วุฒิสภาขยายเวลาสอบคำร้องแก๊งแดงยื่นถอด 7 ตุลาการ 30 วัน เผยเลือกประธานวุฒิฯ 14 ส.ค. ด้านกลุ่ม 40 ส.ว.ทวงจุดยืน “นิคม” ลาออกรองประธานวุฒิฯ ก่อนลงชิงเก้าอี้ เจ้าตัววอนอย่ากดดัน อ้างไม่แน่ใจถูกเสนอชื่อ
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 รักษาการประปรานวุฒิสภา นายนิคมได้ขออนุญาตที่ประชุมเพื่อขยายเวลาการตรวจสอบเอกสารหลักฐานตามคำร้องขอถอดถอน 7 ตุลาการรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีปัญหารายชื่อประชาชนที่ยื่นถอดถอนประมาณ 7,500 รายชื่อเกิดความผิดพลาด จึงแจ้งทางผู้ร้องคือ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช.และคณะให้ดำเนินการให้ครบถ้วน
ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้คัดค้าน โดยระบุว่าคำร้องยื่นถอดถอนดังกล่าวน่าจะตกไปแล้วตามข้อบังคับของวุฒิสภา และตามรัฐธรรมนูญ แต่นายนิคมชี้แจงว่าเป็นความผิดพลาดแค่การกรอกวันที่ซึ่งไม่น่าเป็นการตัดสิทธิประชาชน แต่น่าสมชายยังท้วงติงว่าเป็นการท้วงติงไว้เพราะเห็นว่ากรณีนี้น่าจะเป็นประเด็นปัญหาในอนาคต แต่เมื่อนายนิคมขอขยายเวลาตรวจสอบไปอีก 30 วัน โดยจะครบกำหนดในวันที่ 6 ก.ย.
จากนั้นนายนิคมได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงกำหนดการและขั้นตอนในการเลือกประธานวุฒิสภา ว่าจากเดิมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ได้วางกรอบไว้ 3 วัน คือ วันที่ 10, 14 หรือ 17 ส.ค.นี้ แต่จากการตรวจสอบล่าสุดในวันที่ 10 ส.ค. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ได้กำหนดพิธีทำบุญรัฐสภาโดยได้นิมนต์พระสงฆ์ระดับสังฆาธิการ พระราชาคณะ 400 รูปมาที่รัฐสภาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร 60 พรรษา และเพื่อความเป็นมงคลของรัฐสภา และมงคลประเทศ ขณะที่วันที่ 17 ส.ค.จะมีพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ใหญ่บ้านและกำนัน รวมทั้งสตรีแด่น ดังนั้นจึงกำหนดวันเลือกปรานวุฒิสภาเป็นวันอังคารที่ 14 ส.ค. เวลา 10.00 น. จึงขอหารือที่ประชุมเพื่อกำหนดขั้นตอนการเลือกและกำหนดการแสดงวิสัยทัศน์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรากฏว่ากลุ่ม 40 ส.ว.นำโดยนายสมชาย แสวงการ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา และ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ได้ทวงถามถึงจุดยืนของนายนิคมที่เคยพูดก่อนหน้านี้ว่าจะลาออกจากตำแหน่งหากมีผู้เสนอชื่อให้ลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา โดยนายคำนูณกล่าวว่า หากพร้อมรับการเสนอชื่อก็ควรลาออกก่อนวันเลือก เพื่อจะได้ดำเนินการเลือกตำแหน่งรองประธานควบคู่กันไป เพราะจะมีผลต่อเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภาด้วย เพราะหากท่าจะไปตัดสินใจลาออกในวันเลือกประธานวุฒิสภาเลย สมาชิกหลายคนพูดกันว่าจะมีผลต่อกดารตัดสินใจในการเลือกผู้เสนอชื่อรายอื่นด้วย ดังนั้น น่าจะถือเป็นโอกาสดีหากจะแสดงความชัดเจนโดยการลาออกก่อน เพราะตนเชื่อโดยบริสุทธิ์ว่าจะเป็นผลดีต่อตัวท่านเอง
ด้าน นายนิคมชี้แจงว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีใครเสนอชื่อตนลงชิงตำแหน่งหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ให้สัมภาษณ์มาโดยตลอดว่าจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่มีการเลือกตำแหน่งประธาน ตนขอรอดูเหตุการณ์ก่อน เพราะไม่อยากกลายเป็นคนกลืนเลือด หรือกลับคำพูดบ่อยๆ ก็ขอให้เห็นใจอย่าได้มากดดันตนเลย ขอเป็นเอกสิทธิ์ตนบ้าง แต่ขอบอกว่าชีวิตของตนมาถึงขั้นนี้ก็ไกลแล้ว และวันนี้ก็อยู่ที่พวกท่านจะให้ตนเป็นอะไร อย่างไร ตนมีความเป็นนักกีฬารู้แพ้รู้ชนะ
ขณะที่ นายสมชายยังพูดดักคอว่า ไม่ได้เป็นการกดดัน ให้เป็นการตัดสินใจของท่านเอง แต่คิดว่ามีคนเสนอชื่อท่านแน่ หากไม่มีใครเสนอตนจะอาสาเสนอเอง ซึ่งนายนิคมได้ตัดบทว่า เรื่องนี้ขอให้ไปดูกันในวันที่ 14 ส.ค.เลย ซึ่งขั้นตอนในการเลือกประธานวุฒิสภานั้นจะให้ผู้สมัครได้แสดงวิสัยทัศน์คนละ 10 นาที จากนั้นลงคะแนนโดยวิธีลับ ให้ขานชื่อไปกาบัตรในคูหา ถ้าผู้สมัครคนใดได้คะแนนเกินกึ่งคือ 73 คะแนนถือว่าได้รับเลือกเลย แต่หากในรอบแรกไม่มีใครได้เกินกึ่งหนึ่ง ให้นำผู้ที่มีคะแนนสูงสุดใน 2 อันดับแรกมาลงคะแนนอีกครั้ง โดยผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดถือว่าได้รับเลือก
