00 คำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร ที่วิดีโอลิงก์เข้ามาในเวทีคนเสื้อแดงที่เขาใหญ่เมื่อวันก่อน ที่ฉีกหน้าแกนนำคนเสื้อแดงเป็นริ้วๆ ไม่ไว้หน้า ไม่ให้ราคา ไม่ต่างจาก “นายเงิน” กับ “ขี้ข้า” และจนบัดนี้บรรดาแกนนำพวกนั้นก็เงียบเสียง ทำเฉไฉไปเรื่องอื่น อุดมการณ์และหลักการที่อ้างต่อหน้ามวลชนว่ามีอยู่เต็มเปี่ยมนั้น พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเพียง “คำพูดหากินกับมวลชน” ที่หลอกลวงได้ซ้ำซากเท่านั้น เพราะหากยืนยันว่าคำพูดของตัวเองเป็นความต้องการของมวลชนอย่างแท้จริง ก็ต้องยืนยันบังคับให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะถือว่าเป็นคนที่สนับสนุนและค้ำจุนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือแม้แต่ครอบครัวของทักษิณ ด้วย
00 แต่นี่กลายเป็นว่า ทุกอย่างต้องฟังการชี้นิ้วของ ทักษิณ คนเดียว เขาพูดหรือสั่งอะไรก็ลนลาน รีบทำตาม บรรดาแกนนำที่เคยทำปากดีข้างนอก แต่พอเจอหน้ากลับหงอ แบบนี้เขาไม่เรียกประชาธิปไตยนะเฟ้ย เขาเรียก “ข้าทาส หรือ ขี้ข้า” เพราะถ้าจะยืนยันในหลักการจริงๆ ก็ต้องเดินหน้า เนื่องจากก่อนจะพูดอะไรออกมา หรือ ที่ “กระแดะ” ประกาศเป็น “ปฏิญญาเขาใหญ่” อะไรนั่น ฟังแล้วแทบอ๊วก มันทุเรศ จะหลอกต้มใช้มวลชนคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือไปถึงไหน ทำไมไม่สงสารพวกเขาบ้าง ว่าพวกเขาจริงใจยอมเจ็บยอมตายแทนให้พวกเอ็งได้เสวยสุข มีอำนาจวาสนา โดยเฉพาะพวกหัวโจกอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ที่กำลังใช้วิธี “หยั่งสองขา” คือ อีกทางหนึ่งรักษามวลชน อีกทางหนึ่งรับใช้ ทักษิณ รับประโยชน์ทั้งสองทาง ทุเรศสิ้นดี...ทุด
00 สำหรับ แม้ว ก็ไม่ได้ต่างกัน ดีแต่โกหกรายวัน และทำได้แม้แต่การทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน ไม่เคยเปลี่ยน ครั้งก่อนทำได้แม้กระทั่งยุยง หลอกล่อให้ชาวบ้านไปตายแทน เช่น ปลุกระดมว่า “ถ้าเสียงปืนแตกเมื่อไหร่ ผมจะนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯ เอง” หรือถ้าพี่น้องถูกทำร้าย ก็ให้ไปพร้อมกันที่ศาลากลางฯทั่วประเทศ แล้วเป็นไง มีการเผาศาลากลาง มีการติดคุก ลำบากลำบนมาจนถึงทุกวันนี้ หรือแม้แต่คำพูดที่คุยโม้ไปเรื่อยว่า “ผมจะกลับบ้านในปีนี้” แล้วเป็นไง จะสิ้นปีอยู่แล้ว ยังไม่เห็นวี่แวว
00 หรือแม้แต่การจะแก้ไข รธน.ก็เช่นเดียวกัน ในที่สุดแล้วก็เลือกหนทางที่ทำให้ “น้องสาว” ตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี มีความปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยงคุก เสี่ยงถูกถอดถอน โดยไม่เลือกหนทางโหวต วาระ 3 เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าหนทางนี้ในท้ายที่สุดแล้วนอกจากจะผ่านยากแล้ว ที่สำคัญก็คือ ความเห็นแก่ตัวที่สิ่งไหนก็ตามถ้าคนในครอบครัว หรือตัวเองต้อง “เสี่ยงเอง” แล้วไม่เอาเด็ดขาด สู้ใช้คนอื่นไปเสี่ยงแทนดีกว่า
00 ได้เห็น กรุงเทพโพลล์ ที่สำรวจในหัวข้อ “ที่สุดความคิดสร้างสรรค์ปี 55” เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่แม้ไม่รู้ว่าเป็น “โพลมั่ว-อวยกันหรือเปล่า” แต่ผลที่ออกมาปรากฏว่า ยิ่งลักษณ์ เป็นนักการเมืองที่มีผลงานสร้างสรรค์มากที่สุด คะแนนนำลิ่วถึงกว่า 52 เปอร์เซ็นต์ และโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังจะฉิบหายวายป่วงนั้น กลายเป็นนโยบายรัฐบาลที่สร้างสรรค์มากที่สุด และละคร “แรงเงา” เป็นละครโทรทัศน์ ที่สร้างสรรค์มากที่สุด โอ้...แม่เจ้า นี่มั่นเป็นกันถึงขนาดนี้เลยหรือ คนไทย พูดไม่ออก หรืออาจเป็นเพราะแม้วเข้าใจนิสัยคนไทย ถึงได้มั่นใจว่าการทำประชามติมัน “หมู” มาก หรือเปล่า มองอีกมุมหนึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นเอง เวรกรรม!!
00 แต่นี่กลายเป็นว่า ทุกอย่างต้องฟังการชี้นิ้วของ ทักษิณ คนเดียว เขาพูดหรือสั่งอะไรก็ลนลาน รีบทำตาม บรรดาแกนนำที่เคยทำปากดีข้างนอก แต่พอเจอหน้ากลับหงอ แบบนี้เขาไม่เรียกประชาธิปไตยนะเฟ้ย เขาเรียก “ข้าทาส หรือ ขี้ข้า” เพราะถ้าจะยืนยันในหลักการจริงๆ ก็ต้องเดินหน้า เนื่องจากก่อนจะพูดอะไรออกมา หรือ ที่ “กระแดะ” ประกาศเป็น “ปฏิญญาเขาใหญ่” อะไรนั่น ฟังแล้วแทบอ๊วก มันทุเรศ จะหลอกต้มใช้มวลชนคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือไปถึงไหน ทำไมไม่สงสารพวกเขาบ้าง ว่าพวกเขาจริงใจยอมเจ็บยอมตายแทนให้พวกเอ็งได้เสวยสุข มีอำนาจวาสนา โดยเฉพาะพวกหัวโจกอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ที่กำลังใช้วิธี “หยั่งสองขา” คือ อีกทางหนึ่งรักษามวลชน อีกทางหนึ่งรับใช้ ทักษิณ รับประโยชน์ทั้งสองทาง ทุเรศสิ้นดี...ทุด
00 สำหรับ แม้ว ก็ไม่ได้ต่างกัน ดีแต่โกหกรายวัน และทำได้แม้แต่การทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน ไม่เคยเปลี่ยน ครั้งก่อนทำได้แม้กระทั่งยุยง หลอกล่อให้ชาวบ้านไปตายแทน เช่น ปลุกระดมว่า “ถ้าเสียงปืนแตกเมื่อไหร่ ผมจะนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯ เอง” หรือถ้าพี่น้องถูกทำร้าย ก็ให้ไปพร้อมกันที่ศาลากลางฯทั่วประเทศ แล้วเป็นไง มีการเผาศาลากลาง มีการติดคุก ลำบากลำบนมาจนถึงทุกวันนี้ หรือแม้แต่คำพูดที่คุยโม้ไปเรื่อยว่า “ผมจะกลับบ้านในปีนี้” แล้วเป็นไง จะสิ้นปีอยู่แล้ว ยังไม่เห็นวี่แวว
00 หรือแม้แต่การจะแก้ไข รธน.ก็เช่นเดียวกัน ในที่สุดแล้วก็เลือกหนทางที่ทำให้ “น้องสาว” ตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี มีความปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยงคุก เสี่ยงถูกถอดถอน โดยไม่เลือกหนทางโหวต วาระ 3 เพราะรู้อยู่เต็มอกว่าหนทางนี้ในท้ายที่สุดแล้วนอกจากจะผ่านยากแล้ว ที่สำคัญก็คือ ความเห็นแก่ตัวที่สิ่งไหนก็ตามถ้าคนในครอบครัว หรือตัวเองต้อง “เสี่ยงเอง” แล้วไม่เอาเด็ดขาด สู้ใช้คนอื่นไปเสี่ยงแทนดีกว่า
00 ได้เห็น กรุงเทพโพลล์ ที่สำรวจในหัวข้อ “ที่สุดความคิดสร้างสรรค์ปี 55” เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่แม้ไม่รู้ว่าเป็น “โพลมั่ว-อวยกันหรือเปล่า” แต่ผลที่ออกมาปรากฏว่า ยิ่งลักษณ์ เป็นนักการเมืองที่มีผลงานสร้างสรรค์มากที่สุด คะแนนนำลิ่วถึงกว่า 52 เปอร์เซ็นต์ และโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังจะฉิบหายวายป่วงนั้น กลายเป็นนโยบายรัฐบาลที่สร้างสรรค์มากที่สุด และละคร “แรงเงา” เป็นละครโทรทัศน์ ที่สร้างสรรค์มากที่สุด โอ้...แม่เจ้า นี่มั่นเป็นกันถึงขนาดนี้เลยหรือ คนไทย พูดไม่ออก หรืออาจเป็นเพราะแม้วเข้าใจนิสัยคนไทย ถึงได้มั่นใจว่าการทำประชามติมัน “หมู” มาก หรือเปล่า มองอีกมุมหนึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นเอง เวรกรรม!!
