xs
xsm
sm
md
lg

"เจริญ"แจงกมธ.สภาฯมัด"หลอง" ขู่เอาที่อุทยานปลูกยาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (30ส.ค.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจาณา กรณีคลิปเสียงของนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ข่มขู่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โดยทาง กมธ.ได้เชิญ นายเจริญ ใจชน อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และ นายฉลอง เข้าชี้แจง แต่นายดำรงค์ ติดภาระกิจเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่ได้เข้ารวมชี้แจง
ทั้งนี้ นายเจริญ ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวมีชาวบ้าน และผู้ใหญ่บ้าน ร้องเรียนพร้อมทำหนังสือมาที่ตนว่า มีนายทุนบุกรุกป่าเพื่อปลูกยางพารา ตั้งแต่ ปี 2547 ทางอุทยานฯ จึงได้เข้าตรวจสอบพบว่า นายไพบูลย์ เย็นใจ นายทุน และเป็นเพื่อนกับนายฉลอง ได้บุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าวจริง จึงได้ดำเนินคดี ตั้งแต่เดือนส.ค. เรี่อยมาจนถึงเดือนธ.ค.47
ทั้งนี้ จากการตรวสอบพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าจริงใน 3 คดี คือ คดีแรกเป็นการบุกรุกพื้นที่ 62 ไร่ เพื่อปลุกยางพารา แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากขาดเจตนา แต่ทางอุทยทานได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าเสีย โดยศาลมีคำพิพากษาว่าให้ นายไพบูลย์ชดเชยค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 3.5 ล้านบาท พร้อมทั้งขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากที่พื้นพิพาท ต่อมานายไพบูลย์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุธรณ์ภาค 7 จึงมีคำสั่งให้นายไพบูลย์ ชดเชยค่าเสียหายจำนวน 1.5 ล้านบาท
คดีที่ 2 กรณีบุกรุกพื้นที่ป่า 40 ไร่ ศาลมีคำสั่งว่า ขาดเจตนาและมีคำสั่งให้นายไพบูลย์ ชดใช้เงินจำนวน 2.2 ล้านบาท ซึ่งนายไพบูลย์ ได้ยื่นอุธรณ์จนศาลมีคำสั่งให้จ่ายเพียง 1.1 ล้านบาท
คดีที่ 3 มีการบุกรุกป่าจำนวน 1 ไร่ ศาลพิพากษาว่า นายไพบูลย์ มีความผิด โดยมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ในส่วนคดีขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่นั้น ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
นายเจริญ กล่าวว่า หลังจากที่ดำเนินคดีฟ้องร้องไปแล้ว ตนได้เดินทางไปร่วมงานศพในพื้น และได้พบกับนายไพบุลย์ ซึ่งนายไพบูลย์ ได้เดินมากะทบไหล่ตน แต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ต่อมาในช่วงเย็นวันนั้น( 8 ก.ย.54) มีโทรศัพท์หมายเลข 06125888 โทรมาหาตน 2 ครั้ง และอ้างว่าเป็น นายฉลอง โดยกำชับกับตนว่า อย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของนายไพบูลย์ ตนจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้
ต่อมาวันที่ 21 ก.ย. 54 มีการโทรมาข่มขู่อีกครั้ง อ้างว่าเป็นนายฉลอง เรี่ยวแรง ความยาว 25.27 นาที โดยระบุว่า พื้นที่พิพาทดังกล่าว ไม่ใช่พื้นที่ของอุทยานฯ แต่เป็นพื้นที่ของนิคมไม่ใช่หรือ จากนั้นวันที่ 22 ก.ย. 54 นายไพบูลย์ ได้เข้าพบกับผู้บังคับบัญชาของตน พร้อมสร้างเรื่องอันเป็นเท็จ และในวันที่ 23 ก.ย. 54 ผู้บังคับบัญชาของตน ได้มีคำสั่งที่ 1172/ 2554 ย้ายให้ตนไปช่วยราชการที่สำนักงานกรมอุทยานแห่งชาติส่วนกลาง และได้แต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม แทน ซึ่งในคำสั่งได้สั่งให้ตนเข้ารับการปฎิบัติหน้าที่ใหม่ ในวันที่ 23 ต.ค.54


** "เพื่อนหลอง"กุเรื่องต้นเหตุถูกสั่งย้าย

นายเจริญ กล่าวด้วยว่า หลังจากตนถูกสั่งย้าย นายไพบูลย์ ก็ได้โทรศัพท์มาเยาะเย้ย ถากถาง พร้อมทั้งระบุว่า เป็นฝีมือของนายไพบูลย์ ที่สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อใส่ร้าย จนทำให้ตนถูกโยกย้าย จากนั้นเมื่อตนเข้ามาช่วยราชการที่กทม. และในวันที่ 8 ธ.ค. 54 ตนได้นำหลักฐานทั้งหมด เข้ายื่นต่ออธิบดี จากนั้นวันทื่ 14 ธ.ค. ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา จนมีผลสรุปว่า ตนไม่มีความผิด
ด้านนายฉลอง กล่าวยอมรับว่า คลิปเสียงที่ปรากฏ เป็นเสียงของตนจริง และยืนยันว่า ไม่เคยข่มขู่นายเจริญ และไม่เคยสั่งย้ายนายเจริญให้ไปช่วยราชการที่อื่น ส่วนสาเหตุที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ก็เพื่อต้องการไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างนายเจริญ กับนายไพบูลย์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับตน เนื่องจากนายไพบูลย์ บอกกับตนว่า ถูกนายเจริญกลั่นแกล้งมาโดยตลอด จับกุมหัวปี ท้ายปี
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการเปิดโอกาสให้กรรมาธิการได้ซักถาม โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ถามว่า ทำไมเรื่องดังกล่าวผ่านมา 1 ปีแล้ว จึงไม่เปิดเผย หากไม่ได้รับความเป็นธรรม ควรจะมีการเปิดเผยมาตั้งนานแล้ว ซึ่งนายเจริญ ชี้แจงว่า คลิปเสียงดังกล่าว ตนไม่ได้เปิดเผย แต่ได้มีการมอบคลิป และข้อมูลต่างๆให้กับผู้บังคับบัญชา เพราะตนกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย

**ฉลองอ้างเจริญเรียกรับสินบน 2 แสน

ด้านนายฉลอง ได้ชี้แจงพร้อมกับระบุว่า นายเจริญ มีการเรียกรับเงินสินบนจำนวน 2 แสนบาท ซึ่งตนก็ไม่เชื่อว่าจะมีข้าราชการจะเรียกรับเงิน ทำให้นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกมธ. แย้งนายฉลองว่า เรื่องดังกล่าว นายฉลอง ไม่ได้แนบเอกสารที่จะพิจารณาในเรื่องการเรียกรับเงินสินบน 2 แสนบาทมาก่อน ทำให้นายเจริญ ชี้แจงว่า ตลอดชีวิตข้าราชการที่ผ่านมา ไม่เคยเรียกรับเงินสินบนดังกล่าว ดังนั้น จึงไม่มีประวัติเสียหายในด้านนี้
จากนั้นนายฉลองและนายเจริญ จึงชี้แจงในประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขว้าง โดยนายฉลอง ได้กล่าวขอโทษนายเจริญ ที่ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง และรู้สึกเสียใจ เมื่อทราบว่านายเจริญ ถูกสั่งย้าย พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่ได้เข้าไปดำเนินการในเรื่องการสั่งย้าย เพราะเป็นหน้าที่ของอธิบดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการพิจารณา ประธานได้สอบถามฝ่ายกฎหมายของกมธ.ว่า จะสามารถให้นายเจริญ กลับไปช่วยราชการในพื้นที่ ได้หรือไม่ ตามการร้องขอของนายเจริญ แต่ทางฝ่ายกฎหมายของกมธ.แจ้งว่า ขัดข้อกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินการตามที่ร้องขอได้ ขณะที่นายเจริญ ก็ไม่ได้ติดใจ แต่ให้เหตุผลเรื่องความไม่ปลอดภัย ทั้งนี้นายนริศ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า จะเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงในกมธ.อีกครั้ง เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างรอบด้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจบการชี้แจงต่อกมธ. นายฉลอง ได้เดินมาจับมือนายเจริญ ก่อนเดินออกมาด้านนอกห้องประชุม และสนทนาเป็นการส่วนตัวกับนายเจริญ นานกว่า 20 นาที โดยนายฉลอง กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า “พี่ไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือสั่งย้ายน้อง”
กำลังโหลดความคิดเห็น