ASTVผู้จัดการรายวัน – ไอเบล ผู้ผลิตแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมจากนอร์เวย์ ร้องกนอ.ขอเช่าที่ในแหลมฉบังระยะยาว 15-25 ปีเพื่อให้คุ้มกับการลงทุนใหม่ หลังเหลือเวลาเช่าอีกแค่ 5ปี เผยเตรียมใช้ฐานการผลิตในไทยประกอบแท่นขุดเจาะฯใหญ่ขึ้น ขนาด 1หมื่นตันจากล่าสุดทำสถิติผลิตแท่นกุดรุนให้สแตทออยล์ขนาด 6 พันตัน
นายสติก เจสเซ่น รองประธานบริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจแท่นขุดเจาะ บริษัท ไอเบล เอเอส ประเทศนอร์เวย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯจะประมูลเพื่อก่อสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติโครงการDagnyให้กับบริษัทสแตทออยล์ ซึ่งเป็นผู้สำรวจและผลิตปิโตรเลียมขนาดใหญ่ที่บริหารงานโดยรัฐบาลนอร์เวย์ในเร็วๆนี้หากได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะประมูลก็จะใช้ฐานการผลิตในไทยที่แหลมฉบัง ซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากไอเบลที่นอร์เวย์ โดยจะผลิตแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่มีน้ำหนักถึง 10,000 ตัน
ทั้งนี้ ไอเบล (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จในการก่อสร้างเครื่องจักรและส่วนประกอบบนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมขนาดใหญ่สุดนับตั้งแต่ดำเนินการมา มีน้ำหนัก 6,000 ตัน หรือมีขนาดเทียบเท่าตึก 8 ชั้นโดยการผลิตแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมดังกล่าวนี้ประกอบด้วย 2 ส่วน ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างและเครื่องจักร ทำหน้าที่ในการแยกก๊าซฯออกจากน้ำมันหลังจากการขุดขึ้นมาแล้ว
โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เม.ย.2554 และดำเนินการเสร็จสิ้นในเดือนก.ย. 2555 มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นค่าแรงประมาณ 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ไอเบล คว้าสิทธิ์ในการดำเนินงานออกแบบและก่อสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันของกุดรุน แพลทฟอร์ม ที่ตั้งอยู่กลางทะเลเหนือ ซึ่งดำเนินงานโดยสแตทออยล์ โดยแท่นขุดเจาะทั้ง 3 โมดูล ถูกแบ่งผลิต ประกอบติดตั้งในนอร์เวย์และไทย โดยแท่นที่ผลิตในไทยที่แล้วเสร็จจะใช้เวลาขนส่งไปยังนอร์เวย์ 35 วันเพื่อประกอบแท่นส่วนที่เป็นยูทิลิตี้ และลิฟวิ่ง ควอเตอร์ที่มีน้ำหนัก4,500 ตันที่นั่นก่อนขนส่งแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่สมบูรณ์ไปให้กับสแตทออยล์ โดยแท่นฯดังกล่าวมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 1.2 หมื่นบาร์เรล/วัน และก๊าซธรรมชาติ 211 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในต้นปี 2557
นายจิม ไรอัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเบล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกให้ไทยเป็นฐานการผลิตแท่นขุดเจาะน้ำมันกุนรุนนั้น เนื่องจากไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถ มีท่าเรือน้ำลึกและค่าแรงที่ต่ำกว่านอร์เวย์ถึง 8 เท่า โดยได้รับการยอมรับทั้งคุณภาพมาตรฐานจากสแตทออยล์ และซัปพลายเออร์
โดยยอมรับว่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ทำแท่นฯนี้ต้องนำเข้ามาทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากให้รัฐช่วยเหลือ คือ บริษัทฯต้องการเช่าที่ระยะยาว 15-25 ปีในพื้นที่ประกอบติดตั้ง (Assembly Yard)ในท่าเรีอแหลมฉบัง เพื่อให้เพียงพอที่จะคืนทุนในการสร้างท่าเรือ โดยยอมรับว่าปัจจุบันบริษัทฯมีระยะเวลาเช่าพื้นที่อยู่กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)อีก 5ปีเท่านั้นซึ่งตามมาสเตอร์แพลนของท่าเรือแหลมฉบังจะนำพื้นที่เช่าของบริษัทฯใช้ท่าเทียบเรือ หากไม่ได้รับการต่อสัญญาเช่าก็อาจจะย้ายไปลงทุนที่ระนอง เนื่องจากมีทะเลน้ำลึก แต่ยังไม่ระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ ขณะที่ประเทศคู่แข่งอย่างเกาหลีมีท่าเทียบเรือเป็นของตนเอง ทำให้ประหยัดค่าขนส่ง
“ ขณะนี้บริษัทฯได้พูดคุยกับบีโอไอเพื่อขอเช่าพื้นที่นี้ เนื่องจากเจ็ตตี้แหลมฉบังมีความแข็งแกร่งที่ใช้ลากแท่นขุดเจาะฯแทนการยก คาดว่าภายใน 6เดือนข้าหน้าจะรู้จะได้อยู่ที่นี่อีกนานเท่าใด “
นายสติก เจสเซ่น รองประธานบริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจแท่นขุดเจาะ บริษัท ไอเบล เอเอส ประเทศนอร์เวย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯจะประมูลเพื่อก่อสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติโครงการDagnyให้กับบริษัทสแตทออยล์ ซึ่งเป็นผู้สำรวจและผลิตปิโตรเลียมขนาดใหญ่ที่บริหารงานโดยรัฐบาลนอร์เวย์ในเร็วๆนี้หากได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะประมูลก็จะใช้ฐานการผลิตในไทยที่แหลมฉบัง ซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากไอเบลที่นอร์เวย์ โดยจะผลิตแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่มีน้ำหนักถึง 10,000 ตัน
ทั้งนี้ ไอเบล (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จในการก่อสร้างเครื่องจักรและส่วนประกอบบนแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมขนาดใหญ่สุดนับตั้งแต่ดำเนินการมา มีน้ำหนัก 6,000 ตัน หรือมีขนาดเทียบเท่าตึก 8 ชั้นโดยการผลิตแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมดังกล่าวนี้ประกอบด้วย 2 ส่วน ซึ่งประกอบด้วยโครงสร้างและเครื่องจักร ทำหน้าที่ในการแยกก๊าซฯออกจากน้ำมันหลังจากการขุดขึ้นมาแล้ว
โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เม.ย.2554 และดำเนินการเสร็จสิ้นในเดือนก.ย. 2555 มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นค่าแรงประมาณ 2 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ไอเบล คว้าสิทธิ์ในการดำเนินงานออกแบบและก่อสร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันของกุดรุน แพลทฟอร์ม ที่ตั้งอยู่กลางทะเลเหนือ ซึ่งดำเนินงานโดยสแตทออยล์ โดยแท่นขุดเจาะทั้ง 3 โมดูล ถูกแบ่งผลิต ประกอบติดตั้งในนอร์เวย์และไทย โดยแท่นที่ผลิตในไทยที่แล้วเสร็จจะใช้เวลาขนส่งไปยังนอร์เวย์ 35 วันเพื่อประกอบแท่นส่วนที่เป็นยูทิลิตี้ และลิฟวิ่ง ควอเตอร์ที่มีน้ำหนัก4,500 ตันที่นั่นก่อนขนส่งแท่นขุดเจาะปิโตรเลียมที่สมบูรณ์ไปให้กับสแตทออยล์ โดยแท่นฯดังกล่าวมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 1.2 หมื่นบาร์เรล/วัน และก๊าซธรรมชาติ 211 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในต้นปี 2557
นายจิม ไรอัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเบล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกให้ไทยเป็นฐานการผลิตแท่นขุดเจาะน้ำมันกุนรุนนั้น เนื่องจากไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถ มีท่าเรือน้ำลึกและค่าแรงที่ต่ำกว่านอร์เวย์ถึง 8 เท่า โดยได้รับการยอมรับทั้งคุณภาพมาตรฐานจากสแตทออยล์ และซัปพลายเออร์
โดยยอมรับว่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ทำแท่นฯนี้ต้องนำเข้ามาทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากให้รัฐช่วยเหลือ คือ บริษัทฯต้องการเช่าที่ระยะยาว 15-25 ปีในพื้นที่ประกอบติดตั้ง (Assembly Yard)ในท่าเรีอแหลมฉบัง เพื่อให้เพียงพอที่จะคืนทุนในการสร้างท่าเรือ โดยยอมรับว่าปัจจุบันบริษัทฯมีระยะเวลาเช่าพื้นที่อยู่กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)อีก 5ปีเท่านั้นซึ่งตามมาสเตอร์แพลนของท่าเรือแหลมฉบังจะนำพื้นที่เช่าของบริษัทฯใช้ท่าเทียบเรือ หากไม่ได้รับการต่อสัญญาเช่าก็อาจจะย้ายไปลงทุนที่ระนอง เนื่องจากมีทะเลน้ำลึก แต่ยังไม่ระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ ขณะที่ประเทศคู่แข่งอย่างเกาหลีมีท่าเทียบเรือเป็นของตนเอง ทำให้ประหยัดค่าขนส่ง
“ ขณะนี้บริษัทฯได้พูดคุยกับบีโอไอเพื่อขอเช่าพื้นที่นี้ เนื่องจากเจ็ตตี้แหลมฉบังมีความแข็งแกร่งที่ใช้ลากแท่นขุดเจาะฯแทนการยก คาดว่าภายใน 6เดือนข้าหน้าจะรู้จะได้อยู่ที่นี่อีกนานเท่าใด “
