xs
xsm
sm
md
lg

ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. “เพื่อไทย” ร้าวลึก เฉดหัว “เจ๊เหน่อย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
รายงานการเมือง

ศึกชิงผู้ว่าฯ กทม.งวดเข้ามาทุกที จึงมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่แฝงนัยยะเรื่องดังกล่าวออกมาเป็นระยะ ผู้ว่าคนปัจจุบัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แสดงออกชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งให้คนกรุงฯ พิจารณาอีกรอบ

แม้ต้นสังกัดยังสงวนท่าที แทงกั๊กยังไม่เปิดตัวผู้สมัครอย่างเป็นทางการ แต่นินทากันภายในจนคนรู้ทั้งบางว่ามีแนวโน้มว่าจะไม่ส่ง “สุขุมพันธุ์” ลงสนามอีกครั้ง หลังบวกลบคูณหารแล้วไม่มั่นใจว่าจะตีตั๋วกลับเข้ามาได้อีกรอบ

เพราะหลายเรื่องหลาวราวโดนตีจนช้ำ อย่างเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมาชาวบ้านบางส่วนยังมองว่าเป็นผู้ร้าย หนำซ้ำเรื่องสนามฟุตซอลที่ไม่ผ่านการรับรอง ก็โดนกระหน่ำว่าเป็นความผิดของกทม. ความกังขา ความสงสัย จึงทำให้ภาพลักษณ์ดูมัวหมองลงไป

พรรคประชาธิปัตย์ที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องยึดครองสมรภูมิการเมืองสนามเล็กต่อไป จึงเลือกที่จะพิจารณาหาคนที่มีภาพสดใส คะแนนนิยมดีกว่าเปลี่ยนตัวลงสนามแทน กระนั้นก็ไม่อาจหักด้ามพร้าด้วยเข่า กำลังหาทางกล่อม “สุขุมพันธุ์” ให้จำยอมอย่างเนียนๆ เพราะหากเกิดความไม่พอใจ “สุขุมพันธุ์” หนีไปลงสมัครในนามอิสระ จะเป็นเรื่องอันตรายเสี่ยงแพ้สูง เพราะตัดคะแนนกันเอง

ที่น่าสนใจกว่าคือ พรรคเพื่อไทย ที่มี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศอยู่ยามนี้ หวังใจไว้เต็มเปี่ยมว่าจะยึดนายกเล็ก สนาม กทม.มาไว้ในอุ้งมือ ควบรวมจัดการเบ็ดเสร็จ แต่สำรวจตรวจตราจับกระแสแล้วยังไม่มีแต้มต่อคู่แข่งแต่อย่างใด ทำโพลหลายครั้งคะแนนก็ยามตามหลังอยู่ตลอด

ต้องคิดหนักวางแผนกันหลายตลบ จะช่วงชิงกระแสคะแนนนิยมอย่างไร ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากเล่นเกมถ่อย ตุ๊ดๆ หาเรื่องดิสเครดิต สาดโคลนใส่ กทม.ไปวันๆ คะแนนตัวเองสู้ไม่ได้ ก็ฉุดคู่แข่งมาลงเหวด้วยกัน!!

กระนั้นก็ดี สาเหตุปัจจัยหลักที่ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ขยับเขยื้อนตีตื้นคะแนนนิยมขึ้นมาเลย เนื่องเพราะปัญหาภายในที่ยังห้ำหั่นกันไม่ลงตัว จึงไม่มีเวลาไปสู้ศึกภายนอก เรื่องนโยบายดูเหมือนจะเดินหน้าไปได้ แต่เรื่องตัวบุคคลยังเป็นปัญหา

หลังจากมีความชัดเจนภายในว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จะเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ออกหน้าโชว์ตัวตามหน้าสื่อในภารกิจของเลขาธิการป.ป.ส.ถี่ยิบ ก็เกิดกระแสความไม่พอใจเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ จากส.ส.กทม.ในปีกของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

ไปสุมหัววิเคราะห์กันภายในแล้ว นึกน้อยเนื้อต่ำใจว่า ปฏิบัติการส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้จะอยู่ในคอนโทรลของ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เพราะ “พงศพัศ” เป็นคนที่ “เฉลิม” เห็นชอบ อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้ “สุดารัตน์” มีที่ยืนลงสมัครงวดนี้เป็นไหนๆ

ทราบกันดีว่า “เฉลิม-สุดารัตน์” เป็นคนละขั้ว ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ เกลียดกันยิ่งกว่าอาจม ทำทุกทางเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายมีอำนาจบาตรใหญ่ในสนาม กทม. “เจ๊หน่อย” ไม่ต้องการให้อริมีอำนาจบริหารจัดการกทม. เพราะเมื่อใดเขามาเราก็ต้องไป โดนถล่มจนไม่มีที่ยื่นแน่นอน

ฝ่าย “เฉลิม” ก็จ้องล้างบางอำนาจ “สุดารัตน์” ที่ยึดหัวหาดภาค กทม.ในพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว นัยยะสำคัญก็เพื่อปูทางให้ลูกๆ ลงสนาม โดยไร้เสี้ยนหนามคอยขัดขวาง

เป็นการแย่งชิงห้ำหั่นกันแบบไม่ลดราวาศอกตลอดมา วันนี้เมื่อฝ่าย “สุดารัตน์” ดูเหมือนจะเพลี่ยงพล้ำ จึงเกิดปฏิบัติการดิ้นสู้ แกมท้าทายพรรคเพื่อไทยของนายใหญ่

ลิ่วล้อปีก “เจ๊หน่อย” จิรายุ ห่วงทรัพย์ บอกว่า ส.ส.กทม. ส.ก.และ ส.ข.พรรคเพื่อไทย เตรียมทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ และจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอให้ส่ง “สุดารัตน์” ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมบอกว่า “สุดารัตน์” ไม่เคยปฏิเสธที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.

แต่ฟังแล้วก็ตลก ก่อนหน้านี้ “สุดารัตน์” ก็ทำเป็นกระมิดกระเมี้ยน บอกอย่างเท่ไม่เอาค่ะ ไม่ลงค่ะ แต่ทว่าใครหลายคนรู้ว่าเป็นอาการสตรอ... เพราะใจลึกๆ แล้วอยากลงสนามการเมืองจนก้นสั่น ยิ่งเห็นบางคนในบ้านเลขที่ 111 กลับมามีตำแหน่งใหญ่โตในรัฐบาลแล้ว ยิ่งเกิดอาการ “กระสัน” อยากกลับมาเร็วๆ กลัวตกขบวน เพราะตีค่าตนเองไว้สูง มองว่าตัวเองเหนือกว่าคนที่ได้เป็นรัฐมนตรีในครม.ยิ่งลักษณ์ 3 เสียอีก

ทว่าในมุมกลับกัน “สุดารัตน์” คงลืมนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง หรือรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่อยากนึก วีรกรรมที่เคยเสนอหน้าออกสื่อแย่งซีนนายกฯเมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ ยังเป็นความพยาบาทที่ผู้หญิงด้วยกันฝังใจเรื่อยมา ยากที่จะลบเลือนไปง่ายๆ

วันนี้ “สุดารัตน์” เป็นของแสลงที่ “ยิ่งลักษณ์” ไม่อยากเห็นหน้าในวันที่ตัวเองเริ่มมีอำนาจเบ็ดเสร็จ

ปฏิบัติการทิ้งไพ่ใบสุดท้ายข่มขู่พรรคเพื่อไทยของกลุ่ม กทม.ปีกหญิงหน่อยคราวนี้ จะทำให้พรรคเหลียวหลังมาให้ความสำคัญ หรือเพิกเฉยไม่สนใจ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่ง

ระยะหลังที่ผ่านมาดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ให้ค่าให้ราคาภาคกทม.ภายใต้การควบคุมของ “สุดารัตน์” มากสักเท่าใดนัก หนำซ้ำยังมองว่าเป็นจุดบอดที่ทำให้พ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้ง กทม.มาหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลัง และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร

แต่ด้วยความที่ว่าชั่วโมงนี้ภาค กทม.ยังไม่มีใครขึ้นมาทดแทนของเก่าที่ “สุดารัตน์” ทำเอาไว้ได้เต็มที่นัก จึงยังกั๊กๆ รอเวลาสงวนท่าทีอยู่ กระนั้นหากภาคกทม.ของ “เจ๊หน่อย” เดินเกมหักด้ามพร้าต่อรองแข็งกร้าว นั่นอาจถึงเวลาที่ “ยิ่งลักษณ์” ตัดสินใจเด็ดขาด โละทิ้งของเก่าลองของใหม่ ใช้เหลี่ยมการเมือง สลายเครือข่ายของ “หญิงหน่อย” ซื้อใจมวยรองของ กทม. อย่าง “ศิธา ทิวารี” “วิชาญ มีนชัยนันท์” “อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” มาสถาปนากลุ่มใหม่ในพรรคเพื่อไทยที่ควบคุมคอนโทรลได้ มอบตำแหน่งรมต.ให้เป็นผู้นำคนใหม่แทน

หรือ “ยิ่งลักษณ์” จะทำให้ง่ายกว่านั้น จัดการนำคนใกล้ตัว ที่ชั่วโมงนี้สนิทที่สุดอย่าง สุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ ที่อดีตเคยเป็นมือสองรองจาก “สุดารัตน์” มาบงการควบคุมกทม.แทนก็ย่อมได้

ปฏิวัติภาค กทม.ใหม่ ยึดอำนาจมาอยู่ในมืออีกภาคส่วนซึ่งเป็นแนวทางที่ต้องการอยู่แล้ว ส.ส.ในสังกัด กทม.จะว่าอย่างไรก็เลือกเอา จะย้ายพรรคหนีตาม “สุดารัตน์” ออกไปตกอับ หรือยอมรับการควบคุมใหม่ที่มีนายกฯ รับประกัน ก็คงต้องชั่งใจกันดู!!
กำลังโหลดความคิดเห็น