ปลุกผีหวยตู้ ทางออกที่ต้องเลือก! ผ่าทางตันสลากเกินราคา

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-แม้จะมีเสียงคัดค้านจากองค์กรเอกชนหรือเอ็นจีโอบางกลุ่มที่ออกมาต่อต้านการใช้เครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติหรือสลากออนไลน์หรือหวยตู้ แต่หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) นำเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าเพื่อขอความเห็นชอบในการดำเนินโครงการดังกล่าวจากที่ประชุมโดยอาศัยความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ระบุว่า การใช้เครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติหรือสลากออนไลน์หรือหวยตู้ จะสามารถแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ

ทั้งนี้ หวยตู้เป็นสิ่งที่ประชาชนนับล้านรอมานานและเป็นทางออกในการแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนดตามแนวทางที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ตั้งความหวังจากโครงการนี้ไว้ หลังจากที่เรื่องดังกล่าวสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลังและประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลขณะนั้นเสนอโครงการนี้ให้รัฐบาลตัดสินใจเดินหน้า

แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์หน้าบางเกินกว่าที่จะยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกประเภทจึงทำการแช่แข็งโครงการโดยเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ศึกษาเรื่องนี้อย่างละเอียดว่าติดขัดต่อกฎหมายประการใดบ้างจนโครงการนี้ศึกษาเสร็จสิ้นทำให้ส้มหล่นมาที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดึงคะแนนเสียงจากรากหญ้าได้อีกมากโข

สำหรับความเห็นของคณะกรรมการป.ป.ช.เกี่ยวกับการจัดสรรโควตาและการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต้องกำหนดนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการกำหนดรูปแบบและปริมาณสลากฯ รวมทั้งปริมาณเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติให้ชัดเจนโดยไม่พิจารณาเพียงแต่ผลประโยชน์เฉพาะการเงินของรัฐเป็นหลักและต้องประกาศให้เป็นที่รับรู้ของประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงสำนักงานสลากฯ จะต้องจัดทำการประเมินนโยบายการจำหน่ายสลากฯ ด้วยเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติเป็นประจำทุกปี โดยองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหากำไรและไม่มีส่วนได้เสียกับสำนักสลากฯ ทั้งนี้ เพื่อประเมินถึงผลดีและผลเสียของนโยบายดังกล่าวอย่างหลากหลาย ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม

2.คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลควรแถลงนโยบายการกำกับการดำเนินงานของสำนักงานสลากฯ เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลควรมีตัวชี้วัดหลักที่ใช้ในการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินการของคณะกรรมการ รวมถึงให้มีการเปิดเผยหลักเกณฑ์และวิธีในการกำหนดส่วนลดให้แก่ตัวแทนจำหน่าย และให้มีการเปิดเผยการดำเนินงานด้านต่างๆ ของสำนักงานสลากฯ เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้

3.การจัดสรรเงินที่คืนสู่สังคมควรจัดสรรให้แก่ชุมชนซึ่งเป็นพื้นที่จุดจำหน่ายเพื่อเป็นกองทุนรณรงค์ต่อต้านการเล่นการพนัน โดยเฉพาะป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริโภคสลากฯ

4.สำนักงานสลากฯ จะต้องออกมาตรการในการห้ามจำหน่ายสลากฯ ให้แก่เด็กและเยาวชนและควรมีหลักประกันว่าไม่จำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนได้อย่างจริงจัง รวมทั้งต้องกำหนดบทลงโทษตัวแทนผู้จำหน่ายให้ชัดเจนว่า หากจำหน่ายสลากฯ ให้แก่เด็กและเยาวชนจะมีผลอย่างไร ตลอดจนการติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากฯในที่ชุมชนจุดจำหน่ายต้องไม่อยู่ใกล้วัดและโรงเรียน

5.สำนักงานสลากฯ ต้องกำหนดเป็นมาตรการอย่างเคร่งครัดว่าการจำหน่ายอัตโนมัติจะไม่นำเครือข่ายการจำหน่ายนี้ไปขยายสินค้าการพนันในรูปแบบสลากฯอื่นๆ

6.สำนักงานสลากฯ ต้องวางมาตรการตรวจสอบป้องกันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากฯ อาจจะเป็นช่วงทางในการนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปฟอกเป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ 7.รายได้จากการจำหน่ายสลากฯ 3 ตัว 2 ตัว ด้วยเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติที่เป็นส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 12% และเมื่อหลังหักส่วนลดให้ตัวแทนจำหน่ายแล้ว ควรมีการวางเป้าหมายในการนำเงินรายได้สุทธิในส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์สาธารณะให้ชัดเจน

สอดคล้องกับที่นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มีมติเมื่อวันที่ 24 กันยายน ให้เดินหน้าโครงการใช้เครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติได้ ซึ่งขั้นตอนจากนี้เป็นหน้าที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จะต้องเดินหน้าเจรจารายละเอียดกับคู่สัญญาเดิมคือบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด (แอลจีที) ในฐานะที่เป็นผู้รับสัมปทานจากรัฐ โดยจะต้องมีการทบทวนข้อมูลต่างๆ ปรับปรุงรายละเอียดของเครื่องที่อาจจะล้าสมัย เพราะเตรียมระบบมา 5 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2548 เพื่อให้สามารถเริ่มขายสลากได้ในต้นปี 2556

"เราพยายามเสนอ ครม.ให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อให้ทันขายได้ในต้นปีหน้า อยากให้เป็นของขวัญปีใหม่กับประชาชน และเป็นความหวังว่าจะทำให้สลากที่ขายในราคาแพงลดลงได้ โดยเริ่มต้นจะเป็นรางวัลเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัวเท่านั้น เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับเลข 6 ตัวที่ขายในรูปสลากใบ" นายทนุศักดิ์กล่าว และว่า ไม่อยากให้เรียกว่าหวยออนไลน์ เพราะแสดงว่าซื้อที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ เพราะผ่านระบบอินเตอร์เน็ต อยากให้เรียกว่า หวยตู้แทน เพราะมีการจัดการที่เหมาะสม ไม่ขายให้กับเด็ก ไม่ตั้งใกล้วัด ใกล้โรงเรียน มีเวลาขายที่แน่นอน ใครต้องการซื้อจะต้องเดินมาซื้อที่ตู้จำหน่าย ไม่ใช่นั่งคีย์ตัวเลขจากบ้าน

ทั้งนี้สำนักงานสลากฯ จะติดตั้งตู้จำหน่ายเพิ่มขึ้นจากเดิม 6 พันเครื่องเป็น 1.2 หมื่นเครื่อง โดยรางวัลที่ได้รับจะผันแปรตามจำนวนคนถูกคือถูกมากได้น้อยและถูกน้อยจะได้มาก และจะยังคงรางวัลแจ๊กพ็อตเช่นเดิม แต่จะผันแปรตามจำนวนคนถูกด้วย เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 คาดว่าการออกหวยตู้จะทำให้รายได้กองสลากเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จาก 500-600 ล้านบาทต่องวด เป็น 1,000 กว่าล้านบาทต่องวด หรือเพิ่มขึ้นเดือนละ 2,000 ล้านบาท ปีละ 2.4 หมื่นล้านบาท อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 ที่ตั้งเป้ารายได้จากการขายสลากเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัวคือจากสลาก 60 ล้านฉบับในปัจจุบัน เป็น 600 ล้านฉบับ

"จำนวนสลากที่เพิ่มไม่ได้มอมเมาในประเทศ จะเน้นตลาดต่างประเทศแทน" นายทนุศักดิ์ยืนยันอย่างหนักแน่น

หลายๆ ฝ่ายได้เฝ้าติดตามว่าโครงการใช้เครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติหรือหวยตู้ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กำลังเดินหน้าอยู่ในขณะนี้จะสามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคาได้หรือไม่ และผลพลอยได้อีกอย่างของหวยตู้คือการนำเงินใต้ดินที่หมุนเวียนอยู่ปีละ 3 แสนล้านบาทต่อปีจากการพนันทุกชนิดให้ขึ้นมาอยู่บนดินได้มากเพียงใดต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

แต่อย่างน้อยการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ออกมาการันตีว่าโครงการใช้เครื่องจำหน่ายสลากอัตโนมัติหรือหวยตู้นั้นไม่ขัดต่อกฎหมายใดๆ และสามารถดำเนินการได้นั้นย่อมเป็นส่วนหนึ่งในการปูทางให้โครงการนี้สามารถเดินหน้าได้หลังจากที่ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2548 และค้างคามาจนถึงปัจจุบันนี้.