ผู้แทนการค้าไทย ยุค “โอฬาร”

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -หลังจากปรับคณะรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์ 3”เกือบจะ1 เดือนแล้ว

ได้มีการปรับองคาพยศต่าง ๆ ในรัฐบาล เป็นการมอบหน้าที่ต่าง ๆ ให้คนอกหัก คนใกล้ชิด

เพราะตำแหน่งบางตำแหน่งมีความสำคัญ ทำงานแทน “นายกรัฐมนตรี”ได้

อย่างในภาวะที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เช่น “บุญทรวง เตริยาภิรมย์ ถูกถล่มจากนโยบายรับจำนำข้าว

ทำให้ตำแหน่งผู้แทนการค้าไทย ในรัฐบาลชุดนี้ได้ยื่นมือ หรือเป็นคำสั่งจากใคร พยายามเข้ามาแก้ต่างต่อนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐมนตรีหรือรัฐบาลหลาย ๆครั้ง

ผู้แทนการค้าไทย(ทีทีอาร์) ถือเป็นองค์กรอิสระ จัดตั้งขึ้นเมื่อ 12 มีนาคม พ.ศ. 2545 ในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในระยะแรกได้ดำเนินการขยายการค้าไทย บุกเบิกตลาดใหม่ในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าเจรจา FTA ของไทย

นอกจากนี้ได้ดำเนินการขยายความร่วมมือด้านการลงทุนกับประเทศต่างๆ ทั้งในภูมิภาคเอเซีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป และอเมริกา

ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ในรัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้มีการยุบผู้แทนการค้าไทยไป

จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้จัดตั้งผู้แทนการค้าไทยขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยกำหนดให้มีผู้แทนการค้าไทยจำนวนไม่เกิน 5 คน เพื่อเป็นกลไกในการดำเนินการเสริมสร้างความเป็นเอกภาพ และประสิทธิภาพในการดำเนินตามนโยบายด้านการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ และให้มีสำนักงานผู้แทนการค้าไทย เป็นหน่วยงานสนับสนุนการดำเนินงานของผู้แทนการค้าไทย

“ผู้แทนการค้าไทย” ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมีการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ทรงคุณวุฒิ” เข้ามาทำหน้าที่เป็น “ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี”เพื่อทำหน้าที่ “ผู้แทนการค้าไทย”

มีการแต่งตั้ง เข้าๆออกๆ กันหลายคน เช่น นางนลินี ทวีสิน เข้ามาดำรงตำแหน่ง30 สิงหาคม ปีที่แล้วก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลปู 2

ปัจจุบัน ที่เหลืออยู่ก็มี นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล อดีตรมต.ยุคเพื่อไทย กับ นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ อดีตส.ส.สัดส่วนพลังประชาชน น้องชายของนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดศรีสะเกษ

ขณะที่ นายโอฬาร ไชยประวัติ กระบี่มือหนึ่งด้านเศรษฐกิจผู้ดูแลนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ได้นั่งเป็นประธานผู้แทนการค้าไทยคนปัจจุบัน ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง เมื่อ31 มกราคม พ.ศ. 2555

ส่วนผู้ที่ให้พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งเข้ามาแทน เช่น

“นางลินดา เชิดชัย” สะใภ้นางสุจินดา เชิดชัย เจ้าแม่รถทัวร์ ภรรยานายอัศนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วนเพื่อไทย พ้นจากตำแหน่ง ก็ไปทำงานในพรรคเพื่อไทยแทน
อีกคนแม้ไม่ได้ถูกโยกย้าย อย่างนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย นายวรวีร์ มะกูดี ที่ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้แทนการค้าไทย ไปนั่งในพรรคเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว

มีเสียงร่ำลือว่า ที่”วรวีร์”ลาออกจากผู้แทนการค้าไทย น่าจะสอดคล้องกับกระแสข่าว ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบกรณีรับตำแหน่งผู้แทนการค้าไทย

โดยเฉพาะ การโอนหุ้นไปให้กับบุคคลอื่นของนายวรวีร์ เกิดขึ้นหลังจากนายวรวีร์ เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้แทนการค้าไทย ในรัฐบาล ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา

เกิดขึ้นหลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนการค้าไทย 2 เดือน และการโอนหุ้นอีก 3 บริษัทหลังจากได้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนการคำไทยประมาณ 3 เดือน
ทำให้นายวรวีร์ ต้องลาอกเพื่อเคลียร์ตัวเองก่อน

ส่วนคนที่เข้ามาแทน

นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่โยกมาจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง “ปู2” มาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย

ล่าสุดก็มีชื่อ นางนลินี ทวีสิน เข้ามาเสียบอีกครั้ง ถือเป็นการนั่งตำแหน่งนี้เป็นครั้งที่ 2
ขณะที่ประธานตำแหน่งนี้ ก็ยังเป็น “นายโอฬาร ไชยประวัติ”

ตำแหน่งนี้อุตส่าห์มีการเปลี่ยนระเบียบ ให้มีชื่อยาว ๆ “ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย”

เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับรัฐมนตรีอย่างในอดีต ที่ถูกกล่าวหาว่า ทำงานซ้ำกับหลายหน่วยในกระทรวง พาณิชย์

แต่ปัจจุบัน องค์กรอิสระนี้ กลับกลายมาเป็นองค์กรตามเช็ดคราบไคลให้กับรัฐมนตรี

ล่าสุด! นโยบาย ส่งออกข้าว หาตลาดข้าว นายโอฬาร ไชยประวัติ รับมาทำเองเกือบหมด เพราะเขามีหลายตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้

นอกจากเป็นประธานทีทีอาร์ ยังเป็น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 แท็บเล็ต 1 หรือรองประธานคณะทำงานส่งเสริมการสร้างฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน

นี้ขนาดไมได้เป็นประธานที่ปรึกษานโยบายนายกรัฐมนตรี ที่มีทั้ง นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์" นั่งขั้วอยู่ หรือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งถูกปลดไปเมื่อเร็วๆนี้

เห็นว่า ในช่วงเดือน ม.ค.2556 “ประธานทีทีอาร์”จะนำคณะ นักลงทุนไทยที่อยากไปลงทุนในประ เทศกัมพูชาไปดูลู่ทางการลงทุน โดยจะเดินทางผ่านชายแดนอรัญ ประเทศเข้าสู่ศรีโสภณ เสียมราฐ และพนมเปญ.

หรือล่าสุด! ดูได้จากการเดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักรล่าสุดของนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งที่ให้ผู้แทนการค้าไทย ช่วยหาตลาดข้าว ไม่รู้ว่าเพื่อเป็นการแบ่งเบารัฐมนตรีหรือไม่

จากนโยบายของผู้แทนการค้าไทย ต่อนโยบายส่งออกข้าวของกระทรวงพาณิชย์

ประธานผู้แทนการค้าไทย นำคณะผู้ส่งออกข้าวไทย จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดข้าวไทย Thai Rice &Thai Select เพื่อขยายลู่ทางและโอกาสการขายข้าวคุณภาพสูงของไทย มีการพบปะและหารือกับสมาคมโบรกเกอร์ข้าวของสหราชอาณาจักรที่มีตลาดทั้งในยุโรปและแอฟริกา

จะดีก็ตรงมี “อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ”ในฐานะโฆษกข้าว หรืออธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ติดตามคณะไปด้วย

ส่วนรัฐมนตรีหายจ่อย!