ซักฟอกฟุตซอลโลก “กทม.-เพื่อไทย”สไตล์

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เชื่อว่าหลังจาก ฟุตซอลโลก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และได้ฤกษ์เปิดฉากแข่งขันไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.นี้จะราบรื่นไปด้วยดี

แต่ทางการเมือง เรื่องนี้น่าจะเป็นการเริ่มสาดโคลนเอาชนะคะคานกันมากกว่า ต้องจับตาดูว่ากันตลอด 3-4 สัปดาห์ระหว่างการแข่งขันไปจนถึงนัดชิงชนะเลิศปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ระหว่างประชาธิปัตย์และเพื่อไทย โดยเฉพาะนักการเมืองและผู้สนับสนุนในพื้นที่ กทม. จะออกมาดาหน้า นำเรื่องนี้มาถล่มกันต่อเนื่อง พูดตรงๆก็เหมือนกับเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองกัน ก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ในปีหน้า

เชื่อว่า “สนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า หนองจอก”สนามหลักของการาแข่งขัน จะแล้วเสร็จและผ่านการรับรองจากฟีฟ่าแน่ๆ ด้วยกลยุทธเหนือชั้นของ กทม. แม้ “ฟีฟ่า”จะขอให้ลดจำนวนที่นั่งจาก 12,000 ที่เป็น 10,000 ที่ พร้อมติดตั้งพื้นสนามและปรับแต่งอย่างสวยงาม

ด้วยงบประมาณและฝีมือ“กทม.สไตล์”

ก็เพราะมีการฟาดงวงฟาดงากันของ 2 พรรคใหญ่ ในเรื่องของความล่าช้าของงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลเพื่อให้ กทม.ใช้เนรมิตสนาม ทำให้ไม่ทันกำหนดใช้เป็นสนามเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 1 พ.ย.55 ตามที่ กทม.ตั้งใจไว้

ฝ่ายตรงข้ามกทม.อกมาอ้างว่า ที่ไม่ทันเพราะทุจริต คอรัปชั่นในกทม.หรือเปล่า หรือเพราะมัวแต่ช้าเพราะอะไร ขณะที่กทม. ก็อ้างว่า โครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลล่าช้า เพราะเหตุฝนตกต่อเนื่องตลอดเดือนสิงหาคม กันยายนถึงตุลาคม

แต่ล่าสุดมีการเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊คของ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่า กทม. เมื่อวันที่ 28 ต.ค. มีการโพตส์ข้อความพร้อมนำเอกสารฉบับหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่หรือเป็นข้ออ้างของกทม. ที่ระบุว่า

“วันนี้ได้รับเอกสารวิชามารจากข้าราชการที่ส่งไปประสานกับทางกงสุลที่ประเทศจีนเรื่องพื้นสนามฟุตซอลมา ขอตรวจสอบยืนยันจากทางกงสุลและให้นักข่าวได้ลงเตะทดสอบสนามหนองจอก“บางกอก ฟุตซอล อารีน่า หนองจอก” Bangkok Futsal Arena ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ ก่อนเพราะเรื่องนี้ถ้าจริงถือว่าเลวมากที่กล้าทำร้ายประเทศเพื่อแค่หวังให้สนามกทม.ไม่มีพื้นสนามแข่งครับ แต่ผู้ว่าได้สั่งการให้สั่งของจากอีกสามประเทศมาแก้ปัญหาแล้วครับ”

วันรุ่งขึ้น 30 ต.ค. นายธีระชน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกว่า กรณีตั้งข้อสงสัยเอกสารการส่งสินค้าเป็นพื้นสนามฟุตซอล ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่แจ้งยืนยันว่าสินค้าดังกล่าวส่งถึง กทม. ตั้งนานแล้ว ประมาณวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่เหตุใดพื้นที่จะใช้ทำสนามการแข่งขันฟุตซอล ที่ศูนย์กีฬาหนองจอก ถึงได้ถูกส่งไปที่เมืองกวางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนแทน ทำให้การก่อสร้างฟุตซอลของ กทม.ล่าช้า ทั้งนี้ หากเป็นความจริง ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเกี่ยวข้องกับนักการเมืองคนใดคนหนึ่ง และเรื่องคงต้องถึง ป.ป.ช.แน่ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับประเทศ คงต้องรอเอกสารยืนยันจาก Connor ผู้ผลิตพื้นสนามส่งตรงจากรัฐอิลินอย สหรัฐอเมริกามาถึงก่อน ความจริงจะได้ปรากฏ

31ต.ค. เขาโพตส์อีกว่า“ได้รับเอกสารยืนยันจากผู้ผลิตพื้นฟุตซอลและทางพรรครับทราบแล้วครับ”
พร้อมมีข้อความต่อท้าย “ผู้ใหญ่ขออย่าเพิ่งเปิดเผยเพราะสามารถใช้เป็นเอกสารสำคัญในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา ยิ่งไปกว่านั้นคือตรวจสอบพบความเชื่อมโยงกับบุคคลหลายคนบางคนเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวรัฐมนตรีบอกตรงๆเห็นเอกสารแล้วเศร้าใจมาก ที่มีผู้เกี่ยวข้องเรื่องนี้เป็นคนไทยและบริษัทไทยแต่กล้าทำร้ายประเทศชาติได้ขนาดนี้ เรื่องนี้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการกีฬาระดับประเทศอย่างแน่นอนครับ”

ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษานายธีระชน ออกมาแถลงข่าวย้ำเรื่องนี้ว่า

กทม.ได้รับใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice) ซึ่งเป็นเอกสารที่ผู้ส่งออกได้แก่ บริษัท CONNOR ตั้งอยู่ที่รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นไม้ฟุตซอลสำเร็จรูป ซึ่งจะนำมาใช้ปูพื้นที่สนามฟุตซอล หนองจอก โดยผู้รับเหมาคือ บริษัท อี เอ็ม ซี จำกัด (มหาชน) คู่สัญญากับกทม.ได้ว่าจ้างบริษัท ซีวิล มาสเตอร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้จัดซื้อจากบริษัท CONNOR ซึ่งในใบกำกับสินค้าได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ทางบริษัทผู้ผลิตได้จัดส่งสินค้ามาจากต้นทางประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. และมีการระบุอย่างชัดเจนว่า พื้นไม้สำเร็จรูปทาสีเสร็จเรียบร้อยตามมาตรฐานของฟีฟ่าจำนวน 1,242 ตารางเมตร ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับสนามฟุตซอลหนองจอกของกทม.เท่านั้น ส่งตรงปลายทางที่ท่าเรือกรุงเทพฯ (คลองเตย) ไม่ต้องไปผ่านที่ท่าเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน และต้องปรับแต่งทาสีใหม่แต่อย่างใดตามที่ได้มีการกล่าวอ้างมาก่อนหน้านี้

เขาตั้งข้อสังเกตว่า เป็นที่น่าประหลาดใจเมื่อได้มีการสั่งซื้อพื้นสนามฟุตซอลสำเร็จรูปเช่นเดียวกับกทม.เพื่อนำมาติดตั้งที่สนามอินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก ซึ่งมีการสั่งไปเมื่อวันที่ 5 ก.ย. และได้รับสินค้าเมื่อประมาณวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่กทม.สั่งไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. แต่กลับไม่ได้รับและติดปัญหาต่างๆนานา อย่างไรก็ตาม กทม.ได้สั่งซื้อพื้นสนามฟุตซอลจากประเทศอื่นและจะดำเนินการติดตั้งได้แล้วเสร็จภายใน 2 วันนี้

กทม.ยังอ้างว่า จากการตรวจสอบบริษัทผู้สั่งซื้อพื้นสนามฟุตซอลสำเร็จรูป คือบริษัท ซีวิล มาสเตอร์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 96 ชั้น 2 ซอยรัชดาภิเษก 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. จดทะเบียนวันที่ 14 สิงหาคม 2539 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาทถ้วน และพบว่า 1 ใน 3 ของกรรมการบริษัทปรากฎชื่อของที่ปรึกษาส่วนตัวของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบัน และ ยังเคยร่วมประชุมแก้ไขปัญหาน้ำท่วมปี 2554 กับ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)

เมื่อปูดเรื่องนี้ออกมาเข้าใจว่า ฝ่ายการเมืองของกทม.จะชงทั้งเรื่องของงบประมาณที่มีการตังข้อสังเกตว่า ตั้งมาให้กทม.เพียง 1 ล้านบาท จนกทม.ต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงงบประมาณแทน ตลอดจนปัญหาพื้นสนามฟุตซอลที่อาจจะเกี่ยวพันกับคนใกล้ชิดรัฐมนตรีให้“รัฐมนตรีเงา” ฝั่งกทม.จับประเด็นฟุตซอล มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้แน่นอน

เพราะก่อนหน้านั้น กทม.ก็ออกมาอ้างว่า โครงการก่อสร้างสนามที่มีความจุ 12,000 ที่นั่ง รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อนุมัติหลักการเมื่อปี 2553 สนับสนุนงบประมาณให้ กทม.ดำเนินการ โดยตั้งกรอบวงเงินงบประมาณไว้ 1,200 กว่าล้านบาท

กทม.ถล่มซ้ำว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับจัดงสรรงบแค่ 1 ล้านบาท และเพิ่งอนุมัติเอาปลายเดือนธันวาคม 2554 เหลือเวลาให้ก่อสร้างแค่ 300 วัน แล้วจะสร้างทันได้ยังไง

ส่วนอีกฝาก พรรคเพื่อไทย อ้างว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เข้ารับตำแหน่ง เดือนสิงหาคม 2554

โดยมีการอ้างว่า ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2553 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างสนามกีฬาเป็นจำนวน 1,239 ล้านบาทและได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีเป็นผู้ออกแบบสนาม และได้ลงนามสัญญาการก่อสร้างเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555 กับบริษัท อีเอ็มซี จำกัด(มหาชน) โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตรได้ส่งหนังสือถึงสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติว่าสนามกีฬามีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "บางกอกฟุตซอลอารีนา" ไปแล้ว

ซึ่งทั้งหมดเป็นการดำเนินการในปี 2553 ระยะเวลา 900 วัน กทม.ก็น่าจะสร้างทันแน่
มีการกล่าวหาไปทาง กทม.ว่า “เป็นการคอรัปชั่นมากกว่า”จนทำให้สนามสร้างไม่เสร็จ หรือกทม.ฮั้วกับเอกชน

ขณะที่ “พานทองแท้ ชินวัตร” บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาโพสต์ว่า ผู้ว่า กทม.ใจเย็นจนดำเนินการล่าช้า เพราะกทม.เพิ่งดำเนินการก่อสร้างได้เมื่อวันที่ 24 มกราคม

ขณะที่ตัวละครอีก 2 ตัว โดยเฉพาะ “นายวรวีร์ มะกูดี” นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือ “นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานอำนวยการจัดการแข่งขัน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการและประสานงาน ก็ถูกจับผิดจากกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา โดยกล่าวหาว่าสมาคมฟุตบอลฯ ไปเปลี่ยนแปลงตามมติครม.ในวันที่ 5 เมษายน 2553 ที่ยืนยันให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นฝ่ายประสานการดำเนินการกับหน่วยงานอื่น จนทำให้เกิดความเสียหาย

ทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ต่อเรื่องนี้ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ น่าติดตามยิ่งนัก