เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือตัวแทนหุ่นเชิดของทักษิณ ชินวัตร หรือเป็นเสียยิ่งกว่าหุ่นเชิด โดยทักษิณ ยอมรับว่าเป็นรัฐบาล “โคลนนิ่งของทักษิณ” เรียกว่าถ่ายทอดสำเนาพันธุกรรมมาจากทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง การเกิดขึ้นของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเสียงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ก็คือการฟื้นอำนาจของระบอบทักษิณกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากถูกคลื่นประชามหาชนภายใต้การนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สามัคคีกันขับไล่ให้พ้นจากอำนาจมาแล้วระหว่างปี พ.ศ. 2549 ถึง พ.ศ. 2551 โดยการยืนหยัดสามัคคีกันต่อสู้ของประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยอย่างเข้มแข็ง กล้าหาญ กล้าเสียสละ อันเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่ประชาชนชาวไทยทั้งหลายทราบดี
“ระบอบทักษิณ” เป็นระบอบการเมืองอันสามานย์ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของชาติไทย นั่นคือระบอบทักษิณ เป็นระบอบการเมืองที่โกงทั้งโคตร หรือโคตรโกง ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อตนเองและพวกพ้อง แทรกแซง ครอบงำ สภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ทำลายองค์กรอิสระและขบวนการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฯลฯ ครอบงำสื่อและซื้อสื่อเป็นเครื่องมือรับใช้อำนาจตน ทำลายกองทัพและกลไกข้าราชการ เปลี่ยนจากการเป็นข้าของแผ่นดินให้กลายเป็นสมุนรับใช้ระบอบทักษิณ สร้างทัศนคติให้ข้าราชการทั้งหลายกล้าทำความชั่ว รับใช้อำนาจการเมือง ทรยศประชาชน เนรคุณแผ่นดิน ทำชั่วรับใช้ทักษิณจะได้ดีทุกคน
นอกจากนี้ยังมอมเมาประชาชนด้วยนโยบายประชานิยมที่สามานย์และบ้าคลั่ง ขอเพียงให้ได้คะแนนเสียง ประเทศชาติล่มจมย่อยยับไม่เป็นไร ขอให้ชาติตระกูลของทักษิณร่ำรวยเป็นพอ และยังสร้างความแตกแยกแบ่งฝ่ายให้เกิดขึ้นในสังคมและในหมู่ประชาชนทั้งหลายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้ระบอบทักษิณจะถูกโค่นล้มอำนาจไปเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่ระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายนี้ ก็ยังมิได้ล้มหายตายไปจากประเทศไทย ยังมิได้ถูกกวาดล้างทำลายให้สิ้นซาก เหตุเพราะความล้มเหลวและความไม่เด็ดขาดของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฯ และรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ไม่เข้าใจและไม่ตระหนักถึงความชั่วร้ายอันอำมหิตของระบอบทักษิณ ที่กระทำต่อประเทศชาติและประชาชน ประกอบกับความไร้เดียงสาของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ยอมเดินหน้าล้างระบอบทักษิณ แต่กลับแอบจูบปาก จับมือประนีประนอมกับระบอบทักษิณอย่างไม่น่าให้อภัย ทั้งๆ ที่มีพลังสนับสนุนและการต่อสู้อันเข้มแข็งของมวลมหาประชาชนเป็นกำแพงเหล็กหนุนหลัง แต่บรรดาขุนนางที่ได้อำนาจรัฐ และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ กลับทำลายพลังและการต่อสู้ของประชาชนเหล่านั้นเสีย
ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเปิดช่องทางและโอกาสให้ระบอบทักษิณ กลับฟื้นอำนาจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง บนความอ่อนแอของสังคมไทย ท่ามกลางความเหนื่อยล้าของกลุ่มพลังทางสังคมต่างๆ ทำให้ระบอบทักษิณเหิมเกริมในอำนาจ สร้างปัญหาและก่อความเสียหายร้ายแรงต่อชาติบ้านเมืองหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม เป็นภาระหนักอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยทั้งหลาย
ระบอบทักษิณ เป็นภาพสะท้อนของระบอบการเมืองไทยในปัจจุบัน เป็นตัวแทนของระบอบการเมืองไทยที่ใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือบังหน้า และถือได้ว่าเป็นพัฒนาการแห่งความชั่วร้ายสูงสุดของระบอบการเมืองไทย ที่ไม่มีนักการเมืองและพรรคการเมืองใดในระบอบการเมืองปัจจุบันคิดจะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนรอดพ้นจากระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายนี้ การสลับสับเปลี่ยนขั้วการเมืองระหว่างเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นรัฐบาลเป็นบทพิสูจน์แล้วว่ามิใช่การแก้ไขปัญหา กลับเป็นการตอกย้ำและชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการเมืองไทยในปัจจุบันที่ไร้อนาคตและความหวังโดยสิ้นเชิง
ประเทศและประชาชนยังต้องเผชิญหน้าและจมปลักอยู่กับระบอบทักษิณ ด้วยความคับแค้นและขมขื่นในจิตใจ ทุกๆ วันระบอบทักษิณ โดยการเชิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ยิ่งสำแดงเดชแห่งความชั่วร้ายของตนให้ประชาชนได้เห็น แต่ด้วยเล่ห์เพทุบายการโฆษณาชวนเชื่อ ใช้สื่อเป็นเครื่องมือสร้างภาพ กลบเกลื่อนและปกปิดความชั่วร้าย อาจทำให้ประชาชนบางส่วนคล้อยตามและหลงเชื่อ ยอมจำนนชั่วขณะได้
พี่น้องประชาชนผู้รักชาติทั้งหลาย ระบอบทักษิณคือระบอบการเมืองที่มีทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี นักการเมืองที่ลุแก่อำนาจ ถูกศาลพิพากษา ว่าประพฤติมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติโกงหรือทุจริตนั่นเอง เป็นผู้รวมศูนย์อำนาจ ชักใยและบงการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ครอบงำอำนาจการเมืองไทย สร้างความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน การได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองของเขาก็ด้วยการเหยียบย่ำไปบนกองเลือดและชีวิตของประชาชน ด้วยการเผาผลาญและทำลายประเทศชาติ และความโหดร้ายอำมหิตผิดมนุษย์ที่กระทำต่อประชาชนร่วมชาติ เราต้องไม่ลืมว่านับแต่ระบอบทักษิณอุบัติขึ้น ในประเทศไทยเขามาพร้อมกับความชั่วร้ายคือ
1. ทำลายระบอบประชาธิปไตยสร้างพรรคการเมืองของคนคนเดียว คนเดียวมีอำนาจทุกอย่างในพรรค โกงเลือกตั้ง ทำผิดรัฐธรรมนูญจนศาลสั่งยุบพรรค และจำคุกกรรมการการเลือกตั้ง 2. ใช้นโยบายประชานิยมหาเสียง แต่ผลาญชาติ ผลาญเงินภาษีประชาชนเพื่อตนเอง 3. อำมหิตกับประชาชน ฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติด 2,500 ศพ โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ก่อกรณีสังหารพี่น้องมุสลิม กรณีกรือเซะ ตากใบ และอุ้มทนายสมชาย จุดไฟใต้จนกลายเป็นสงครามทำลายความสงบสุขถึงปัจจุบัน
4. พันธมิตรฯ ชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย คัดค้านการบริหารการใช้อำนาจไม่ชอบ ถูกลอบทำร้ายและสังหารเข่นฆ่าบาดเจ็บล้มตายและพิการจำนวนมาก 5. ยุยงปลุกปั่นให้คนเสื้อแดงก่อจลาจลเผาบ้านเมือง ทำลายทรัพย์สินราชการ สังหารเจ้าหน้าที่ ทำลายทรัพย์สินเอกชน หลอกคนเสื้อแดงไปตายเพื่อฟื้นอำนาจของตน 6. รัฐบาลทักษิณ โดยยิ่งลักษณ์ ตัวแทนหุ่นเชิด บริหารบ้านเมืองโดยทุจริต คอร์รัปชัน หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม
7. สนับสนุนส่งเสริมขบวนการ ล้มล้างและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เติบโตเข้มแข็งโดยไม่หยุดยั้ง 8. ทำลายกระบวนการยุติธรรม ล้มล้างหลักนิติรัฐ ทักษิณกับพวกทำตัวอยู่เหนือหลักกฎหมาย 9. ทำลายระบบราชการ เปลี่ยนข้าราชการให้เป็นสมุนรับใช้ระบอบทักษิณ ไม่ยึดถือระบบคุณธรรมความสามารถ 10. สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เลือกปฏิบัติ หากไม่ใช่คนเสื้อแดงหรือพวกของรัฐบาลก็ไร้การเหลียวแลเอาใจใส่ หรือกลั่นแกล้งทำร้าย
พฤติกรรมและความชั่วร้ายทั้งหลายที่มีและเกิดขึ้นในรัฐบาลยุคทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไร ยุครัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ ยิ่งหนักหน่วง มิแตกต่าง กลับขยายตัวมากยิ่งขึ้น จึงเป็นภารกิจของประชาชนคนไทยทั้งชาติ ที่จะต้องสามัคคีและร่วมมือกัน เพื่อขับไล่และกำจัดระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายนี้เสีย เราไม่อาจพึ่งนักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ได้ พวกเขาไม่อาจเป็นผู้นำการต่อสู้ได้ เป็นได้เพียงแนวร่วมชั่วคราวเท่านั้น
หากประชาชนทั้งหลายต้องการหลุดพ้นจากระบอบทักษิณ ระบอบการเมืองแห่งความเลวร้ายและสามานย์ที่สุดนี้ เพื่อสถาปนาระบอบการเมืองใหม่ของประชาชนโดยแท้จริงแล้ว ประชาชนทั้งหลายต้องสามัคคีกันโค่นล้มระบอบทักษิณโดยพลังของประชาชน เวลาแห่งการลุกขึ้นสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศมาถึงแล้ว ประชาชนทั้งหลายจงกล้าหาญ และกล้าตัดสินใจ
“ระบอบทักษิณ” เป็นระบอบการเมืองอันสามานย์ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของชาติไทย นั่นคือระบอบทักษิณ เป็นระบอบการเมืองที่โกงทั้งโคตร หรือโคตรโกง ใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อตนเองและพวกพ้อง แทรกแซง ครอบงำ สภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ทำลายองค์กรอิสระและขบวนการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฯลฯ ครอบงำสื่อและซื้อสื่อเป็นเครื่องมือรับใช้อำนาจตน ทำลายกองทัพและกลไกข้าราชการ เปลี่ยนจากการเป็นข้าของแผ่นดินให้กลายเป็นสมุนรับใช้ระบอบทักษิณ สร้างทัศนคติให้ข้าราชการทั้งหลายกล้าทำความชั่ว รับใช้อำนาจการเมือง ทรยศประชาชน เนรคุณแผ่นดิน ทำชั่วรับใช้ทักษิณจะได้ดีทุกคน
นอกจากนี้ยังมอมเมาประชาชนด้วยนโยบายประชานิยมที่สามานย์และบ้าคลั่ง ขอเพียงให้ได้คะแนนเสียง ประเทศชาติล่มจมย่อยยับไม่เป็นไร ขอให้ชาติตระกูลของทักษิณร่ำรวยเป็นพอ และยังสร้างความแตกแยกแบ่งฝ่ายให้เกิดขึ้นในสังคมและในหมู่ประชาชนทั้งหลายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้ระบอบทักษิณจะถูกโค่นล้มอำนาจไปเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่ระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายนี้ ก็ยังมิได้ล้มหายตายไปจากประเทศไทย ยังมิได้ถูกกวาดล้างทำลายให้สิ้นซาก เหตุเพราะความล้มเหลวและความไม่เด็ดขาดของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฯ และรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ไม่เข้าใจและไม่ตระหนักถึงความชั่วร้ายอันอำมหิตของระบอบทักษิณ ที่กระทำต่อประเทศชาติและประชาชน ประกอบกับความไร้เดียงสาของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ยอมเดินหน้าล้างระบอบทักษิณ แต่กลับแอบจูบปาก จับมือประนีประนอมกับระบอบทักษิณอย่างไม่น่าให้อภัย ทั้งๆ ที่มีพลังสนับสนุนและการต่อสู้อันเข้มแข็งของมวลมหาประชาชนเป็นกำแพงเหล็กหนุนหลัง แต่บรรดาขุนนางที่ได้อำนาจรัฐ และรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ กลับทำลายพลังและการต่อสู้ของประชาชนเหล่านั้นเสีย
ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเปิดช่องทางและโอกาสให้ระบอบทักษิณ กลับฟื้นอำนาจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง บนความอ่อนแอของสังคมไทย ท่ามกลางความเหนื่อยล้าของกลุ่มพลังทางสังคมต่างๆ ทำให้ระบอบทักษิณเหิมเกริมในอำนาจ สร้างปัญหาและก่อความเสียหายร้ายแรงต่อชาติบ้านเมืองหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม เป็นภาระหนักอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยทั้งหลาย
ระบอบทักษิณ เป็นภาพสะท้อนของระบอบการเมืองไทยในปัจจุบัน เป็นตัวแทนของระบอบการเมืองไทยที่ใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือบังหน้า และถือได้ว่าเป็นพัฒนาการแห่งความชั่วร้ายสูงสุดของระบอบการเมืองไทย ที่ไม่มีนักการเมืองและพรรคการเมืองใดในระบอบการเมืองปัจจุบันคิดจะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนรอดพ้นจากระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายนี้ การสลับสับเปลี่ยนขั้วการเมืองระหว่างเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นรัฐบาลเป็นบทพิสูจน์แล้วว่ามิใช่การแก้ไขปัญหา กลับเป็นการตอกย้ำและชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการเมืองไทยในปัจจุบันที่ไร้อนาคตและความหวังโดยสิ้นเชิง
ประเทศและประชาชนยังต้องเผชิญหน้าและจมปลักอยู่กับระบอบทักษิณ ด้วยความคับแค้นและขมขื่นในจิตใจ ทุกๆ วันระบอบทักษิณ โดยการเชิดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ยิ่งสำแดงเดชแห่งความชั่วร้ายของตนให้ประชาชนได้เห็น แต่ด้วยเล่ห์เพทุบายการโฆษณาชวนเชื่อ ใช้สื่อเป็นเครื่องมือสร้างภาพ กลบเกลื่อนและปกปิดความชั่วร้าย อาจทำให้ประชาชนบางส่วนคล้อยตามและหลงเชื่อ ยอมจำนนชั่วขณะได้
พี่น้องประชาชนผู้รักชาติทั้งหลาย ระบอบทักษิณคือระบอบการเมืองที่มีทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี นักการเมืองที่ลุแก่อำนาจ ถูกศาลพิพากษา ว่าประพฤติมิชอบ ร่ำรวยผิดปกติโกงหรือทุจริตนั่นเอง เป็นผู้รวมศูนย์อำนาจ ชักใยและบงการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ครอบงำอำนาจการเมืองไทย สร้างความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน การได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองของเขาก็ด้วยการเหยียบย่ำไปบนกองเลือดและชีวิตของประชาชน ด้วยการเผาผลาญและทำลายประเทศชาติ และความโหดร้ายอำมหิตผิดมนุษย์ที่กระทำต่อประชาชนร่วมชาติ เราต้องไม่ลืมว่านับแต่ระบอบทักษิณอุบัติขึ้น ในประเทศไทยเขามาพร้อมกับความชั่วร้ายคือ
1. ทำลายระบอบประชาธิปไตยสร้างพรรคการเมืองของคนคนเดียว คนเดียวมีอำนาจทุกอย่างในพรรค โกงเลือกตั้ง ทำผิดรัฐธรรมนูญจนศาลสั่งยุบพรรค และจำคุกกรรมการการเลือกตั้ง 2. ใช้นโยบายประชานิยมหาเสียง แต่ผลาญชาติ ผลาญเงินภาษีประชาชนเพื่อตนเอง 3. อำมหิตกับประชาชน ฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติด 2,500 ศพ โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ก่อกรณีสังหารพี่น้องมุสลิม กรณีกรือเซะ ตากใบ และอุ้มทนายสมชาย จุดไฟใต้จนกลายเป็นสงครามทำลายความสงบสุขถึงปัจจุบัน
4. พันธมิตรฯ ชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย คัดค้านการบริหารการใช้อำนาจไม่ชอบ ถูกลอบทำร้ายและสังหารเข่นฆ่าบาดเจ็บล้มตายและพิการจำนวนมาก 5. ยุยงปลุกปั่นให้คนเสื้อแดงก่อจลาจลเผาบ้านเมือง ทำลายทรัพย์สินราชการ สังหารเจ้าหน้าที่ ทำลายทรัพย์สินเอกชน หลอกคนเสื้อแดงไปตายเพื่อฟื้นอำนาจของตน 6. รัฐบาลทักษิณ โดยยิ่งลักษณ์ ตัวแทนหุ่นเชิด บริหารบ้านเมืองโดยทุจริต คอร์รัปชัน หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม
7. สนับสนุนส่งเสริมขบวนการ ล้มล้างและทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เติบโตเข้มแข็งโดยไม่หยุดยั้ง 8. ทำลายกระบวนการยุติธรรม ล้มล้างหลักนิติรัฐ ทักษิณกับพวกทำตัวอยู่เหนือหลักกฎหมาย 9. ทำลายระบบราชการ เปลี่ยนข้าราชการให้เป็นสมุนรับใช้ระบอบทักษิณ ไม่ยึดถือระบบคุณธรรมความสามารถ 10. สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน เลือกปฏิบัติ หากไม่ใช่คนเสื้อแดงหรือพวกของรัฐบาลก็ไร้การเหลียวแลเอาใจใส่ หรือกลั่นแกล้งทำร้าย
พฤติกรรมและความชั่วร้ายทั้งหลายที่มีและเกิดขึ้นในรัฐบาลยุคทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไร ยุครัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ ยิ่งหนักหน่วง มิแตกต่าง กลับขยายตัวมากยิ่งขึ้น จึงเป็นภารกิจของประชาชนคนไทยทั้งชาติ ที่จะต้องสามัคคีและร่วมมือกัน เพื่อขับไล่และกำจัดระบอบการเมืองแห่งความชั่วร้ายนี้เสีย เราไม่อาจพึ่งนักการเมืองและพรรคการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ได้ พวกเขาไม่อาจเป็นผู้นำการต่อสู้ได้ เป็นได้เพียงแนวร่วมชั่วคราวเท่านั้น
หากประชาชนทั้งหลายต้องการหลุดพ้นจากระบอบทักษิณ ระบอบการเมืองแห่งความเลวร้ายและสามานย์ที่สุดนี้ เพื่อสถาปนาระบอบการเมืองใหม่ของประชาชนโดยแท้จริงแล้ว ประชาชนทั้งหลายต้องสามัคคีกันโค่นล้มระบอบทักษิณโดยพลังของประชาชน เวลาแห่งการลุกขึ้นสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศมาถึงแล้ว ประชาชนทั้งหลายจงกล้าหาญ และกล้าตัดสินใจ
