xs
xsm
sm
md
lg

“เฉลิม” บ่นถูกยัดเยียดแก้ปัญหาใต้ เล็งดึงกำนัน-ผญบ.-จุฬาราชมนตรีช่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง (แฟ้มภาพ)
“เฉลิม” แอบบ่นถูกยัดเยียดแก้ปัญหาใต้ รับกลัว ถ้า “นายกฯ ปู” แจ้งล่วงหน้าจะปฏิเสธ เล็งดึงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านช่วย พร้อมเยี่ยมคารวะจุฬาราชมนตรีขอคำแนะนำ ให้ออกทีวีทำความเข้าใจคนในพื้นที่ ขณะเดียวกันจะเดินสายหารือผู้ที่เคยทำงานแก้ปัญหาใต้ บอกยังแหยงที่จะลงพื้นที่ ย้ำไม่ได้กลั่นแกล้ง “มาร์ค-เทือก” คดีแดงเผาเมือง


ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ (ศปก.กปต.) แต่ไม่ได้ร่วมเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้กับคณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ว่า เดิมมีศูนย์อำนวยการการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ดูแลด้านการพัฒนา และศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่ดูแลด้านความมั่นคง นอกจากนี้ยังมีทหารในพื้นที่นั้นมีน้อยลง ส่วนใหญ่จะใช้กำลังจากส่วนกลาง ตนคิดว่าควรอย่างยิ่งที่ต้องปรับปรุง เมื่อตนรับผิดชอบในฐานะ ผอ.ศปก.กปต. ต้องให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมีบทบาทให้มากที่สุด เพราะถือเป็นพนักงานตามพระราชบัญญัติการปกครองท้องที่ อีกทั้งยังเป็นผู้รู้จักพื้นที่ดี โดยจะนำมาเสริมทุกภาคส่วนให้เป็นทั้งการข่าว เป็นเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ ทั้งนี้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ดูแลอยู่แล้วแต่ยังทำไม่เต็มที่

“เขาอาจจะยังไม่รับบทบาท แต่เมื่อผมเข้ามาเป็นก็คิดแล้วว่าต้องให้บทบาท ไม่ต้องมีแรงจูงใจ คนนั้นถ้าเขาจะเต็มใจช่วยเขาต้องได้รับเกียรติ และเมื่อเห็นว่าเขามีเกียรติมีส่วนร่วม เขาก็เต็มใจช่วย แต่ถ้าเราปล่อยธรรมดาเขาก็ไม่เข้ามาช่วย ไม่งั้นผมจะแก้ปัญหายาเสพติดได้หรือ เพราะว่าผมวนไปสัมผัสในพื้นที่มาก เขาก็ช่วยเป็นหูเป็นตา ถ้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านตกลงปลงใจช่วยเหลือสถานการณ์ก็จะดีขึ้น”

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ส่วนโครงสร้างในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องมีการบูรณาการอีกครั้ง ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนโครงสร้าง ศอ.บต.แต่อย่างใด นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าต้องใช้งบประมาณตามปกติ แต่หากมีความต้องการใช้งบฯเพิ่มเติมจะต้องมีการบูรณาการอีกครั้งโดยเน้นเรื่องของสร้างอาชีพ การศึกษา สวัสดิการ

“วันนี้นายกฯ ลงไปทุกคนก็แฮปปี้แล้ว บางคนบอกว่าเมื่อก่อนนายกฯ ไม่รับผิดชอบโดยตรง พอเข้ามารับผิดชอบก็ถามว่าจะไหวเหรอ ผมยืนยันว่าท่านเป็นนายกฯ ได้ก็ทำได้ทุกอย่าง ไม่มีปัญหาหรอก”

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนจะเดินสายพบกับผู้ที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น นายถาวร เสนเนียม ส.ส.ประชาธิปัตย์ อดีต รมช.มหาดไทยดูแลภาคใต้ นายเด่น โต๊ะมีนา นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ รวมถึงจะเข้าคารวะนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เนื่องจากท่านเป็นศูนย์รวมที่ยึดเหนี่ยวของชาวมุสลิมในประเทศ และมีข้อมูล จึงต้องการเข้าพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งในส่วนนี้ตนจะปรึกษานายกฯ ว่าอาจมีการเชิญจุฬาราชมนตรีออกโทรทัศน์ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย

“มีคนโทรศัพท์มาหาผมบอกว่าเป็นแกนนำผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งขณะนี้พำนักอยู่ที่ประเทศสวีเดน โดยต้องการพูดคุยหารือกับผม แต่ผมคิดว่าจะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริงผมจะเดินทางไปเจรจาด้วยตัวเอง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ในพื้นที่ยังขาดกำลังพลอยู่มาก ในฐานะที่ดูแลตำรวจจะส่งกำลังพลลงพื้นที่เมื่อไหร่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าเร็วๆ นี้ แต่ทั้งนี้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)ไม่ค่อยอนุมัติอัตรา ที่ถือเป็นข้อจำกัด แต่เมื่อเมื่อเห็นความจำเป็นและมีการอนุมัติก็ต้องรีบทำ

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ระยะเวลาที่รัฐบาลทำงานมา ยืนยันว่าการดูแลความไม่สงบนั้นดีกว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ทำ ตนย้ำหลายครั้งแล้วว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถแก้ปัญหาได้พรรคอื่นก็เหนื่อย เพราะมี ส.ส.ในพื้นที่มาก แต่ทั้งนี้รัฐบาลมีความจริงใจ เมื่อเห็นอะไรที่เป็นจุดอ่อนก็พยายามแก้ อย่างไรก็ตาม แผนที่ใช้ดูแลความไม่สงบนั้นจะใช้เวลาประเมินผล 6 เดือนต่อครั้ง แต่ต้องฟังทหารเป็นหลัก ซึ่งต่อไปต้องมีการประเมินสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับแนวร่วมผู้ก่อเหตุไม่มีเพิ่มขึ้น แต่ไม่ทราบว่ามีกลุ่มใดบ้างแต่ถ้ารัฐใช้กำลังจะเข้าทางเขา

ต่อข้อถามว่า แสดงว่าประชาชนมีส่วนในการก่อเหตุ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ถ้าไม่ใช่ประชาชนแล้วใคร ซึ่งเป็นเรื่องที่ลำบาก อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้มีทางที่จะแก้ได้แต่ยังไม่รู้ว่าวันใด และรัฐบาลนี้ไม่มีทางแก้ปัญหาสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หากทำให้ปัญหาลดลงก็ถือว่าดีแล้ว

รองนายกรัฐมนตรียอมรับว่ากลัวที่จะได้รับผิดชอบเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เมื่อนายกฯ มอบหมายให้เป็น ผอ.ศปก.กปต.ความกลัวก็ค่อยๆ ลดลง ถ้านายกฯ บอกกันก่อนตนก็จะปฏิเสธ เพราะจะขอปราบยาเสพติด แต่เมื่อรับหน้าที่และทุกอย่างอยู่ในสถานการณ์เรียบร้อยแล้วตนจะลงพื้นที่

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ประชาธิปัตย์ จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า เรื่องนี้มีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย คือ ตำรวจ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ และอัยการ ที่ทั้งหมดทำตามคำสั่งศาล ในเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นในศาลยุติรรม ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

“ถามหน่อยใครกล้าแกล้งนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ ไม่มีหรอก และที่นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์บีบีซี ก็บอกชัดว่ามีการใช้กระสุนจริง ยืนยันไม่มีการแกล้ง และเรื่องนี้ยังอีกหลายขั้นตอน สุดท้ายเขาอาจสั่งไม่ฟ้องก็ได้”

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ที่นายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ รับผิดชอบด้วยนั้น หากนายธาริตทำไม่ถูกต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว และพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องฟ้องอยู่แล้ว ซึ่งคดีอาญาไม่สามารถกลั่นแกล้งกันได้


กำลังโหลดความคิดเห็น