xs
xsm
sm
md
lg

“จิรายุ” ยื่นเอกสารฟัน กทม.ต่อสัญญาบีทีเอสเพิ่ม ชี้มั่วคำแนะกฤษฎีกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ส.กทม.เพื่อไทยบุก ป.ป.ช.ยื่นหลักฐานมัด กทม. ซัดโมเมคำวินิจฉัย กก.กฤษฎีกาไม่เปิดประมูลตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ทั้งที่ไม่มีคำแนะให้ทำ ชี้เจตนาปกปิด ชี้ “คุณชาย-บิ๊กบีทีเอส-กก.กรุงเทพธนาคม” รู้เห็นเอื้อเซ็นสัญญา 13 ปี วงเงิน 190,000 ล้าน อ้างดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษยุ่งไม่ได้ ปัดดิสเครดิตก่อนศึกชิงผู้ว่าฯ กทม. ชี้ตรวจสอบเรื่องปกติ

วันนี้ (11 ต.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการกรรมการ ป.ป.ช. โดยเปิดเผยว่า ตนได้พบข้อมูลใหม่ในการต่อสัญญาไปอีก 13 ปีในวงเงิน 190,000 ล้านบาทให้กับบริษัทเอกชนในกรณีที่ส่วนราชการกรุงเทพมหานครไปจ้างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) วิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร ให้ไปจ้างต่ออีกทอดในการต่อสัญญาจ้างเดินรถไฟฟ้ากับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือ BTSC ซึ่งอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 และเป็นการหลีกเลี่ยงพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 อันมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ และหรือพนักงานของรัฐอาจมีส่วนรู้เห็น เช่น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. กับพวกในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และนายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ประธานกรรมการ บริษัท BTSC นายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นบริษัทที่ กทม.ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ในฐานะเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีอาจรู้เห็นเป็นใจในการเซ็นสัญญาว่าจ้างเอกชนล่วงหน้า 13 ปีก่อนการสิ้นสุดสัญญาอันเป็นการเอื้อประโยชน์กับเอกชนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้พบข้อมูลใหม่ในกรณีที่ กทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ไปอ้างคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าด้วยการดำเนินการของ กทม. ไม่ต้องเปิดประมูลตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน

นายจิรายุกล่าวว่า การที่มาร้องเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช.ในครั้งนี้เพื่อชี้ให้เห็นว่า ผู้บริหาร กทม. และกรุงเทพธนาคมได้ชี้แจงผ่านสมุดปกข่าวต่อสาธารณชนนั้นเป็นเจตนาปกปิดโดยไม่นำความจริงมาแสดงทั้งหมด โดยกล่าวอ้างเอาเองว่าการจ้าง BTS มูลค่ากว่า 1.9 แสนล้านบาทนั้นไม่ขัด พ.ร.บ.ร่วมงานของรัฐฯ ซึ่งความจริงตามที่ กทม.ได้สอบถามกฤษฎีกานั้น กฤษฎีกาได้วินิจฉัยแนวทางไว้ 3 แนวทางที่ไม่ตรงกับการกระทำของผู้บริหาร กทม.แต่อย่างใด เมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษเป็นเรื่องของ DSI ไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมองมุมกลับแล้วจะทำให้เป็นปัญหากับ กทม.หรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า จะขัดแย้งหรือไม่ไม่ใช่ปัญหาเพราะ กทม.ทำเรื่องต่างๆ ตามอำเภอใจมานานหลายปีแล้ว ส่วนจะเป็นการยึดเครดิตผู้ว่าฯ กทม. หรือไม่นั้น หากมองย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ถูกตรวจสอบเรื่องต่างๆ ของ กทม.มาโดยตลอด กรณีนี้ต้องดูที่เจตนาและการกระทำของทาง กทม. และไม่ควรโยนความผิดให้หน่วยงานอื่น




กำลังโหลดความคิดเห็น