xs
xsm
sm
md
lg

QE4ดันเงินเข้า ธปท.ยันไม่แทรกแซงบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ว่าแบงก์ชาติชี้สหรัฐออก QE4 ดันปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นและอาจส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าเอเชียรวมทั้งไทยมากขึ้น แต่ขอประเมินอีกครั้ง ยันเงินไหลเข้าประเทศใดประเทศหนึ่ง ขึ้นกับศักยภาพการเติบโตเศรษฐกิจมากกว่าส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนการบริหารทุนสำรองฯ ยังคงยึดหลักกลไกตลาด หากไม่จำเป็นไม่แทรกแซงเพราะต้นทุนแพง

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตการรอบใหม่เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน (QE4) แทนมาตรการขายพันธบัตรระยะสั้นและเข้าซื้อพันธบัตระยะยาว (Operation Twist) ที่จะหมดอายุลงว่า ขณะนี้ยังไม่ได้อ่านรายงานการประชุมดังกล่าว แต่ข้อมูลเบื้องต้นเท่าที่เห็นขยายจากการซื้อตราสารหนี้สินเชื่อบ้านเป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาลแทน โดยมีความตั้งใจรักษาระดับดอกเบี้ยตลาดการเงินโดยรวมและเพื่อช่วยแก้ปัญหาจ้างงาน จึงมีโอกาสที่เงินในระบบจะถูกอัดฉีดมากขึ้น ทำให้ปริมาณในระบบการเงินโลกเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายเข้าภูมิภาคเอเชียมากขึ้น

“การออกมาตรการใหม่ของสหรัฐครั้งนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมในแง่ของเศรษฐกิจโลก ส่วนเงินทุนจะไหลเข้าไทยมากน้อยแค่ไหนต้องรอประเมินอีกครั้งหนึ่ง แต่เชื่อว่าสภาพคล่องจะเข้าสู่ระบบมากขึ้น แต่ปัจจัยอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยภูมิภาคเอเชียมีการเติบโตไม่สูงเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามหน้าที่ของเราต้องติดตาม ซึ่งไม่ได้ดูเฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างวันอาทิตย์นี้ทางญี่ปุ่นก็จะมีการเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองที่หลายฝ่ายมองว่าจะชนะเขาก็จะมีนโยบายการเงินผ่อนคลายมากๆ อาจส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าไปอีกได้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม” นายประสารกล่าว

ต่อข้อซักถามที่ว่ามาตรการของสหรัฐที่ออกมาจะมีผลต่อการบริหารเงินทุนสำรองทางการระหว่างประเทศของไทยหรือไม่นั้น ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า แนวคิดของ ธปท.ตั้งแต่ต้นจะไม่ฝืนตลาด เพราะต้นทุนแพง จึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงหากไม่จำเป็น โดยพยายามดูแลตลาดการเงินให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาธนาคารกลางในเอเชียหลายแห่งก็พยายามลดแรงกระแทกจากปัจจัยภายนอก และภาคธุรกิจจริงปรับตัวได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เงินทุนไหลเข้าประเทศใดประเทศหนึ่งไม่ใช่ปัจจัยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายเท่านั้น ขึ้นอยู่กับศักยภาพการเติบโตเศรษฐกิจมากกว่า

ทั้งนี้ ธนาคารกลางอื่นๆ จะมีภารกิจต้องดูแลเสถียรภาพการเงินหรือด้านราคา แต่ธนาคารกลางสหรัฐมีภารกิจอื่นที่ต้องดูแลปัญหาการว่างงานด้วย จึงกลายเป็นรับภารกิจมากเกินไป จึงควรนำมาตรการอื่นเข้ามาช่วย เช่น มาตรการด้านการคลัง ซึ่งสหรัฐก็มีเครื่องมือจำกัดและเมื่อมีภารกิจเช่นนั้นยิ่งส่งผลให้นโยบายผิดแบบหรือผิดตำราไปและอัดฉีดเงินค่อนข้างเยอะ ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 3 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.7% ถือว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นที่ธปท.มองปีหน้าปัญหาการเมืองจะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรว่า ต่างประเทศให้น้ำหนักเรื่องนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยถ้าความไม่สงบเกิดขึ้นก็จะเป็นอุปสรรคเศรษฐกิจหลายด้าน จึงควรเป็นข้อเตือนใจทุกฝ่าย.
กำลังโหลดความคิดเห็น