขอความเข้าใจและความเห็นใจให้กับดิฉันด้วย ดิฉันไม่ปราถนาที่จะสร้างปัญหาให้กับใครโดยเฉพาะกับพรรคฯที่ดิฉันรัก

“ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานทุกท่านทั้ง ส.ส. ส.ก. ส.ข. และรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นความจริงใจที่มีให้กับดิฉัน เราทำงานร่วมกันมายาวนาน ร่วม 20ปี เราผ่านทุกข์ผ่านสุขด้วยกันมามาก ความผูกพันและความจริงใจ ที่เรามีต่อกัน เป็นความยิ่งใหญ่ในหัวใจพวกเรา ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะมาถึงนี้ ดิฉันขอให้พวกเราสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้ความเคารพมติพรรคและให้ความร่วมมือกับพรรคฯ อย่างเต็มที่ในการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ถึงแม้นว่าผู้สมัครฯ จะไม่ใช่ดิฉัน ขอให้เชื่อมั่นผู้บริหารพรรคจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับทุกท่าน และ ขอวิงวอนให้เพื่อน พี่น้องสมาชิกฯ ทุกท่านทำงานให้พรรคฯอย่างเต็มที่เพื่อชัยชนะของพรรคฯ เรา

“ดิฉันต้องกราบขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ยังเมตตาคิดถึงดิฉันอยู่ โดยสะท้อนผ่านผลโพลต่างๆ ว่า ยังต้องการให้ดิฉันกลับมาทำงานรับใช้อยู่ ดิฉันสำนึกในพระคุณของพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ และในโอกาสที่เหมาะสมดิฉันยืนยันว่า จะกลับมารับใช้ เพื่อทดแทนบุญคุณของทุกท่าน โดยในระหว่างนี้ที่ดิฉันยังไม่กลับเข้ามารับใช้ทางการเมือง ดิฉันขออาสาเอาความรู้และประสบการณ์ของดิฉัน มาร่วมกับพี่น้องประชาชน ช่วยกันคิด ช่วยกันสร้าง นโยบายสาธารณะที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของพวกเราคนไทย เป็นเสียงเป็นพลังภาคประชาชน เพื่อประชาชน มาช่วยกันนะคะเพื่อเมืองไทยของเรา กราบขอบพระคุณ และ กราบขอโทษอีกครั้ง”

ต้องบอกว่าชัดเจนและหมดความคลุมเครือไปในทันที ว่าที่สุดแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงชื่อ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. และ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เท่านั้นที่เป็นตัวเต็งและมาแรงที่สุดของพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นก็คือเหตุผลอันใด หญิงหน่อยผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตเจ้าแม่ กทม. มีส.ส.กทม.ในพรรคเพื่อไทยจำนวนมากถึงมาพลาดท่าอดเป็นแคนดิเดต ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามของพรรคเพื่อไทย

ด่านแรกก็คือเป็นที่ทราบกันอย่างดี ผู้ที่คุมอำนาจ กระจายอำนาจ ไม่ใช่ใครนอกเสียจากนช.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ที่เป็นเช่นนี้ก็ว่ากันว่า คุณหญิงหน่อยเอง ก็เจอแรงเสียดทานรอบด้าน ทั้งจากกลุ่มของ เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ พยายามเข้าไปผูกไมตรี ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่า เป็ดเหลิม เกลียดคุณหญิงสุดารัตน์เข้ากระดูกดำกันขนาด ซึ่งครั้งหนึ่งเป็ดเหลิมก็เคยระเบิดอารมณ์ ด่ากราดฝากความแค้นไปถึง หญิงหน่อยผ่าน ส.ส.กทม. ก๊วนหญิงหน่อยอีกด้วย

ความเขม็งเกลียวกันในเพื่อไทย จากปัญหาส่งคนลง ผู้ว่าฯกทม.นั้นมีให้เห็นมาตลอด เพราะคุณหญิงสุดารัตน์ เจอคนในพรรคด้วยกันเอง ที่ไม่ใช่แค่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนเดียว เพราะนอกจากนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้พยายามจะดัน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ มาลงสมัครผู้ว่าฯกทม.เพื่อคานอำนาจคุณหญิงสุดารัตน์ และป้องกันเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีของตัวเอง ไม่ให้ถูก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์มาแย่งไปแล้ว และนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากแรงเงาของ นายหญิงแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้านั้นเอง

แต่เมื่อพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ไม่สนใจ และเก้าอี้รองนายกฯ ยังอยู่มั่นคงดี เฉลิมก็พลิกไปหนุนหลัง พล.ต.อ.พงศพัศ เช่นเดียวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ และภูมิธรรม เวชชยชัย

กล่าวถึงอาการขบเหลี่ยมกับคนในพรรคเต็มไปหมด ไม่เว้นแม้แต่กับ ปูนิ่ม น.ส.ยิ่งลักษ์ ด้วยซ้ำ ตั้งแต่ช่วงเกิด ปัญหาอุทกภัยเมื่อปี 2554 ด้วยเหตุที่ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นเครื่องบินไปดูปัญหาอุทกภัย แล้วภาพดันไปปรากฏในหนังสือพิมพ์บางฉบับ แน่นอนจะหมายความอันใดนอกจากเป็นการแย่งซีนทำคะแนนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปเต็มๆ

มิหนำซ้ำก่อนหน้านั้นยังมีข่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ คัดค้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย ช่วงก่อนมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 53 โดยเสนอว่า ไม่สมควรผลักดันให้น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลงชิงตำแหน่งนายกฯรัฐมนตรี เพราะเกรงจะเกิดวิกฤติซ้ำรอย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยข้อหาเป็นนอมินีของนายใหญ่

และด้วยปัญหาติดค้างอยู่ในใจ เลยทำให้มีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พยายามกีดกันคุณหญิงสุดารัตน์ทุกรูปแบบ แม้จะมีความพยายามจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยสายกทม. สนับสนุน ให้เจ้าแม่กทม.ลงชิงตำแหน่งผู้ว่ากทม. แต่ก็ไม่เคยมีสัญญาณตอบรับ จากน.ส.ยิ่งลักษณ์เลย ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

แถมยังมีข่าวว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ สนับสนุน พล.ต.อ.พงศพัศ ให้ลงสมัคร ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. โดยหวังใช้ผลงานเรื่อง “ปราบยาบ้า” มาโชว์ในระหว่างการหาเสียง

แต่อย่างไรก็ตาม จุดสำคัญก็คือ คนใกล้ชิดศูนย์กลางอำนาจตระกูลชินวัตรต่างก็รู้กันดีว่า เป็นเพราะนายหญิงแห่งวังจันทร์ส่องหล้า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ไม่ปรารถนาที่จะให้คุณหญิงสุดารัตน์กลับเข้ามาในวังวนแห่งอำนาจอีกครั้ง จะด้วยเหตุผลเรื่องราวแต่เก่าก่อนที่ยังคงเป็นความหลังคาใจกันอยู่ ซึ่งว่ากันว่านายใหญ่ก็มิอาจขัดใจอดีตภรรยาผู้ยังทรงอำนาจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ผู้นี้ได้

อย่างไรก็ดี ต้องบอกว่าครั้งนี้มิใช่ครั้งแรกที่ หญิงหน่อย หลุดวงโคจรอำนาจและไม่เป็นที่สนใจใยดี เพราะในช่วงหนึ่งที่สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ซึ่งจะพ้นจากการตัดสิทธิ์ทางการเมืองในวันที่ 30 พฤษภาคม 2555 ประกาศด้วยเสียงอันดังว่า จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในคณะรัฐมนตรี “ปู 3”

สรุปก็คือ ตราบใดที่ในพรรคเพื่อไทยมียิ่งลักษณ์ชินวัตร พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แล้วละก็ไม่มีที่ยืนแน่นอนสำหรับคุณหญิงสุดารัตน์

มาถึงตรงนี้แล้วสำหรับ คุณหญิงสุดารัตน์ คงต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นว่าขณะนี้หมดเวลาของเธอแล้ว ถ้าจะยกตัวอย่างก็เป็นเฉกเช่นดังที่สมาชิกบ้านที่ 111 หลายคน ต้องประสบมาเช่นกัน อาทิสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จาตุรงค์ ฉายแสง สุรเกียรติ์ เสถียรไทย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ไม่สามารถกลับมาอยู่ในวังวนอำนาจภายใต้พรรคเพื่อไทยของ นช.ทักษิณได้ แม้จะมีบรรดา ส.ส.กทม.ในบัญชาหนุนหลังอย่างเต็มกำลังแล้วก็ตาม

และแน่นอน คุณหญิงหน่อย ที่นิยมชมชอบปลีกวิเวกไปทำงานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอยู่นมนาน น่าจะซาบซึ้งถึงคำว่า"สัจธรรม" เป็นอย่างดี และสำหรับในมุมสัจธรรมการเมืองด้วยแล้วดูเหมือนว่า หญิงหน่อยก็น่ารับรู้ด้วยตัวเองว่าขณะนี้วงจรอำนาจการเมืองอันหอมหวนที่เคยห้อมล้อมตัวเธอในสมัยก่อนดูเหมือนกำลังห่างไกลออกไปทุกที


กำลังโหลดความคิดเห็น