ASTVผู้จัดการรายวัน- ครม.ขยายปริมาณ และกรอบการใช้เงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 55 เพิ่มอีก1.39ล้านตัน รวมจากที่อนุมัติไว้แล้ว 13.13 ล้านตัน เป็น 14.7 ล้านตัน "ยิ่งลักษณ์"อ้างรักษาวินัยการเงินการคลัง ไม่หวั่นหนี้ท่วมซ้ำรอยกรีซ เตรียมเจรจาขายข้าวให้คูเวต "สุกำพล"พล่านหาที่ทหารเป็นโกดังเก็บข้าว ให้ทอ.นำร่อง ด้านปชป.เย้ยหลักฐานชัด รัฐบาลขายข้าวไม่ได้ ต้องหาโกดังเพิ่ม จับตาคว่ำบาตรโกติวัวร์ซ้ำเติมส่งออกข้าว
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (15ต.ค.) ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 และเห็นชอบในหลักการ การขยายปริมาณและกรอบการใช้เงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 เป็นกรณีพิเศษ จากเดิม ที่ครม.ได้มติอนุมัติไว้แล้ว13.31 ล้านตัน ปรับเพิ่มเติมอีก 1.39 ล้านตัน รวมเป็นปริมาณโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 (กรณีพิเศษ) จำนวนทั้งสิ้น 14.70 ล้านตัน โดยให้ใช้จากวงเงินรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ในส่วนที่เป็นเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 90,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ทั้งนี้ ยังอยู่ภายในกรอบวงเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการไว้ โดยกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งระบายข้าวสาร โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และนำเงินที่ได้ชำระคืนธ.ก.ส. เพื่อให้ ธ.ก.ส. นำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังส่วนที่เพิ่มเติม
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 12 ต.ค.55 ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ รายงานผลการระบาย และขายผลผลิตให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี ทราบอย่างต่อเนื่อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย
** "ปู"ไม่ห่วงหนี้ท่วมซ้ำรอยกรีซ
หลังการประชุมครม. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ระหว่างวันที่ 15-17 ต.ค.นี้ ที่รัฐคูเวต ซึ่งจะมีการเจรจาในหลายด้าน รวมทั้งเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหาร ขณะเดียวกันก็จะมีการเจรจาขายข้าวด้วย ซึ่งในกลุ่มทางคูเวต มีเรื่องของพลังงานที่เป็นจุดดี ในการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางการค้าให้เกิดขึ้นในอนาคต
น.ส.นิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ออกมาวิจารณ์เรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล อาจทำให้เกิดวิกฤติเหมือนประเทศกรีซ ว่า ทุกนโยบาย รัฐบาลคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังอยู่แล้ว และประเด็นที่นายธีระชัย เป็นห่วงเรื่องหนี้สาธารณะนั้น จริงๆ แล้วส่วนนี้ยังคงใช้ภายใต้งบประมาณที่ขออนุมติจากครม. วงเงิน 4 แสนล้านบาทอยู่ และการใช้จ่ายต่างๆ จะเป็นลักษณะการเป็นหนี้ชั่วคราว หลังจากที่มีการจำนำ ก็มีการจำหน่ายกลับเข้ามาในวงเงินนี้ อย่างไรก็ยังอยู่ ในวินัยการเงินการคลัง
**สั่งอตก.-อคส. เปิดโกดังโชว์ข้าว
ในวันเดียวกันมีการ การประชุมคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยาฟื้นฟูและป้องกันสาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้เชิญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ , กรมการข้าว ,กรมการค้าภายใน ,กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ,ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในพื้นที่ที่ติดกับชายแดนรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน , ตำรวจสอบสวนกลาง , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ,ตำรวจตระเวนชายแดน ,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ , องค์การคลังสินค้า หรืออคส.,องค์การตลาดเพื่อการเกษตร หรืออตก. , นางศิวาพร ชื่นจิตศิริ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว
ในที่ประชุม ร.ต.อ.เฉลิม ได้เน้นย้ำนโยบายจำนำข้าว โดยขอให้กระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ที่เกิดจากการเปิดประเด็นของฝ่ายค้าน อย่างใกล้ชิด เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ เนื่องจากมีบริษัทส่งออกข้าวบางบริษัทที่เสียผลประโยชน์ หนุนหลังพรรคการเมืองบางพรรค ให้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการนี้ หากกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงความเป็นจริงได้ จะช่วยให้รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินงานแล้ว
ขณะที่นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า การทุจริตจำนำข้าว ไม่สามารถทำได้โดยง่าย เพราะมีขั้นตอนตรวจสอบอย่างละเอียด ตั้งแต่ก่อนการปลูกข้าว โดยมีตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนสหกรณ์ประจำท้องที่ ธกส. กำนันผู้ใหญ่บ้าน และ อคส. เข้ามาตรวจสอบก่อนการออกใบรับรอง โดยข้าวจะถูกบันทึกบัญชี และแจ้งมายังศูนย์ข้อมูลของกระทรวง เพื่อให้ทราบข้อมูลที่มีการรับจำนำ แต่ละวันเท่าใด ส่วนตัวแทนของ ธกส. ยืนยันว่า มีเงินและขีดความสามารถเพียงพอที่จะดำเนินการตามสภาพคล่องของธนาคาร
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้สั่งการให้ อตก. และ อคส. เปิดคลังข้าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน เข้าไปตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส
ด้านนายเแก่นเพชร ช่วงรังสี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอให้ใช้เครือข่ายระดับท้องถิ่น คือ ปลัดอำเภอ ปลัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยดูแลและนำเกษตรกรเข้ามาที่จุดรับจำนำข้าว ซึ่งเชื่อว่าจะทำงานได้ดีกว่าการติดเครื่องจีพีเอส
ด้านพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อที่ประชุมว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจสอบพบการกระทำผิดอีก 2 คดี ซึ่งในคดีนี้มีการตรวจสอบพบ ในโกดัง จ.สระแก้ว มีข้าวเกิน 5 ตัน ซึ่งลักลอบนำข้าวเข้ามาจากต่างประเทศเข้ามาหรือไม่ ส่วนอีก 1 คดีที่ จ.บุรีรัมย์ มีการครอบครองข้าวสารเกิน 5 ตัน รวมทั้งหมดขณะนี้มี 27 คดี ส่วนคดีอื่นๆ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนต่อไป
ส่วนปัญหาการลักลอบนำข้าวเปลือเข้ามาในราชอาณาจักร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดน อาทิ จ.อำนาจเจริญ จ.สระแก้ว ฯลฯ ยืนยันว่า มีการตั้งด่านตรวจ ป้องกันอย่างเข้มงวดบริเวณชายแดน โดยขณะนี้ยังไม่พบการลักลอบนำข้าวเปลือก และข้าวสารเข้ามาในราชอาณาจักร
** พล่านหาที่ทหารทำโกดังเก็บข้าว.
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้า การจัดหาโกดังในค่ายทหาร เพื่อเก็บข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ว่า ตนได้โทรศัพท์หา พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ. สส.) ว่าได้ส่งข้อมูลให้กระทรวงพาณิชย์แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพอากาศ เนื่องจากพื้นที่ของกองทัพอากาศมีน้อย และกองบินก็มีไม่มาก จึงขอทราบรายละเอียด และส่งไปให้ทางกระทรวงพาณิชย์ก่อน
ส่วนพื้นที่ของกองทัพบก และกองทัพเรือ อยู่ระหว่างการสำรวจ เนื่องจากมีพื้นที่มาก หากดำเนินการสำรวจเสร็จแล้ว ก็จะส่งข้อมูลให้กระทรวงพาณิชย์อีกครั้ง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ขอมายังกองทัพ แต่เมื่อกองทัพเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล เมื่อทราบว่าทางกระทรวงพาณิชย์ต้องการโกดังเพิ่ม เมื่อกองทัพมีพื้นที่ เราจำเป็นต้องเกื้อกูลกัน ส่วนจะใช้หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
**ชัดระบายข้าวไม่ได้ต้องหาโกดังเพิ่ม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม ระบุว่า จะตรวจสอบโกดังสนามบินดอนเมือง เพื่อเตรียมไว้เป็นสต็อกเก็บข้าวนั้น ขัดแย้งกับสิ่งที่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า สามารถระบายข้าวไปต่างประเทศแล้ว ทั้งที่ราคาข้าวขาวในตลาด ลดลงจากตันละ 1.7 หมื่นบาท เหลือ 1.6 หมื่นบาท ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้อุปทานที่มีมากในตลาดก็จะดึงให้ราคาให้ตกลงอีกและจะทำให้การระบายข้าวยิ่งขาดทุนมากขึ้น นอกจากนี้ หากเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปก็จะยิิ่งเป็นปัญหาสร้างภาระหนี้สาธารณะ จนอาจจนำไปสู่สภาพล้มละลายเหมือนประเทศในยุโรปบางประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลตัวเลขการส่งออก เปิดเผยสต็อกข้าวที่แท้จริง เพื่อจะได้มาร่วมกันแก้ปัญหา และหยุดการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งมีกระแสข่าวว่า มีบริษัทที่เป็นผู้ใกล้ชิดรัฐบาลจะเป็นผู้มีสิทธิประมูลข้าวจากรัฐบาลเท่านั้น และมีข่าวว่า นำออกมาเวียนเทียน หรือ นำออกไปส่งออกในาคาสูง ขณะที่ซื้อข้าวจากรัฐไปในราคาที่ต่ำ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ร่วมกันตรวจสอบหยุดยั้งตัดวงจรเหล่านี้ก่อนที่จะนำไปสู่สภาพล่มสลาย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปตย์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลฟังเสียงท้วงติงในโครงการจำนำข้าวเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข เพราะเวลานี้มีหลายฝ่ายออกมาท้วงติงล่าสุด นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า โครงการประชานิยมเช่นนี้ จะนำไปสู่การเพิ่มหนี้สาธารณะ กลายเป็นปัญหาเหมือนประเทศกรีซ
นอกจากนี้ ที่รัฐบาลระบุว่า จะมีการระบายข้าวไปยังต่างประเทศโดยมีเอ็มโอยู 5 ประเทศ 6 สัญญานั้น ขณะนี้ มีการเรียกร้องให้คว่ำบาตรโกติวัวร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศเนื่องจากปัญหาภายใน โดยไม่ให้ส่งออกอาวุธ และ ยานพาหนะไปยังโกติวัวร์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของรัฐบาลไทยได้ โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งถือเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวไป โกติวัวร์ อันดับหนึ่งหรือ 61% ของข้าวที่ส่งออกไป โกติวัวร์ ทั้งหมด
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ (15ต.ค.) ที่ประชุมมีมติรับทราบผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2555 และเห็นชอบในหลักการ การขยายปริมาณและกรอบการใช้เงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 เป็นกรณีพิเศษ จากเดิม ที่ครม.ได้มติอนุมัติไว้แล้ว13.31 ล้านตัน ปรับเพิ่มเติมอีก 1.39 ล้านตัน รวมเป็นปริมาณโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 (กรณีพิเศษ) จำนวนทั้งสิ้น 14.70 ล้านตัน โดยให้ใช้จากวงเงินรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ในส่วนที่เป็นเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 90,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ทั้งนี้ ยังอยู่ภายในกรอบวงเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการไว้ โดยกระทรวงพาณิชย์ จะเร่งระบายข้าวสาร โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และนำเงินที่ได้ชำระคืนธ.ก.ส. เพื่อให้ ธ.ก.ส. นำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังส่วนที่เพิ่มเติม
สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้ใช้หลักเกณฑ์เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 12 ต.ค.55 ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ รายงานผลการระบาย และขายผลผลิตให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี ทราบอย่างต่อเนื่อง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณด้วย
** "ปู"ไม่ห่วงหนี้ท่วมซ้ำรอยกรีซ
หลังการประชุมครม. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ระหว่างวันที่ 15-17 ต.ค.นี้ ที่รัฐคูเวต ซึ่งจะมีการเจรจาในหลายด้าน รวมทั้งเรื่องความมั่นคงทางด้านอาหาร ขณะเดียวกันก็จะมีการเจรจาขายข้าวด้วย ซึ่งในกลุ่มทางคูเวต มีเรื่องของพลังงานที่เป็นจุดดี ในการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางการค้าให้เกิดขึ้นในอนาคต
น.ส.นิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ออกมาวิจารณ์เรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล อาจทำให้เกิดวิกฤติเหมือนประเทศกรีซ ว่า ทุกนโยบาย รัฐบาลคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังอยู่แล้ว และประเด็นที่นายธีระชัย เป็นห่วงเรื่องหนี้สาธารณะนั้น จริงๆ แล้วส่วนนี้ยังคงใช้ภายใต้งบประมาณที่ขออนุมติจากครม. วงเงิน 4 แสนล้านบาทอยู่ และการใช้จ่ายต่างๆ จะเป็นลักษณะการเป็นหนี้ชั่วคราว หลังจากที่มีการจำนำ ก็มีการจำหน่ายกลับเข้ามาในวงเงินนี้ อย่างไรก็ยังอยู่ ในวินัยการเงินการคลัง
**สั่งอตก.-อคส. เปิดโกดังโชว์ข้าว
ในวันเดียวกันมีการ การประชุมคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยาฟื้นฟูและป้องกันสาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้เชิญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ , กรมการข้าว ,กรมการค้าภายใน ,กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ,ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดในพื้นที่ที่ติดกับชายแดนรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน , ตำรวจสอบสวนกลาง , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ,ตำรวจตระเวนชายแดน ,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ , องค์การคลังสินค้า หรืออคส.,องค์การตลาดเพื่อการเกษตร หรืออตก. , นางศิวาพร ชื่นจิตศิริ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว
ในที่ประชุม ร.ต.อ.เฉลิม ได้เน้นย้ำนโยบายจำนำข้าว โดยขอให้กระทรวงพาณิชย์ ติดตามสถานการณ์ที่เกิดจากการเปิดประเด็นของฝ่ายค้าน อย่างใกล้ชิด เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ เนื่องจากมีบริษัทส่งออกข้าวบางบริษัทที่เสียผลประโยชน์ หนุนหลังพรรคการเมืองบางพรรค ให้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการนี้ หากกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงความเป็นจริงได้ จะช่วยให้รัฐบาลทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งในที่ประชุม ครม. นายกรัฐมนตรี ก็ได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจในขั้นตอนการดำเนินงานแล้ว
ขณะที่นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า การทุจริตจำนำข้าว ไม่สามารถทำได้โดยง่าย เพราะมีขั้นตอนตรวจสอบอย่างละเอียด ตั้งแต่ก่อนการปลูกข้าว โดยมีตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนสหกรณ์ประจำท้องที่ ธกส. กำนันผู้ใหญ่บ้าน และ อคส. เข้ามาตรวจสอบก่อนการออกใบรับรอง โดยข้าวจะถูกบันทึกบัญชี และแจ้งมายังศูนย์ข้อมูลของกระทรวง เพื่อให้ทราบข้อมูลที่มีการรับจำนำ แต่ละวันเท่าใด ส่วนตัวแทนของ ธกส. ยืนยันว่า มีเงินและขีดความสามารถเพียงพอที่จะดำเนินการตามสภาพคล่องของธนาคาร
ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้สั่งการให้ อตก. และ อคส. เปิดคลังข้าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน เข้าไปตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส
ด้านนายเแก่นเพชร ช่วงรังสี อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอให้ใช้เครือข่ายระดับท้องถิ่น คือ ปลัดอำเภอ ปลัดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยดูแลและนำเกษตรกรเข้ามาที่จุดรับจำนำข้าว ซึ่งเชื่อว่าจะทำงานได้ดีกว่าการติดเครื่องจีพีเอส
ด้านพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีต่อที่ประชุมว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจสอบพบการกระทำผิดอีก 2 คดี ซึ่งในคดีนี้มีการตรวจสอบพบ ในโกดัง จ.สระแก้ว มีข้าวเกิน 5 ตัน ซึ่งลักลอบนำข้าวเข้ามาจากต่างประเทศเข้ามาหรือไม่ ส่วนอีก 1 คดีที่ จ.บุรีรัมย์ มีการครอบครองข้าวสารเกิน 5 ตัน รวมทั้งหมดขณะนี้มี 27 คดี ส่วนคดีอื่นๆ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนต่อไป
ส่วนปัญหาการลักลอบนำข้าวเปลือเข้ามาในราชอาณาจักร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดน อาทิ จ.อำนาจเจริญ จ.สระแก้ว ฯลฯ ยืนยันว่า มีการตั้งด่านตรวจ ป้องกันอย่างเข้มงวดบริเวณชายแดน โดยขณะนี้ยังไม่พบการลักลอบนำข้าวเปลือก และข้าวสารเข้ามาในราชอาณาจักร
** พล่านหาที่ทหารทำโกดังเก็บข้าว.
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้า การจัดหาโกดังในค่ายทหาร เพื่อเก็บข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ว่า ตนได้โทรศัพท์หา พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ. สส.) ว่าได้ส่งข้อมูลให้กระทรวงพาณิชย์แล้ว โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพอากาศ เนื่องจากพื้นที่ของกองทัพอากาศมีน้อย และกองบินก็มีไม่มาก จึงขอทราบรายละเอียด และส่งไปให้ทางกระทรวงพาณิชย์ก่อน
ส่วนพื้นที่ของกองทัพบก และกองทัพเรือ อยู่ระหว่างการสำรวจ เนื่องจากมีพื้นที่มาก หากดำเนินการสำรวจเสร็จแล้ว ก็จะส่งข้อมูลให้กระทรวงพาณิชย์อีกครั้ง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ขอมายังกองทัพ แต่เมื่อกองทัพเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล เมื่อทราบว่าทางกระทรวงพาณิชย์ต้องการโกดังเพิ่ม เมื่อกองทัพมีพื้นที่ เราจำเป็นต้องเกื้อกูลกัน ส่วนจะใช้หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
**ชัดระบายข้าวไม่ได้ต้องหาโกดังเพิ่ม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม ระบุว่า จะตรวจสอบโกดังสนามบินดอนเมือง เพื่อเตรียมไว้เป็นสต็อกเก็บข้าวนั้น ขัดแย้งกับสิ่งที่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า สามารถระบายข้าวไปต่างประเทศแล้ว ทั้งที่ราคาข้าวขาวในตลาด ลดลงจากตันละ 1.7 หมื่นบาท เหลือ 1.6 หมื่นบาท ซึ่งหากยังเป็นเช่นนี้อุปทานที่มีมากในตลาดก็จะดึงให้ราคาให้ตกลงอีกและจะทำให้การระบายข้าวยิ่งขาดทุนมากขึ้น นอกจากนี้ หากเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปก็จะยิิ่งเป็นปัญหาสร้างภาระหนี้สาธารณะ จนอาจจนำไปสู่สภาพล้มละลายเหมือนประเทศในยุโรปบางประเทศ
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลตัวเลขการส่งออก เปิดเผยสต็อกข้าวที่แท้จริง เพื่อจะได้มาร่วมกันแก้ปัญหา และหยุดการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งมีกระแสข่าวว่า มีบริษัทที่เป็นผู้ใกล้ชิดรัฐบาลจะเป็นผู้มีสิทธิประมูลข้าวจากรัฐบาลเท่านั้น และมีข่าวว่า นำออกมาเวียนเทียน หรือ นำออกไปส่งออกในาคาสูง ขณะที่ซื้อข้าวจากรัฐไปในราคาที่ต่ำ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้ร่วมกันตรวจสอบหยุดยั้งตัดวงจรเหล่านี้ก่อนที่จะนำไปสู่สภาพล่มสลาย
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปตย์ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลฟังเสียงท้วงติงในโครงการจำนำข้าวเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข เพราะเวลานี้มีหลายฝ่ายออกมาท้วงติงล่าสุด นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า โครงการประชานิยมเช่นนี้ จะนำไปสู่การเพิ่มหนี้สาธารณะ กลายเป็นปัญหาเหมือนประเทศกรีซ
นอกจากนี้ ที่รัฐบาลระบุว่า จะมีการระบายข้าวไปยังต่างประเทศโดยมีเอ็มโอยู 5 ประเทศ 6 สัญญานั้น ขณะนี้ มีการเรียกร้องให้คว่ำบาตรโกติวัวร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศเนื่องจากปัญหาภายใน โดยไม่ให้ส่งออกอาวุธ และ ยานพาหนะไปยังโกติวัวร์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวของรัฐบาลไทยได้ โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งถือเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวไป โกติวัวร์ อันดับหนึ่งหรือ 61% ของข้าวที่ส่งออกไป โกติวัวร์ ทั้งหมด
