วานนี้ (1ต.ค.55) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตามที่กระแสสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพงานนิทรรศการเวสเทินไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนลแฟร์ (West China International Fair) คือ ที่จัดขึ้นในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 25-30 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมีประธานสภาประชาชนจีนเป็นประธาน พร้อมเชิญแขกสำคัญในประเทศอาเซียนเข้าร่วม รวมถึงประเทศไทย เพื่อต้องการโปรโมทให้มีการลงทุนในภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน
แต่ในวันเปิดงาน 25 ก.ย. ไม่ปรากฎประธานสภาไทยเข้าร่วมงาน กลับไปพบประธานสภาประชาชนจีนในวันที่ 26ก.ย. แทน ซึ่งวันเปิดงานดังกล่าว นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาไทย กลับเลือกที่จะไปดูงานโครงการรัฐสภาอังกฤษจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และไปร่วมงานที่ประเทศจีนไม่ทันตามกำหนดในที่สุด เรื่องนี้ตนคิดว่านายสมศักดิ์น่าจะรู้ผิดรู้ถูก มีเหตุผลพอ ก็หวังว่าในการประชุมร่วมรัฐสภา 2ต.ค. นี้ คงจะได้ชี้แจงสิ่งที่สังคมกำลังจับตามองและเพื่อประโยชน์ต่อสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับจีนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงาน เวสเทินไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนลแฟร์ เป็นงานใหญระดับชาติของจีน มุ่งเน้นกระตุ้นการพัฒนาพื้นที่ครึ่งประเทศของจีนด้านฝั่งตะวันตก และแสวงหาความร่วมมือกับนานาประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งได้รับเกียรติสูงสุดในบรรดาชาติต่าง ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในงานนี้
**โซเชียลฯแฉ!จีนจัดใหญ่รับแต่!!
ขณะที่มีมีรายงานข่าวจากโซเชียลมีเดียว่า สื่อมวลชนจีนประโคมข่าวการมาเยือนของนักการเมืองใหญ่จากประเทศไทยอย่างคึกโครมไปทั่งประเทศ นายอู๋ปังกั๋ว ประธานสภาประชาชนจีน ผู้นำซึ่งมีอำนาจและมีอิทธิพลเป็นอับดับสองของจีน พร้อมด้วยเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จากทุกมณฑลในฝั่งตะวันตก ผู้นำต่างชาติที่มาเยือน รวมถึงทูตานุทูตจากยี่สิบกว่าประเทศ ต่างเข้าร่วมในงานดังกล่าว ถนนหลายสายในนครเฉิงตูถูกปิดการจราจร ตำรวจและทหารเข้าควบคุมพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยทั้งเมือง บรรยากาศเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่อลังการอย่างคุมเข้มตามลักษณะของชาติมหาอำนาจสังคมนิยม
ช่วงค่ำของวันที่ 25 ก.ย. 2555 ภาพพระบรมมหาราชวังของไทยถูกนำมาใช้เป็นฉากหลังพิธีเปิดอย่างอลังการ หมู่นางรำ (คนจีน) ในชุดไทยสวมชฎาร่ายรำอย่างอ่อนช้อยงดงามจนไม่น่าเชื่อสายตา แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติประเทศไทยอย่างสูงสุด อีกทั้งมุ่งเน้นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างไทยและจีนอย่างโดดเด่นและชัดเจนจนน่าอิจฉาในสายตาผู้แทนจากประเทศอื่น ๆ และสร้างความประทับใจอย่างตกตะลึงให้กับคนไทยเพียง 3 ท่านที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความภาคภูมิใจในประเทศของตัวเอง และทราบซึ้งในเกียรติภูมิที่ได้รับจากชาติมหาอำนาจอย่างออกหน้าออกตา คนไทยทั้ง 3 ท่านที่ร่วมงานยังมีความกระอักกระอ่วนและละอายใจจนแทบแทรกแผ่นดินหนีด้วยเช่นกัน เพราะนักการเมืองใหญ่ของไทยผู้ได้รับเชิญร่วมเป็นประธานในงานดังกล่าวกับผู้นำหมายเลขสองของประเทศจีนนั้น แจ้งยกเลิกการเดินทางมาเยือนจีนอย่างกระทันล่วงหน้าเพียงแค่ 3 วัน ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลจีนเตรียมการต้อนรับล่วงหน้ามานานนับเดือน เหตุเพียงเพราะตัวเองต้องการเดินทางไปชม "ฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ" ทำให้รัฐบาลจีนผู้เป็นเจ้าภาพถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลกลใดไม่ปรากฎ นักการเมืองใหญ่ท่านนั้นถึงกับบินด่วนมายังนครเฉิงตูในวันรุ่งขึ้น (26 ก.ย. 2555) เพื่อขอขมากับผู้นำจีน ซึ่งได้รับการร้องขอจากฝ่ายไทยให้เลื่อนกำหนดการเดินทางกลับกรุงปักกิ่งออกไป สำหรับเปิดโอกาสให้นักการเมืองใหญ่ของไทยเข้าพบ
กระแสข่าวทำนองว่า ใครบางคนจากแดนไกลถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อทราบเรื่องว่า คนของตัวเองหาญกล้าตบหน้าผู้นำจีนอย่างไม่ให้เกียรติ และสร้างความอับอายเสียหายให้กับประเทศไทยและรัฐบาลจีนอย่างสุดบรรยาย จึงสั่งการด่วนให้นักการเมืองใหญ่ท่านนั้นรีบเดินทางไปจีนเพื่อขอขมาผู้นำจีนทันที
**"วัฒนา"แจงแทน"สมศักดิ์"ไม่จำเป็นต้องแจงภาพดูบอลที่อังกฤษ
ที่รัฐสภา นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกส่วนตัวประธานสภาผู้เเทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวเรียกร้องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงรายละเอียดกรณีการเดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ จนทำให้ไม่ได้ไปร่วมพิธีเปิดงานเอ็กซ์โป ที่ประเทศจีน ตามคำเชิญของนายอู๋ ปัง กั๋ว ประธานสภาประชาชนของประเทศจีนว่า ประเด็นข้อสงสัยดังกล่าว ทางส.ส.และส.ว.ที่สงสัย สามารถมาสอบถามข้อมูลรายละเอียดเป็นการภายใน และสามารถสอบถามโดยตรงกับนายสมศักดิ์ได้ ซึ่งตนมองว่าประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ไม่ควรนำข้อมูลที่ปรากฎ และเผยแพร่ตามสื่อมวลชน ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง อาทิ โปรแกรมการศึกษาดูงาน มาสอบถามผ่านสื่อมวลชน เพราะจะเกิดปัญหาขึ้นได้
อย่างไรก็ตามกำหนดการเดินทางไปเยือนประเทศอังกฤษนั้น ตนทราบว่าได้มีการเตรียมงานไว้นานกว่า 2 เดือนแล้ว ส่วนการได้รับเชิญไปประเทศจีนนั้น ทราบว่าได้มีการเชิญอย่างเป็นทางการ และได้มีการวางคิวงานไว้แล้ว ดังนั้นตนคาดว่ากรณีที่นายสมศักดิ์เดินทางไปประเทศอังกฤษก่อนไปเยือนประเทศจีน จะไม่ทำให้เสียงาน
"เรื่องการดูบอลของท่านสมศักดิ์ ผมเคยชี้แจงให้กับประชาชนในพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีกลุ่มหนึ่งที่ซักถามว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยผมบอกว่า ท่านได้ใช้เวลาไปดู ในวันอาทิตย์ซึ่งในประเทศไทย วันอาทิตย์ถือเป็นวันครอบครัว ดังนั้นเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่การนำภาพการชมฟุตบอลมาเผยแพร่ ประเด็นนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่" นายวัฒนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นนี้นายสมศักดิ์ จะออกมาชี้แจงหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่ทำได้ ซึ่งเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับทางราชการจะชี้แจงหรือไม่ชี้แจงก็ได้ ทั้งนี้ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องชี้แจง เมื่อถามต่อว่า ในประเด็นที่ถูกวิจารณ์ คือ ภาพของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน นายวัฒนา กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะนายสมศักดิ์ได้เดินทางไปประเทศจีนแล้ว แม้จะเป็น 1วันหลังจากที่มีพิธีเปิดก็ตาม อย่างไรก็ตามตนขอเรียกร้องหา ส.ส. หรือ ส.ว.มีประเด็นข้อสงสัยในประเด็นเหล่านี้ ขอให้มีการสอบถามเป็นการภายใน อย่าสอบถามผ่านสื่อมวลชน เพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย แต่หากมีการสอบถามภายในแล้ว พบว่าเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ค่อยนำมาเปิดเผยผ่านสื่อมวลชน
**บุญยอดเตรียมส่งเรื่อง ให้กก.สอบ
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย โฆษกคณะกรรมาธิการกิจสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จะมีการเสนอเรื่องการไปดูงานรัฐสภาต่างประเทศ ของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปยัง คณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร หลังจากคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการนำสื่อมวลชนไปดูงานที่ประเทศอังกฤษ ของประธานสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร นั้นจะมี นายสมศักดิ์ เป็นประธาน แต่เนื่องจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ จึงมีความเหมาะสมมากกว่าที่จะเป็นผู้พิจารณาว่า ควรจะดำเนินการกับ นายสมศักดิ์ อย่างไรในกรณีนี้
"พอไล่รายละเอียดจนจบ พอไล่ความสัมพันธ์ระหว่างราชการกับสื่อจนจบ ผมคิดว่า คณะกรรมาธิการกิจการสภา คงไม่ฟันธงว่าที่ผ่านมา มันถูก มันผิดอย่างไร ก็เอารายละเอียดตรงนี้ ไปให้คณะกรรมการอีกชุดหนึ่ง ที่มีอำนาจมากกว่า และเป็นผู้ใหญ่กว่า คิดว่า ชุดนี้จะมีอำนาจติติงประธานสภาได้ นั่นก็คือ คณะกรรมการจริยธรรม"
นายบุญยอด เปิดเผยว่า การตรวจสอบงบประมาณเกี่ยวกับการเดินทางไปดูงานรัฐสภาต่างประเทศของนายสมศักดิ์ ได้ดูรายละเอียดในส่วนของการเช่าที่พัก การรับประทานอาหาร การเช่ารถบัสนำเที่ยว การศึกษาดูงานในสถานที่ต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบบริษัททัวร์ที่ดำเนินการทั้งหมด เนื่องจากงบประมาณในส่วนต่างๆ เหล่านี้ ผู้ติดตามไปศึกษาดูงานจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
แต่ในวันเปิดงาน 25 ก.ย. ไม่ปรากฎประธานสภาไทยเข้าร่วมงาน กลับไปพบประธานสภาประชาชนจีนในวันที่ 26ก.ย. แทน ซึ่งวันเปิดงานดังกล่าว นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาไทย กลับเลือกที่จะไปดูงานโครงการรัฐสภาอังกฤษจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และไปร่วมงานที่ประเทศจีนไม่ทันตามกำหนดในที่สุด เรื่องนี้ตนคิดว่านายสมศักดิ์น่าจะรู้ผิดรู้ถูก มีเหตุผลพอ ก็หวังว่าในการประชุมร่วมรัฐสภา 2ต.ค. นี้ คงจะได้ชี้แจงสิ่งที่สังคมกำลังจับตามองและเพื่อประโยชน์ต่อสัมพันธไมตรีระหว่างไทยกับจีนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับงาน เวสเทินไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนลแฟร์ เป็นงานใหญระดับชาติของจีน มุ่งเน้นกระตุ้นการพัฒนาพื้นที่ครึ่งประเทศของจีนด้านฝั่งตะวันตก และแสวงหาความร่วมมือกับนานาประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งได้รับเกียรติสูงสุดในบรรดาชาติต่าง ๆ ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในงานนี้
**โซเชียลฯแฉ!จีนจัดใหญ่รับแต่!!
ขณะที่มีมีรายงานข่าวจากโซเชียลมีเดียว่า สื่อมวลชนจีนประโคมข่าวการมาเยือนของนักการเมืองใหญ่จากประเทศไทยอย่างคึกโครมไปทั่งประเทศ นายอู๋ปังกั๋ว ประธานสภาประชาชนจีน ผู้นำซึ่งมีอำนาจและมีอิทธิพลเป็นอับดับสองของจีน พร้อมด้วยเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จากทุกมณฑลในฝั่งตะวันตก ผู้นำต่างชาติที่มาเยือน รวมถึงทูตานุทูตจากยี่สิบกว่าประเทศ ต่างเข้าร่วมในงานดังกล่าว ถนนหลายสายในนครเฉิงตูถูกปิดการจราจร ตำรวจและทหารเข้าควบคุมพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยทั้งเมือง บรรยากาศเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่อลังการอย่างคุมเข้มตามลักษณะของชาติมหาอำนาจสังคมนิยม
ช่วงค่ำของวันที่ 25 ก.ย. 2555 ภาพพระบรมมหาราชวังของไทยถูกนำมาใช้เป็นฉากหลังพิธีเปิดอย่างอลังการ หมู่นางรำ (คนจีน) ในชุดไทยสวมชฎาร่ายรำอย่างอ่อนช้อยงดงามจนไม่น่าเชื่อสายตา แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติประเทศไทยอย่างสูงสุด อีกทั้งมุ่งเน้นความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างไทยและจีนอย่างโดดเด่นและชัดเจนจนน่าอิจฉาในสายตาผู้แทนจากประเทศอื่น ๆ และสร้างความประทับใจอย่างตกตะลึงให้กับคนไทยเพียง 3 ท่านที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความภาคภูมิใจในประเทศของตัวเอง และทราบซึ้งในเกียรติภูมิที่ได้รับจากชาติมหาอำนาจอย่างออกหน้าออกตา คนไทยทั้ง 3 ท่านที่ร่วมงานยังมีความกระอักกระอ่วนและละอายใจจนแทบแทรกแผ่นดินหนีด้วยเช่นกัน เพราะนักการเมืองใหญ่ของไทยผู้ได้รับเชิญร่วมเป็นประธานในงานดังกล่าวกับผู้นำหมายเลขสองของประเทศจีนนั้น แจ้งยกเลิกการเดินทางมาเยือนจีนอย่างกระทันล่วงหน้าเพียงแค่ 3 วัน ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลจีนเตรียมการต้อนรับล่วงหน้ามานานนับเดือน เหตุเพียงเพราะตัวเองต้องการเดินทางไปชม "ฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ" ทำให้รัฐบาลจีนผู้เป็นเจ้าภาพถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลกลใดไม่ปรากฎ นักการเมืองใหญ่ท่านนั้นถึงกับบินด่วนมายังนครเฉิงตูในวันรุ่งขึ้น (26 ก.ย. 2555) เพื่อขอขมากับผู้นำจีน ซึ่งได้รับการร้องขอจากฝ่ายไทยให้เลื่อนกำหนดการเดินทางกลับกรุงปักกิ่งออกไป สำหรับเปิดโอกาสให้นักการเมืองใหญ่ของไทยเข้าพบ
กระแสข่าวทำนองว่า ใครบางคนจากแดนไกลถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เมื่อทราบเรื่องว่า คนของตัวเองหาญกล้าตบหน้าผู้นำจีนอย่างไม่ให้เกียรติ และสร้างความอับอายเสียหายให้กับประเทศไทยและรัฐบาลจีนอย่างสุดบรรยาย จึงสั่งการด่วนให้นักการเมืองใหญ่ท่านนั้นรีบเดินทางไปจีนเพื่อขอขมาผู้นำจีนทันที
**"วัฒนา"แจงแทน"สมศักดิ์"ไม่จำเป็นต้องแจงภาพดูบอลที่อังกฤษ
ที่รัฐสภา นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกส่วนตัวประธานสภาผู้เเทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวเรียกร้องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงรายละเอียดกรณีการเดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ จนทำให้ไม่ได้ไปร่วมพิธีเปิดงานเอ็กซ์โป ที่ประเทศจีน ตามคำเชิญของนายอู๋ ปัง กั๋ว ประธานสภาประชาชนของประเทศจีนว่า ประเด็นข้อสงสัยดังกล่าว ทางส.ส.และส.ว.ที่สงสัย สามารถมาสอบถามข้อมูลรายละเอียดเป็นการภายใน และสามารถสอบถามโดยตรงกับนายสมศักดิ์ได้ ซึ่งตนมองว่าประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ไม่ควรนำข้อมูลที่ปรากฎ และเผยแพร่ตามสื่อมวลชน ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง อาทิ โปรแกรมการศึกษาดูงาน มาสอบถามผ่านสื่อมวลชน เพราะจะเกิดปัญหาขึ้นได้
อย่างไรก็ตามกำหนดการเดินทางไปเยือนประเทศอังกฤษนั้น ตนทราบว่าได้มีการเตรียมงานไว้นานกว่า 2 เดือนแล้ว ส่วนการได้รับเชิญไปประเทศจีนนั้น ทราบว่าได้มีการเชิญอย่างเป็นทางการ และได้มีการวางคิวงานไว้แล้ว ดังนั้นตนคาดว่ากรณีที่นายสมศักดิ์เดินทางไปประเทศอังกฤษก่อนไปเยือนประเทศจีน จะไม่ทำให้เสียงาน
"เรื่องการดูบอลของท่านสมศักดิ์ ผมเคยชี้แจงให้กับประชาชนในพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีกลุ่มหนึ่งที่ซักถามว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยผมบอกว่า ท่านได้ใช้เวลาไปดู ในวันอาทิตย์ซึ่งในประเทศไทย วันอาทิตย์ถือเป็นวันครอบครัว ดังนั้นเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่การนำภาพการชมฟุตบอลมาเผยแพร่ ประเด็นนี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือไม่" นายวัฒนา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นนี้นายสมศักดิ์ จะออกมาชี้แจงหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันได้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่ทำได้ ซึ่งเรื่องส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวกับทางราชการจะชี้แจงหรือไม่ชี้แจงก็ได้ ทั้งนี้ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องชี้แจง เมื่อถามต่อว่า ในประเด็นที่ถูกวิจารณ์ คือ ภาพของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีน นายวัฒนา กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะนายสมศักดิ์ได้เดินทางไปประเทศจีนแล้ว แม้จะเป็น 1วันหลังจากที่มีพิธีเปิดก็ตาม อย่างไรก็ตามตนขอเรียกร้องหา ส.ส. หรือ ส.ว.มีประเด็นข้อสงสัยในประเด็นเหล่านี้ ขอให้มีการสอบถามเป็นการภายใน อย่าสอบถามผ่านสื่อมวลชน เพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย แต่หากมีการสอบถามภายในแล้ว พบว่าเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ค่อยนำมาเปิดเผยผ่านสื่อมวลชน
**บุญยอดเตรียมส่งเรื่อง ให้กก.สอบ
นายบุญยอด สุขถิ่นไทย โฆษกคณะกรรมาธิการกิจสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จะมีการเสนอเรื่องการไปดูงานรัฐสภาต่างประเทศ ของ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปยัง คณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร หลังจากคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการนำสื่อมวลชนไปดูงานที่ประเทศอังกฤษ ของประธานสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร นั้นจะมี นายสมศักดิ์ เป็นประธาน แต่เนื่องจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ จึงมีความเหมาะสมมากกว่าที่จะเป็นผู้พิจารณาว่า ควรจะดำเนินการกับ นายสมศักดิ์ อย่างไรในกรณีนี้
"พอไล่รายละเอียดจนจบ พอไล่ความสัมพันธ์ระหว่างราชการกับสื่อจนจบ ผมคิดว่า คณะกรรมาธิการกิจการสภา คงไม่ฟันธงว่าที่ผ่านมา มันถูก มันผิดอย่างไร ก็เอารายละเอียดตรงนี้ ไปให้คณะกรรมการอีกชุดหนึ่ง ที่มีอำนาจมากกว่า และเป็นผู้ใหญ่กว่า คิดว่า ชุดนี้จะมีอำนาจติติงประธานสภาได้ นั่นก็คือ คณะกรรมการจริยธรรม"
นายบุญยอด เปิดเผยว่า การตรวจสอบงบประมาณเกี่ยวกับการเดินทางไปดูงานรัฐสภาต่างประเทศของนายสมศักดิ์ ได้ดูรายละเอียดในส่วนของการเช่าที่พัก การรับประทานอาหาร การเช่ารถบัสนำเที่ยว การศึกษาดูงานในสถานที่ต่างๆ รวมถึงการตรวจสอบบริษัททัวร์ที่ดำเนินการทั้งหมด เนื่องจากงบประมาณในส่วนต่างๆ เหล่านี้ ผู้ติดตามไปศึกษาดูงานจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
