เผยผลประชุม ครม.ต่ออายุโครงการร้านค้าถูกใจถึงสิ้นปี 2555 ตัดร้านไร้ศักยภาพออก เพิ่มอีก 1 หมื่นร้าน อีกด้านเห็นชอบให้มีเครื่องจำหน่ายหวยออนไลน์ สั่งกองสลากฯ ศึกษารูปแบบ ทำกองทุนต่อต้านนักพนันเยาวชน และห้ามจำหน่ายสลากแก่เด็ก “บุญทรง” นัดสื่อดูโรงสีข้าวราชบุรี ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว
วันนี้ (9 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีการต่ออายุโครงการร้านค้าถูกใจที่เพิ่งหมดอายุโครงการไปเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาไปอีก 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ช่วง ต.ค.ถึง ธ.ค. 2555 โดยโครงการระยะดังกล่าว จะใช้วงเงินที่เคยได้รับอนุมัติไว้เดิม ประมาณ 427.52 ล้านบาท ขณะที่โครงการในระยะต่อไป จะเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ยึดหลักใช้งบประมาณอย่างประหยัด ด้วยการยกเลิกร้านค้าถูกใจที่ไม่มีศักยภาพ รวมถึงจะมีการกำกับให้ราคาสินค้าต่ำกว่าราคาตลาดเฉลี่ยร้อยละ 20 พร้อมจะมีการเพิ่มจำนวนร้านค้ามากกว่าที่กำหนดไว้เดิมคือ 1 หมื่นร้าน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานต่อ ครม.ว่า จากผลการดำเนินงานตั้งแต่ เม.ย.ถึง ก.ย. ที่ผ่านมารวม 6 เดือนนั้น โครงการสามารลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนในเขตต่างจังหวัดและมีรายได้น้อย เพราะทำให้สามารถซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่าราคาปกติ สำหรับประเภทสินค้าที่ได้รับความนิยมมากคือข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม ที่มีการผลิตถึง 6 แสนถุงต่อสัปดาห์ รองลงมาคือข้าวสารถุงละ 1 กิโลกรัม ซึ่งมีการผลิต 3 แสนถุงต่อสัปดาห์ ส่วนปัญหาราคาไข่ไก่สูงที่มีการร้องเรียนอยู่ในขณะนี้ อันเนื่องมาจากราคาข้าวโพดซึ่งเป็นอาหารสัตว์นั้นขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังหาแนวทางแก้ปัญหา
น.ส.ศันสนีย์กล่าวต่อว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) จะนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ จ.ราชบุรี เพื่อดูโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในฤดูกาลผลิตปี 55/56 พร้อมกับประชุมคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด จากนั้นช่วงบ่ายจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงสีข้าวใน 2 อำเภอ คือ อ.โพธาราม และ อ.บ้านโป่ง
นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้มีเครื่องจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบอัตโนมัติ ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนดนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการกำหนดรูปแบบและปริมาณสลากรวมทั้งเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติอย่างชัดเจน และต้องไม่พิจารณาเพียงแต่ผลประโยชน์เฉพาะการเงินของรัฐเป็นหลัก และต้องประกาศให้เป็นที่รับรู้ของประชาชนโดยทั่วไป การจัดสรรโควตาการจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เกินราคา รวมถึงให้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลควรแถลงนโยบายการจำกัดปริมาณของสำนักงานสลากกินแบ่งให้มีการเปิดเผยการทำงานในด้านต่างๆ เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงการจัดสรรเงินสู่สังคมควรจัดสรรให้กับชุมชนที่เป็นพื้นที่จุดจำหน่าย เพื่อเป็นกองทุนต่อต้านการเล่นการพนันโดยเฉพาะป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริโภคฉลาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลต้องมาตรการห้ามจำหน่ายสลากให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายสลากด้วยเครื่องอัตโนมัติ ที่เป็นส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ร้อยละ 12 ซึ่งหลังจากหักส่วนลดให้ตัวแทนจำหน่ายแล้ว ควรวางเป้าหมายในการนำเงินรายได้สุทธิในส่วนนี้ไปใช้ประโยชน์สาธารณะให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม การนำเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติมาใช้จะแก้ไขปัญหาความต้องการของผู้ซื้อแต่ละหมายเลขได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอเพราะผู้ซื้อจะสามารถซื้อเลขที่ต้องการจากเครื่องจำหน่ายได้ ซึ่งรางวัลที่ได้รับจะผันแปรไปตามจำนวนสลาก โดยการนำเครื่องจำหน่ายสลากมาใช้ในการจำหน่ายสลาก เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาและช่วยกำจัดทุจริตในการจัดสรรให้พ่อค้าคนกลางและป้องกันกลุ่มบุคคลที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ