วานนี้ (30 ต.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ที่ประชุมได้มีการหยิบยกคำร้องทั้ง 3 คำร้อง ที่กลุ่มกรีน สหภาพทีโอที และ กลุ่มส.ว. ยื่นขอให้ผู้ตรวจการฯ ตรวจสอบการประมูลคลื่นความถี่ 3 จี ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งทางผู้ตรวจการฯได้มอบหมายให้สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไปพิจารณาใหม่ เนื่องจากว่า มีคำร้องเพิ่มเติมมาอีก 2 คำร้อง นอกเหนือจากกลุ่มกรีนส่งเข้ามา โดยทางสหภาพทีโอที และ กลุ่มส.ว. จึงให้นำกลับไปดูให้ครบถ้วนทุกประเด็น เพราะเห็นว่าเป็นประเด็นคำร้องเดียวกัน พร้อมกับกำชับให้เร่งรัดในการตรวจสอบให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากทางผู้ตรวจการฯ ได้ตระหนักถึงเงื่อนเวลาที่จะรับรองใบอนุญาตการประมูล 3 จี
เมื่อถามว่า หลัจากที่พิจารณาคำร้องของทีโอทีแล้ว ยังต้อขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก กสทช.หรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าเป็นคนละประเด็นกับคำร้องอื่น นายรักษเกชา กล่าวว่า ทางคณะกรรมการฯ จะต้องไปดูก่อน ว่าคำชี้แจงของกสทช. ที่ชี้แจงมานั้นครอบคลุมถึงหรือไม่ ถ้าไม่พิจารณาแล้วจำเป็นต้องขอ ก็อาจจะต้องให้กสทช. ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาก็ได้ แต่ทั้งนี้ ต้องดูเนื้อหาของคำร้องอีกครั้งว่าเป็นประเด็นเดียวกันหรือไม่ แต่เบื้องต้นเห็นว่าเป็นการร้องในกรณีเดียวกัน และเพื่อความรวดเร็วจึงนำมาพิจารณารวมกัน ซึ่งขณะนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ว่า จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมอีกครั้งเมื่อใด แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจะพิจารณาได้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 1-2 วันนี้ตามกรอบปกติที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งระหว่างนี้ หากสำนักงานผู้ตรวจการฯ ตรวจสอบข้อมูลแล้วเสร็จ ทางผู้ตรวจการฯสามารถหยิบยกเรื่องดังกล่าวพิจารณาได้ทันที ก่อนที่จะมีการประชุมประจำสัปดาห์ในวันอังคารหน้า ถ้าเห็นว่าผู้ตรวจการฯ ว่างตรงกันไม่มีภารกิจอื่น อย่างไรก็ตามเชื่อว่า น่าจะได้ข้อยุติก่อนที่ กสทช. จะรับรองใบอนุญาตการประมูล 3 จี
เมื่อถามว่า นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาระบุว่า จะเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 8 พ.ย. นั้น นายรักษเกชา กล่าวว่า ถือเป็นการเร่งรัดทางสำนักงานให้รวบรวมเอกสาร และตรวจสอบโดยเร็ว แต่อาจจะพิจารณาแล้วเสร็จก่อนวันที่ 8 พ.ย.ก็เป็นได้ เนื่องจากนางผาณิต มีภารกิจได้รับเลือกเป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเอเชีย ซึ่งจะต้องเดินทางไปประชุมที่ประเทศนิวซีแลนด์ แต่แม้ว่าจะไม่มีภารกิจ ผู้ตรวจการฯ ก็จะต้องเร่งรัดตรวจสอบโดยเร็ว
เมื่อถามว่า หากพิจารณาแล้วพบว่า มีปัญหาตามคำร้อง จะมีแนวทางอย่างไรบ้าง นายรักษเกชา กล่าวว่า โดยหลักการหากพบเรื่องดังกล่าวผิดจริง ทางผู้ตรวจการฯ จะทำข้อเสนอแนะไปยังกสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการแก้ไข ซึ่งหาก กสทช.ไม่ปฏิบัติ ทางผู้ตรวจการฯ ก็จะส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีรับทราบ หรือหากพบว่าการดำเนินการของกสทช. ขัดต่อ พ.ร.บ. หรือหลักกฎหมาย ทางผู้ตรวจการฯ ก็จะมีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้
นอกจากนี้ หากเรื่องดังกล่าวผิดระเบียบ หรือคำสั่งทางปกครอง ทางผู้ตรวจการฯ จะส่งเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณาต่อไป แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เร่งด่วนด้วยเงื่อนเวลาทางผู้ตรวจการฯเอง ท่านก็ตระหนักและจะเร่งพิจารณาให้โดยเร็ว เพราะฉะนั้นเราต้องดูให้รอบคอบ เพราะยื่นมาส่งไปหากศาลไม่รับ ก็ส่งผลเสียถึงผู้ตรวจการฯได้
เมื่อถามว่า หลัจากที่พิจารณาคำร้องของทีโอทีแล้ว ยังต้อขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก กสทช.หรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าเป็นคนละประเด็นกับคำร้องอื่น นายรักษเกชา กล่าวว่า ทางคณะกรรมการฯ จะต้องไปดูก่อน ว่าคำชี้แจงของกสทช. ที่ชี้แจงมานั้นครอบคลุมถึงหรือไม่ ถ้าไม่พิจารณาแล้วจำเป็นต้องขอ ก็อาจจะต้องให้กสทช. ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาก็ได้ แต่ทั้งนี้ ต้องดูเนื้อหาของคำร้องอีกครั้งว่าเป็นประเด็นเดียวกันหรือไม่ แต่เบื้องต้นเห็นว่าเป็นการร้องในกรณีเดียวกัน และเพื่อความรวดเร็วจึงนำมาพิจารณารวมกัน ซึ่งขณะนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ว่า จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมอีกครั้งเมื่อใด แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจะพิจารณาได้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 1-2 วันนี้ตามกรอบปกติที่เคยปฏิบัติมา ซึ่งระหว่างนี้ หากสำนักงานผู้ตรวจการฯ ตรวจสอบข้อมูลแล้วเสร็จ ทางผู้ตรวจการฯสามารถหยิบยกเรื่องดังกล่าวพิจารณาได้ทันที ก่อนที่จะมีการประชุมประจำสัปดาห์ในวันอังคารหน้า ถ้าเห็นว่าผู้ตรวจการฯ ว่างตรงกันไม่มีภารกิจอื่น อย่างไรก็ตามเชื่อว่า น่าจะได้ข้อยุติก่อนที่ กสทช. จะรับรองใบอนุญาตการประมูล 3 จี
เมื่อถามว่า นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาระบุว่า จะเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 8 พ.ย. นั้น นายรักษเกชา กล่าวว่า ถือเป็นการเร่งรัดทางสำนักงานให้รวบรวมเอกสาร และตรวจสอบโดยเร็ว แต่อาจจะพิจารณาแล้วเสร็จก่อนวันที่ 8 พ.ย.ก็เป็นได้ เนื่องจากนางผาณิต มีภารกิจได้รับเลือกเป็นประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเอเชีย ซึ่งจะต้องเดินทางไปประชุมที่ประเทศนิวซีแลนด์ แต่แม้ว่าจะไม่มีภารกิจ ผู้ตรวจการฯ ก็จะต้องเร่งรัดตรวจสอบโดยเร็ว
เมื่อถามว่า หากพิจารณาแล้วพบว่า มีปัญหาตามคำร้อง จะมีแนวทางอย่างไรบ้าง นายรักษเกชา กล่าวว่า โดยหลักการหากพบเรื่องดังกล่าวผิดจริง ทางผู้ตรวจการฯ จะทำข้อเสนอแนะไปยังกสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการแก้ไข ซึ่งหาก กสทช.ไม่ปฏิบัติ ทางผู้ตรวจการฯ ก็จะส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีรับทราบ หรือหากพบว่าการดำเนินการของกสทช. ขัดต่อ พ.ร.บ. หรือหลักกฎหมาย ทางผู้ตรวจการฯ ก็จะมีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้
นอกจากนี้ หากเรื่องดังกล่าวผิดระเบียบ หรือคำสั่งทางปกครอง ทางผู้ตรวจการฯ จะส่งเรื่องให้ศาลปกครองพิจารณาต่อไป แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เร่งด่วนด้วยเงื่อนเวลาทางผู้ตรวจการฯเอง ท่านก็ตระหนักและจะเร่งพิจารณาให้โดยเร็ว เพราะฉะนั้นเราต้องดูให้รอบคอบ เพราะยื่นมาส่งไปหากศาลไม่รับ ก็ส่งผลเสียถึงผู้ตรวจการฯได้