xs
xsm
sm
md
lg

ต่างกรรม ต่างวาระ 98-99 ศพ เชอะ?

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

ต้องยอมรับละครับว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นคนที่ค่อนข้างเอาการเอางานมาก สมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้นายธาริตนี่แหละที่ขยันไปศาลยื่นคำร้องถอนประกันนายจตุพร พรหมพันธุ์ ครั้งแล้วครั้งเล่า จนนายจตุพรต้องนอนคุก และคนในพรรคเพื่อไทยคาดโทษเอาไว้ว่า หากได้เป็นรัฐบาลเช้ายังไม่ถึงเย็นก็จะต้องสั่งปลด

ถึงสมัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี คิดว่าเก้าอี้อธิบดีดีเอสไอ สำหรับนายธาริตจะปิ๋วไปเสียแล้ว ดูแต่นายถวิล เปลี่ยนศรี ลูกหม้อแท้ๆ ของสภาความมั่นคงยังโดนเด้งมานั่งตบยุงในทำเนียบฯ เพื่อเปิดทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ได้นั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจฯ ต้องเด้งทั้งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เด้งนายถวิล เปลี่ยนศรี เขาก็ทำกัน

แต่เก้าอี้นายธาริตเหนียวแน่นมั่นคง และคงจะเหนียวแน่นมั่นคงไปอีกนาน เพราะยากที่จะหาใครมาทำงานได้อย่างนายธาริต

ทำอย่างไร?

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันคือ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ย่อมซึ้งแก่ใจที่สุดกับผลงานของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ทำอยู่ขณะนี้

“ผู้อื่น” ที่ว่านี้ เขาพูดรวมๆ ถึง 98-99 ศพ โดยที่ไม่แยกออกมาเลยว่า ที่ตายเพราะเจ้าหน้าที่ที่นายธาริต อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเชื่อในพยานหลักฐานจนกระทั่งตั้งข้อหาเอากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้น มีนายทหาร เช่น พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม มีแม่ค้าที่ถูกยิงตายที่สถานีรถไฟฟ้าที่สีลม มีทหาร มีตำรวจ รวมอยู่ด้วย

มีชาวบ้าน มีทหาร มีตำรวจที่บาดเจ็บอีกนับพัน ไม่ทราบว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ จะแยกสำนวนต่างกรรมต่างวาระอย่างที่เป็นข่าว หรืออย่างที่แยกต่างกรรมต่างวาระในคดีที่นายอภิสิทธิ์ บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์เดือนละ 2 หมื่นบาท 21 เดือน โดยให้หักบัญชีเงินเดือน ไม่จ่ายเป็นเช็คของนายอภิสิทธิ์เอง กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องแยกเป็น 21 สำนวนหรือไม่

ถ้าหากทำเช่นเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ก็คงจะต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากการเป็นผู้แทนราษฎรแหละครับ เพราะเอาเวลาไปขึ้นศาลอย่างเดียวก็แทบจะไม่พอแล้ว จะไปทำอย่างอื่นได้อย่างไร?

แต่ช้าก่อน

คดีที่ว่ากันว่า นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 นั้น นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เป็นรองนายกรัฐมนตรีมิใช่หรือ ลำพังส่วนตัวหรือตัวตนของนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ถ้าหากไม่มีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี จะออกคำสั่งทหาร ตำรวจได้หรือ

เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรองนายกรัฐมนตรี ถ้าหากทำความผิด กรมสอบสวนคดีพิเศษย่อมดำเนินคดีได้ในเบื้องต้น แต่ก็ต้องส่งให้คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบเป็นผู้พิจารณาภายใน 30 วันมิใช่หรือ ทำไมนายธาริต เก็บคดีนี้ไว้ทำเอง ช่างขยันเอาเสียจริงๆ ขยันจนน่าสงสัย

คดีบริจาคเงินให้พรรคเดือนละ 2 หมื่นบาท โดยไม่จ่ายเช็คส่วนตัว แต่ให้หักเอาจากเงินเดือนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นความผิดมหันตโทษ เป็นความผิดชนิดพิเศษที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะต้องมาเสียเวลาเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนมากนักหรือ มันจะทำให้ประเทศไทยเสียหาย ประสบกับความวิบัติวิกฤตกันทีเดียวหรือ

เรื่องง่ายๆ อย่างนี้ทำไมไม่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เขามีหน้าที่ดูแลโดยตรงเป็นผู้จัดการ

คดีรับจำนำข้าวบอกประชาชนว่าขายข้าวรัฐต่อรัฐ ระหว่างรัฐไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน แล้วปล่อยให้บริษัทที่เจ๊งไปแล้วมาเป็นตัวแทนซื้อข้าวโดยไม่มีการประมูล มีเด็กของนักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลกลายเป็นตัวแทนฝ่ายจีน มันมีเงื่อนงำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษต้องคิด ต้องพิจารณา ต้องหยิบแฟ้มมาทำคดีมากกว่าเรื่องเงินบริจาคให้พรรคของนายอภิสิทธิ์ หลายเท่ามิใช่หรือ?

เพราะจำนำข้าวมันทำให้ประเทศเสียหายเป็นหมื่นเป็นแสนล้านเห็นๆ อยู่แล้ว

แต่ก็นั่นแหละ นายธาริตอาจจะไม่สนใจเรื่องจำนำข้าว สนใจแต่งานที่ตัวทำอยู่คือเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ศอฉ.โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เป็นผู้อำนวยการ นายธาริตอาจจะได้เห็นคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ที่สั่งให้ทหารไปฆ่าคนนั้นฆ่าคนนี้ เป็นต้น นายพัน คำกอง นายชาญณรงค์ พลศรีลา หรือแม้กระทั่งศพที่พบที่วัดปทุมวนาราม นายธาริตจึงค่อนข้างจะมั่นใจในคดีที่จะเอานายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ รับโทษประหารให้ได้

ถ้านายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพโหดร้ายอำมหิต สั่งทหารไปฆ่าประชาชน เพื่อสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ทำไมทหารหาญยอมรับคำสั่งอำมหิตนั้น ทำไมคณะกรรมการ ศอฉ.ไม่มีใครสักคนแม้กระทั่งนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการอยู่ด้วย ไม่เอ่ยปากทัดทานสักคำให้เป็นที่ประจักษ์ ให้เป็นที่ปรากฏ

การชุมนุมของประชาชนครั้งนั้นเป็นการชุมนุมโดยสงบ เป็นการชุมนุมเรียบร้อยปราศจากอาวุธ ปราศจากความรุนแรง ไฉนนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ส่งฟ้องผู้ก่อการร้ายไปแล้ว 24 คน คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณา ไฉนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวบีบีซี ยอมรับว่า ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ทหารใช้กระสุนจริง

เพราะบทเรียนที่ได้สรุปมาแล้วว่า ใช้มือเปล่า หรือเอาอกรับกระสุนจริงของผู้ก่อการร้ายที่แฝงอยู่ในการชุมนุมไม่ได้อีกแล้ว

เรื่องอย่างนี้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ลืมไปแล้วหรือ?
กำลังโหลดความคิดเห็น