ASTVผู้จัดการรายวัน-“บิ๊กแจ๊ส”บอก กมธ.ตำรวจ ยันไม่มีการจัดตั้งม็อบตำรวจบุก ปชป. อ้างกว่า200นาย ที่ไป เป็นกำลังเพื่อดูแลเหตุ ด้าน “จ่าเสื้อแดง” ออกลูกป่วน “เหลิม”ซัดไร้สาระ มาหาเรื่อง "คำรณวิทย์" เย้ยคงไม่เคยรู้จักตำรวจดี เพราะรู้จักแต่ตำรวจหิ้วปิ่นโต
วานนี้ (26ก.ย.) ที่รัฐสภา เวลา 13.30น. ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสมชาย โล่ห์สถาพรพิพิฐ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมพิจารณาเรื่องขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบ.ชน.) เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประดับยศและไม่ดำเนินการจับกุมอดีตนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันได้พิจารณากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 300 นาย มาชุมนุมหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีการสั่งให้ขนตำรวจเดินทางไป หรือไปด้วยความสมัครใจ ซึ่งถือเป็นการคุกคามพรรคการเมือง และขณะเดินทางไปชุมนุมอยู่ในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจเรตำรวจแห่งชาติ และผบ.ชน. มาชี้แจง
ทั้งนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส. ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษากรรมาธิการ ผู้ยื่นญัตติ ตั้งข้อสังเกตก่อนการแถลงว่าตัวแทนจากจเรตำรวจมียศต่ำกว่าผู้ถูกตรวจสอบอาจทำให้มีปัญหาหรือไม่ เพราะสิ่งที่ตนเสนอ ถือเป็นพฤติกรรมที่กระทบต่อวงการตำรวจ จากกรณีที่ผบ.ชน. ไปกดดันหรืออาจจะบังคับ จนทำให้เกิดพฤติกรรมที่ขัดต่อพ.ร.บ.ตำรวจ จากที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ใช้สิทธิยื่นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความเป็นมาของภาพที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีติดยศให้ จากเรื่องนี้อาจทำให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่พอใจและให้สัมภาษณ์ว่าจะไปยื่นหนังสือกับพรรค หากผู้ใต้บังคับบัญชาอยากให้กำลังใจให้มาที่พรรค ตนจึงสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวอาจผิดต่อกฏระเบียบของตำรวจหรือไม่และการที่ตำรวจมารวมตัวกันสามารถทำได้ตามสิทธิของการชุมนุม เมื่อค้นจากประมวลจริยธรรมของตำรวจพบว่าการกระทำที่เกิดขึ้นอาจเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมโดยการละเว้นไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจ เพราะไม่รักษาความเป็นกลางทางการเมือง โดยเฉพาะการเดินทางมาของเจ้าหน้าที่บางส่วนอาจเป็นการละทิ้งหน้าที่เนื่องจากอยู่ในเวลาราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างการแถลงของนายสาธิตได้นำคลิปภาพที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของนายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรคเพื่อไทยมาเปิดให้กรรมาธิการชม โดยมีเนื้อหาเป็นการเปิดใจพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เกี่ยวกับภาพที่ถ่ายกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยตั้งข้อสังเกตว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์ อาจวางตัวไม่เป็นกลาง การปล่อยให้ลูกน้องมาชุมนุมอาจเป็นการส่งเสริมให้ละทิ้งหน้าที่ โดยในการเดินทางมายังพรรคประชาธิปัตย์ มีการพกอาวุธประจำกายมาด้วย ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จึงขอให้กรรมาธิการพิจารณาว่าเป็นการผิดประมวลจริยธรรมและพ.ร.บ.ตำรวจหรือไม่ หากเป็นความผิดขอให้กรรมาธิการดำเนินการตามขั้นตอน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ชี้แจงว่า กรณีที่ตนจะไปพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการไปเพื่อยื่นหนังสือทำความเข้าใจ ไม่ได้ไปเพื่อคัดค้านสิ่งที่พรรคได้ยื่นตรวจสอบ โดยเมื่อไปแถลงข่าวกับสื่อมวลชนปรากฏว่ามีตำรวจสนใจอยากติดตามไปด้วย ตนไม่ทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลมากขนาดนั้น โดยเมื่อรู้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ชั้นประทวนเดินทางไป จึงได้ทัดทานไว้ แต่เนื่องจากวันเดียวกันมีการชุมนุมที่หน้าสถานฑูตสหรัฐฯ และมีการปิดถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งได้มีการจัดกำลังไปดูแล การมาของตำรวจไม่ได้มีการเกณฑ์มาแต่อย่างใด
ขณะที่นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ตนเห็นว่าภาพที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการเกณฑ์กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะตำรวจมาเป็นม็อบเสียเอง เกียรติและวินัยของตำรวจอยู่ที่ไหน
ด้านพ.ต.ท.ชัยพันธ์ เพ็ชรสดศิลป์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ กล่าวว่า เมื่อได้ทราบเหตุ ตนได้เข้ามาดูแลเหตุ โดยในวันเดียวกันมีการชุมนุม3จุด ในพื้นที่ สน.บางซื่อ
พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 กล่าวว่า เมื่อทราบเหตุ เกรงว่าจะมีการกระทบกระทั้ง จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ1กองร้อยหรือ150คนในส่วนของนครบาล2มาดูแล โดยมีทั้งกำลังในโรงพักและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่ดูแลการชุมนุมให้มาดูแลสถานการณ์
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า กองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปที่พรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งเดินทางไปดูแลสถานการณ์ โดยอย่างน้อยมีกำลังประมา200นายที่มาดูแล เนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อ 2 สถานีที่ตำรวจต้องดูแล
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทย ในฐานะกรรมาธิการ ตั้งข้อสงสัยว่า อยากถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการติดรูปที่ถ่ายกับพ.ต.ท.ทักษิณไว้ และการมาชุมนุมของตำรวจได้รับคำแนะนำจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวยืนยันว่า ร.ต.อ. เฉลิม ไม่เกี่ยวข้องการที่มีตำรวจมาให้กำลังใจตน ไม่มีใครปลุกม็อบมาได้ มันเป็นเรื่องที่อยู่ที่ใจ
ทั้งนี้ กรรมาธิการยังมีความสงสัยที่ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์ บางนายมีอาวุธประจำกายมาด้วย ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยต่อประชาชน โดยพ.ต.อ.พีระพงศ์ ชี้แจงว่า อาจมีการพลั้งเผลอของเจ้าหน้าที่บางนาย โดยปกติ ตนได้เน้นย้ำผู้ใต้บัคับบัญชาให้ระมัดระวังและปลดอาวุธก่อนปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ ในการพิจารณา จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้หันมาซักถามนายสาธิตว่ามีเจตนาอย่างไร จึงเสนอญัตติเรื่องนี้ ดูเป็นเรื่องไร้สาระ ตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปเป็นการเดินทางไปเอง ถึงจะมีการพกอาวุธ แต่ก็เป็นการพกขณะแต่งเครื่องแบบไป ในวันดังกล่าวตนก็เดินทางไป และไม่เห็นว่าผิดอะไร ที่ถามเรื่องนี้ อยากถามเรื่องภาพพ.ต.ท.ทักษิณ และจะว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นโจร ก็ถามมาเลยดีกว่า
ด้านนายสาธิต ยืนยันว่าการเสนอญัตติเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของสถาบันตำรวจ ก่อนที่จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์และนายชูวิทย์ จะออกจากห้องประชุมเพื่อไปลงมติ
อีกด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องไร้สาระ การที่จะบอกว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มันต้องมีหน้าที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นผบช.น. ของประเทศไทย ไม่ใช่ผบช.น. นครดูไบ มันไร้สาระ พวกไม่มีงานทำ ตอนนี้เขากำลังทำงานลอกท่อแก้ปัญหาน้ำท่วม จับโจรผู้ร้าย เป็นคนไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล ตำรวจอย่างนี้หาที่ไหนได้ พรรคประชาธิปัตย์ชอบตำรวจหิ้วปิ่นโต เปิดประตูรถ ไม่รู้จักตำรวจดี ตนอยากถามว่าเขาผิดอะไร กรรมาธิการสภาเรียกไปชี้แจง ก็ชี้แจงไป หรือไม่ต้องชี้แจงก็ได้ เพราะกรรมาธิการสภาไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่อัยการ ไม่ใช่ศาล แค่รับฟังความคิดเห็น จะมีอะไรก็แอคอาร์ทไปอย่างนั้น เรียกพล.ต.ท.ไปชี้แจง เอ๊ะอะตึงตัง ฝรั่งเรียกว่านอนเซนต์ ไร้สาระ
วานนี้ (26ก.ย.) ที่รัฐสภา เวลา 13.30น. ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการการ (กมธ.) ตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายสมชาย โล่ห์สถาพรพิพิฐ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมพิจารณาเรื่องขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบ.ชน.) เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประดับยศและไม่ดำเนินการจับกุมอดีตนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันได้พิจารณากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 300 นาย มาชุมนุมหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีการสั่งให้ขนตำรวจเดินทางไป หรือไปด้วยความสมัครใจ ซึ่งถือเป็นการคุกคามพรรคการเมือง และขณะเดินทางไปชุมนุมอยู่ในช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจเรตำรวจแห่งชาติ และผบ.ชน. มาชี้แจง
ทั้งนี้ นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส. ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษากรรมาธิการ ผู้ยื่นญัตติ ตั้งข้อสังเกตก่อนการแถลงว่าตัวแทนจากจเรตำรวจมียศต่ำกว่าผู้ถูกตรวจสอบอาจทำให้มีปัญหาหรือไม่ เพราะสิ่งที่ตนเสนอ ถือเป็นพฤติกรรมที่กระทบต่อวงการตำรวจ จากกรณีที่ผบ.ชน. ไปกดดันหรืออาจจะบังคับ จนทำให้เกิดพฤติกรรมที่ขัดต่อพ.ร.บ.ตำรวจ จากที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ใช้สิทธิยื่นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความเป็นมาของภาพที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีติดยศให้ จากเรื่องนี้อาจทำให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่พอใจและให้สัมภาษณ์ว่าจะไปยื่นหนังสือกับพรรค หากผู้ใต้บังคับบัญชาอยากให้กำลังใจให้มาที่พรรค ตนจึงสงสัยว่าการกระทำดังกล่าวอาจผิดต่อกฏระเบียบของตำรวจหรือไม่และการที่ตำรวจมารวมตัวกันสามารถทำได้ตามสิทธิของการชุมนุม เมื่อค้นจากประมวลจริยธรรมของตำรวจพบว่าการกระทำที่เกิดขึ้นอาจเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมโดยการละเว้นไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของตำรวจ เพราะไม่รักษาความเป็นกลางทางการเมือง โดยเฉพาะการเดินทางมาของเจ้าหน้าที่บางส่วนอาจเป็นการละทิ้งหน้าที่เนื่องจากอยู่ในเวลาราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างการแถลงของนายสาธิตได้นำคลิปภาพที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของนายอดิศร เพียงเกษ แกนนำพรรคเพื่อไทยมาเปิดให้กรรมาธิการชม โดยมีเนื้อหาเป็นการเปิดใจพล.ต.ท.คำรณวิทย์ เกี่ยวกับภาพที่ถ่ายกับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยตั้งข้อสังเกตว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์ อาจวางตัวไม่เป็นกลาง การปล่อยให้ลูกน้องมาชุมนุมอาจเป็นการส่งเสริมให้ละทิ้งหน้าที่ โดยในการเดินทางมายังพรรคประชาธิปัตย์ มีการพกอาวุธประจำกายมาด้วย ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จึงขอให้กรรมาธิการพิจารณาว่าเป็นการผิดประมวลจริยธรรมและพ.ร.บ.ตำรวจหรือไม่ หากเป็นความผิดขอให้กรรมาธิการดำเนินการตามขั้นตอน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ชี้แจงว่า กรณีที่ตนจะไปพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการไปเพื่อยื่นหนังสือทำความเข้าใจ ไม่ได้ไปเพื่อคัดค้านสิ่งที่พรรคได้ยื่นตรวจสอบ โดยเมื่อไปแถลงข่าวกับสื่อมวลชนปรากฏว่ามีตำรวจสนใจอยากติดตามไปด้วย ตนไม่ทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลมากขนาดนั้น โดยเมื่อรู้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ชั้นประทวนเดินทางไป จึงได้ทัดทานไว้ แต่เนื่องจากวันเดียวกันมีการชุมนุมที่หน้าสถานฑูตสหรัฐฯ และมีการปิดถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งได้มีการจัดกำลังไปดูแล การมาของตำรวจไม่ได้มีการเกณฑ์มาแต่อย่างใด
ขณะที่นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ตนเห็นว่าภาพที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการเกณฑ์กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะตำรวจมาเป็นม็อบเสียเอง เกียรติและวินัยของตำรวจอยู่ที่ไหน
ด้านพ.ต.ท.ชัยพันธ์ เพ็ชรสดศิลป์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ กล่าวว่า เมื่อได้ทราบเหตุ ตนได้เข้ามาดูแลเหตุ โดยในวันเดียวกันมีการชุมนุม3จุด ในพื้นที่ สน.บางซื่อ
พ.ต.อ.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 กล่าวว่า เมื่อทราบเหตุ เกรงว่าจะมีการกระทบกระทั้ง จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ1กองร้อยหรือ150คนในส่วนของนครบาล2มาดูแล โดยมีทั้งกำลังในโรงพักและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่ดูแลการชุมนุมให้มาดูแลสถานการณ์
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า กองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปที่พรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งเดินทางไปดูแลสถานการณ์ โดยอย่างน้อยมีกำลังประมา200นายที่มาดูแล เนื่องจากเป็นพื้นที่รอยต่อ 2 สถานีที่ตำรวจต้องดูแล
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทย ในฐานะกรรมาธิการ ตั้งข้อสงสัยว่า อยากถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการติดรูปที่ถ่ายกับพ.ต.ท.ทักษิณไว้ และการมาชุมนุมของตำรวจได้รับคำแนะนำจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวยืนยันว่า ร.ต.อ. เฉลิม ไม่เกี่ยวข้องการที่มีตำรวจมาให้กำลังใจตน ไม่มีใครปลุกม็อบมาได้ มันเป็นเรื่องที่อยู่ที่ใจ
ทั้งนี้ กรรมาธิการยังมีความสงสัยที่ปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์ บางนายมีอาวุธประจำกายมาด้วย ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยต่อประชาชน โดยพ.ต.อ.พีระพงศ์ ชี้แจงว่า อาจมีการพลั้งเผลอของเจ้าหน้าที่บางนาย โดยปกติ ตนได้เน้นย้ำผู้ใต้บัคับบัญชาให้ระมัดระวังและปลดอาวุธก่อนปฏิบัติหน้าที่
นอกจากนี้ ในการพิจารณา จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้หันมาซักถามนายสาธิตว่ามีเจตนาอย่างไร จึงเสนอญัตติเรื่องนี้ ดูเป็นเรื่องไร้สาระ ตนเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางไปเป็นการเดินทางไปเอง ถึงจะมีการพกอาวุธ แต่ก็เป็นการพกขณะแต่งเครื่องแบบไป ในวันดังกล่าวตนก็เดินทางไป และไม่เห็นว่าผิดอะไร ที่ถามเรื่องนี้ อยากถามเรื่องภาพพ.ต.ท.ทักษิณ และจะว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นโจร ก็ถามมาเลยดีกว่า
ด้านนายสาธิต ยืนยันว่าการเสนอญัตติเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของสถาบันตำรวจ ก่อนที่จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์และนายชูวิทย์ จะออกจากห้องประชุมเพื่อไปลงมติ
อีกด้านร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องไร้สาระ การที่จะบอกว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มันต้องมีหน้าที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นผบช.น. ของประเทศไทย ไม่ใช่ผบช.น. นครดูไบ มันไร้สาระ พวกไม่มีงานทำ ตอนนี้เขากำลังทำงานลอกท่อแก้ปัญหาน้ำท่วม จับโจรผู้ร้าย เป็นคนไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล ตำรวจอย่างนี้หาที่ไหนได้ พรรคประชาธิปัตย์ชอบตำรวจหิ้วปิ่นโต เปิดประตูรถ ไม่รู้จักตำรวจดี ตนอยากถามว่าเขาผิดอะไร กรรมาธิการสภาเรียกไปชี้แจง ก็ชี้แจงไป หรือไม่ต้องชี้แจงก็ได้ เพราะกรรมาธิการสภาไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่อัยการ ไม่ใช่ศาล แค่รับฟังความคิดเห็น จะมีอะไรก็แอคอาร์ทไปอย่างนั้น เรียกพล.ต.ท.ไปชี้แจง เอ๊ะอะตึงตัง ฝรั่งเรียกว่านอนเซนต์ ไร้สาระ