กรมการค้าต่างประเทศจัดทำแผนขยายตลาดส่งออกข้าวไทยปี 2556 มุ่งผลักดันการส่งออกข้าวให้เป็นไปตามเป้าหมาย 8.5 ล้านตัน มุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ส่งออกทราบถึงคุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยเพื่อรักษาตลาดเก่าบุกตลาดใหม่
นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในปี 2556 กรมการค้าต่างประเทศได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวไว้ที่ปริมาณ 8.5 ล้านตัน มูลค่า 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 2555 (7.3 ล้านตัน) และมั่นใจได้ว่าข้าวไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเนื่องจากมีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ จากเป้าหมายการส่งออกข้าวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2556 จะเป็นผลมาจากการกำหนดแผนขยายตลาดส่งออกข้าวที่มุ่งแสวงหาตลาดใหม่ๆ เช่น ประเทศในภูมิภาคแอฟริกา อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง เป็นต้น เน้นการประชาสัมพันธ์คุณภาพข้าวไทย โดยการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน รวมทั้งเร่งผลักดันการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และหลายประเทศได้แสดงความสนใจที่จะนำเข้าข้าวจากไทย โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนเดิม เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศในภูมิภาคแอฟริกาด้วย
ในปี 2556 กรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำแผนการตลาดส่งออกข้าว โดยได้บูรณาการแผนงานและร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยทั้งในตลาดเก่าและตลาดใหม่ รวมทั้งจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดข้าวลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าว GI (Geographical Indication) ข้าวสินเหล็ก เป็นต้น ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศยังได้ขยายการประชาสัมพันธ์ให้แพร่หลายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นเพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของข้าวไทยไปทั่วโลก โดยจะดำเนินการผ่านสื่อต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มเผยแพร่ในช่วงเดือนมกราคม 2556 ที่จะถึงนี้ ขณะเดียวกัน กรมการค้าต่างประเทศยังได้ร่วมมือกับภาคเอกชน รวมทั้งสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยทำการขยายตลาดข้าวในตลาดหลักของไทย ทั้งสหรัฐอเมริกา เอเชีย แอฟริกา ยุโรป และจีน โดยในช่วงเวลาอันใกล้นี้กรมการค้าต่างประเทศมีแผนจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางเยือนประเทศฮ่องกง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อร่วมพบปะเจรจาธุรกิจและขยายตลาดข้าวหอมมะลิไทย
นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศเตรียมขยายความร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดตั้งกลไกความร่วมมือด้านตลาดข้าวอาเซียน 5 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า เวียดนาม และไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยที่จะแสดงบทบาทการเป็นผู้นำในตลาดข้าวโลก สร้างความร่วมมือด้านตลาดข้าวของประเทศในอาเซียนให้มีผลเป็นรูปธรรม อันจะช่วยยกระดับราคาข้าวโลกให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ตลอดจนสนับสนุนความมั่นคงทางด้านอาหารของอาเซียนและของโลก ซี่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบ
นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในปี 2556 กรมการค้าต่างประเทศได้กำหนดเป้าหมายการส่งออกข้าวไว้ที่ปริมาณ 8.5 ล้านตัน มูลค่า 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายปี 2555 (7.3 ล้านตัน) และมั่นใจได้ว่าข้าวไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเนื่องจากมีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ จากเป้าหมายการส่งออกข้าวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2556 จะเป็นผลมาจากการกำหนดแผนขยายตลาดส่งออกข้าวที่มุ่งแสวงหาตลาดใหม่ๆ เช่น ประเทศในภูมิภาคแอฟริกา อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง เป็นต้น เน้นการประชาสัมพันธ์คุณภาพข้าวไทย โดยการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน รวมทั้งเร่งผลักดันการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และหลายประเทศได้แสดงความสนใจที่จะนำเข้าข้าวจากไทย โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนเดิม เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมถึงประเทศในภูมิภาคแอฟริกาด้วย
ในปี 2556 กรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำแผนการตลาดส่งออกข้าว โดยได้บูรณาการแผนงานและร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ข้าวไทย โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยทั้งในตลาดเก่าและตลาดใหม่ รวมทั้งจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดข้าวลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าว GI (Geographical Indication) ข้าวสินเหล็ก เป็นต้น ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศยังได้ขยายการประชาสัมพันธ์ให้แพร่หลายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นเพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของข้าวไทยไปทั่วโลก โดยจะดำเนินการผ่านสื่อต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มเผยแพร่ในช่วงเดือนมกราคม 2556 ที่จะถึงนี้ ขณะเดียวกัน กรมการค้าต่างประเทศยังได้ร่วมมือกับภาคเอกชน รวมทั้งสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยทำการขยายตลาดข้าวในตลาดหลักของไทย ทั้งสหรัฐอเมริกา เอเชีย แอฟริกา ยุโรป และจีน โดยในช่วงเวลาอันใกล้นี้กรมการค้าต่างประเทศมีแผนจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนเดินทางเยือนประเทศฮ่องกง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อร่วมพบปะเจรจาธุรกิจและขยายตลาดข้าวหอมมะลิไทย
นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศเตรียมขยายความร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกข้าวเพิ่มมากขึ้น โดยการจัดตั้งกลไกความร่วมมือด้านตลาดข้าวอาเซียน 5 ประเทศ คือ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า เวียดนาม และไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยที่จะแสดงบทบาทการเป็นผู้นำในตลาดข้าวโลก สร้างความร่วมมือด้านตลาดข้าวของประเทศในอาเซียนให้มีผลเป็นรูปธรรม อันจะช่วยยกระดับราคาข้าวโลกให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ตลอดจนสนับสนุนความมั่นคงทางด้านอาหารของอาเซียนและของโลก ซี่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบ