“พาณิชย์” ศึกษาผลดี ผลเสียตั้งไรซ์เทรดโซน ประเดิมร่วมมือกับกัมพูชาก่อน เน้นจังหวัดติดชายแดนสระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตราด จันทบุรี ฉะเชิงเทรา คาดช่วยป้องกันการลักลอบนำเข้าข้าว และดีกว่าปล่อยให้เวียดนามมาซื้อไปขายตัดราคาไทย
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และโฆษกข้าวประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำเขตพิเศษการค้าข้าว (Rice Trade Zone - RTZ) ว่า ไทยจะจัดทำ RTZ กับประเทศกัมพูชาก่อนเป็นประเทศแรก เพื่อจัดทำเป็นต้นแบบสำหรับดำเนินการกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นต่อไป โดยขณะนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการศึกษาผลดี ผลเสียของการจัดทำ RTZ ในแต่ละจังหวัดชายแดนที่ติดกับกัมพูชาทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เช่น สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตราด จันทบุรี ฉะเชิงเทรา เป็นต้น
สาเหตุที่ต้องจัดทำเขตพิเศษดังกล่าวกับกัมพูชาก่อน เป็นเพราะปกติจะมีการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากกัมพูชามาขายในประเทศอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ตลาดข้าวไทยได้รับผลกระทบ ไทยจึงน่าจะหาทางนำเข้าข้าวของกัมพูชามาทำตลาดให้เองเพื่อตัดปัญหาการลักลอบ และยังดีกว่าจะปล่อยให้กัมพูชาขายให้เวียดนาม แล้วเวียดนามก็นำมาขายราคาต่ำแข่งกับข้าวไทยในตลาดโลกจนทำให้ราคาข้าวโลกตกต่ำ
นายสมชาติ สร้อยทอง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การจัดทำเขตพิเศษเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบ เพราะสามารถป้องกันปัญหาการลักลอบนำข้าวจากกัมพูชามาขายในไทย หรือเข้าโครงการรับจำนำเหมือนอย่างที่เป็นข่าว และยังแก้ปัญหาเวียดนามเอาข้าวของกัมพูชามาทำตลาดส่งออก โดยขายในตลาดราคาโลกตัดราคาข้าวไทย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวน่าจะทำให้ปริมาณการส่งออกข้าวจากไทยสูงขึ้น มีเม็ดเงินเข้าประเทศมากขึ้น และราคาข้าวไม่ตกต่ำด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบการจัดตั้งเขตพิเศษการค้าข้าวอาเซียนตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาข้าวในตลาดโลก เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารในภูมิภาคอย่างยั่งยืน และป้องกันการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกับไทย
นายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และโฆษกข้าวประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดทำเขตพิเศษการค้าข้าว (Rice Trade Zone - RTZ) ว่า ไทยจะจัดทำ RTZ กับประเทศกัมพูชาก่อนเป็นประเทศแรก เพื่อจัดทำเป็นต้นแบบสำหรับดำเนินการกับประเทศเพื่อนบ้านอื่นต่อไป โดยขณะนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการศึกษาผลดี ผลเสียของการจัดทำ RTZ ในแต่ละจังหวัดชายแดนที่ติดกับกัมพูชาทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เช่น สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตราด จันทบุรี ฉะเชิงเทรา เป็นต้น
สาเหตุที่ต้องจัดทำเขตพิเศษดังกล่าวกับกัมพูชาก่อน เป็นเพราะปกติจะมีการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกจากกัมพูชามาขายในประเทศอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ตลาดข้าวไทยได้รับผลกระทบ ไทยจึงน่าจะหาทางนำเข้าข้าวของกัมพูชามาทำตลาดให้เองเพื่อตัดปัญหาการลักลอบ และยังดีกว่าจะปล่อยให้กัมพูชาขายให้เวียดนาม แล้วเวียดนามก็นำมาขายราคาต่ำแข่งกับข้าวไทยในตลาดโลกจนทำให้ราคาข้าวโลกตกต่ำ
นายสมชาติ สร้อยทอง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การจัดทำเขตพิเศษเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมข้าวไทยทั้งระบบ เพราะสามารถป้องกันปัญหาการลักลอบนำข้าวจากกัมพูชามาขายในไทย หรือเข้าโครงการรับจำนำเหมือนอย่างที่เป็นข่าว และยังแก้ปัญหาเวียดนามเอาข้าวของกัมพูชามาทำตลาดส่งออก โดยขายในตลาดราคาโลกตัดราคาข้าวไทย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวน่าจะทำให้ปริมาณการส่งออกข้าวจากไทยสูงขึ้น มีเม็ดเงินเข้าประเทศมากขึ้น และราคาข้าวไม่ตกต่ำด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาได้เห็นชอบการจัดตั้งเขตพิเศษการค้าข้าวอาเซียนตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาข้าวในตลาดโลก เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารในภูมิภาคอย่างยั่งยืน และป้องกันการลักลอบนำเข้าข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกับไทย
