วานนี้(21 ส.ค.55) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกระแสแสดงความไม่พอใจ จากกลุ่มผู้ใช้โซเชียลมีเดีย หลังจากในเฟสบุ๊ค “สกายรีพอร์ท” รายการหนึ่งในไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เผยแพร่ให้แฟนเพจ สนับสนุนให้คนกดไลท์ (Live) ให้นายดำรงค์ พิเดช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ได้ 1 ล้านคน เพื่อสนับสนุนให้นายดำรง ได้ทำงานในตำแหน่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชต่อไป
โดยมีรายงานว่า อีก 1 เดือน นายดำรงค์ พิเดช จะเกษียณอายุราชการในปี 2555 ขณะที่มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีการต่ออายุราชการให้กับนายดำรงค์อีก 1 ปี ทั้งนี้ก่อนหน้ามีกระแสข่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่ามีความพยายามที่จะย้ายนายดำรง ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้ว
ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนผ่านช่องทางของ “สกายรีพอร์ท” ส่วนใหญ่เห็นด้วย พบว่า กว่า 105,578 คน ได้กดไลท์ โดยบางรายเปรียบเทียบ นายดำรงค์ เปรียบเหมือน “สืบ นาคะเสถียร”ของคนไทย ขณะที่อีกรายเขียนว่า “เกลียดพวกรีสอร์ทบุกรุกที่หลวง แล้วมาตู่ว่าเป็นของตัวเอง เอาชาวบ้านมากดดันเจ้าหน้าที่อีก เลวมาก เห็นแก่ตัวที่สุด สู้ๆค่ะท่านดำรง”
“เห็นด้วยอยากให้ท่านอยู่ต่อจะได้ผืนป่าจากไอ้พวกโกงแผ่นดิน และขอสาปแช่งไอ้พวกเอาป่าไปเป็นของตระกูลมันให้มันเจ็บป่วยนอนแบกสารพัดโรคและพวกราชการที่รู้เห็นเป็นใจกับพวกเปตรด้วยสาธุ”
“ยินดีด้วยท่านเป็นแกนนำเสื้อแดงที่ดี อนาคตนักการเมืองรอท่านอยู่ สู้ต่อไปเพื่ออนาคตการเมือง แต่อย่าลืมว่าทำอะไรไว้ในอดีตเค้าขุดคุ้ยกันกระจุย”
“คนแบบนี้สมควรต่ออายุ ราชการให้นะ จะได้ทำงานให้ประเทศชาติ ,ต่ออายุราชการให้ดำรง พิเดช อีกหนึ่งปี ประเทศไทยจะได้ที่คืนล้านไร่”
**กลุ่มค้านซัดเชียร์ออกนอกหน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ได้นำเสนอข้อความ ระบุว่า สื่อชี้นำสังคมไปถูกทางจริงหรือ สกายรีพอร์ทเชียร์สุดใจ สนับสนุนให้คนกดไลท์ ดำรงให้ล้าน เชียร์ออกนอกหน้าไม่สนคดีเก่า ถลุงงบประมาณ 5 ล้านบาท ขนเจ้าหน้าที่ชุมนุมเสื้อแดง
ขณะที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วย รุบว่า “SKY Report กลบข่าว ฉลอง ว่างั้น”
บางรายระบุว่า การขายตัวเพื่อเอาเงินมาสนองตัณหาของนักข่าวและข้าราชการเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ดำรง ควรจะถูกไล่ออกจากข้าราชการไปตั้งนานแล้ว มันปล่อยให้มีการสร้างรีสอร์ทในเขตอุทยานได้ยังไง การสั่งรื้อถอนเป็นการประจานการทำงานของมันอยู่แล้ว
อีกรายระบุว่า แกจะเกษียณแล้ว..น่าจะทำมานานแล้ว หรือเตรียมตัวเล่นการเมือง... อีกคนเห็นว่า เป็นนักฉวยโอกาสมากกว่า คนไม่ดี
ขณะที่อีกคน แสดงความเห็นด้วยว่า ควรรักษาป่า แต่ง่ายไปไหม ปล่อยให้สร้างก่อน ปล่อยปละละเลยกินจนอ้วนแล้วค่อยทุบทิ้ง มาง่ายนี่นา นั่งรถมา สี่เลนแป๊บเดียวถึง แต่ที่แบบต้นน้ำลำธาร ไปจับยากๆไม่ไป ป่าวังน้ำเขียวที่อุทยานจริง แต่ต้นน้ำลำธารจริงหรือเปล่าไม่รู้ ต้องถามคนพื้นที่เดิม
อีกคนบอกว่า เห็นเฉลิม ชูวิทย์ แล้ว อย่าลืมนึกถึง ดำรงค์ พิเดชนะครับ สไตร์เดียวกันครับผม ไม่ต้องอธิบาย คนพวกนี้ชอบหากินบนความสะใจของสังคม แต่...คุณคงหลอกคนไทยบางส่วนได้เท่านั้นแต่คนไทยส่วนหนึ่ง "รู้ทันคุณ"
“ตอนเค้าสร้างเป็นปี นิ่งเฉย จะเกษียณ โชว์ผลงานหรือเปล่า”อีกหนึ่งข้อความ
บางข้อความระบุว่า “ผมว่า ณ เวลานี้ จังหวะนี้ ประชาชนอย่างเราไม่มีใครได้ ไม่มีใครเสีย ปล่อยให้เขาจัดการนายทุนไปก่อนเถอะครับ ณ เวลานี้ เรามีแต่ได้ พื้นที่ป่าคืนมา ไม่งั้น รีสอร์ทก็จะกินขยายพื้นที่เรื่อยๆ ส่วนบางรีสอร์ทที่เตรียมลงเสาก็ชะลอไว้ก่อน เพราะกลัวของจริงโดนทุบ เพราะกฎหมายบ้านเราเกี่ยวกับคดีแบบนี้กว่าศาลจะตัดสินสูงสุด ก็ป่าเข้าไป 10 ปี แล้ว มันก็กินที่ไปเรื่อยๆ เมื่อศาลสูงสุดตัดสินให้ทุบ บ้านเราก็ไม่มีหน่วยงานไหนรับผิดชอบการทุบทำลายค่าใช้จ่ายหรือมีอำนาจโดยตรง”
**เอี้ยงใช้ 32 ล้าน นำเที่ยวฮอลลีวู๊ด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน แฟนเพจ“สายตรงภาคสนาม” ได้นำรูปละบทความ “อธิบดีกรมอุทยานฯพาเจ้าหน้าที่เที่ยวเคนย่า ฮอลลีวู๊ด ลาสเวกัส ใช้งบ 32 ล้าน แต่ปล่อยสัตว์ป่าของกลางหิวโซ อดตาย !”
มีใจความว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯโดยนายดำรงค์ พิเดช อธิบดี ใช้งบประมาณ 32 ล้านบาท นำเจ้าหน้าที่ 300 คนไปศึกษาดูงานที่เคนย่าและสหรัฐอเมริกา โดยมีการไปเที่ยวฮอลลีวู๊ด และลาสเวกัส ทำให้เกิดคำถามว่าการใช้จ่ายงบประมาณจากค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติเป็นไปอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะในขณะที่อธิบดีจัดงบประมาณนำทีมเจ้าหน้าที่ไปต่างประเทศ แต่กลับไม่จัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอในการดูแลสัตว์ป่าของกลางที่กรมอุทยานแห่งชาติยึดเอาไว้ ปล่อยให้ผอมโซ และอดตายไปจำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า ช้างของกลางชื่อพัง สีทอง อายุ 17 ปี ตายทั้งกลมในขณะตั้งท้องได้ 7 เดือน โดยไม่ทราบสาเหตุ และช้างตัวดังกล่าวยังตั้งท้องได้ 7 เดือน คาดว่าเพราะอยู่ในสภาพขาดน้ำในช่วงขนย้ายจากไทรโยค มาที่จ.ลำปาง
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีช้างอีกหลายเชือก ที่ถูกล่ามโซ่ เรียงกันไว้เฉยๆไม่มีอาหารและเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเพียงพอ เนื่องจากกรมอุทยานไม่ได้จัดงบประมาณในการดูแล เนื่องจาก เจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ รวมทั้งอาหารของช้าง
**ปูดคลิปขู่ขรก.สนองการเมือง
ขณะที่ “สายตรงภาคสนาม”ยังเสนอบทความพร้อมคลิปวีดีโอ ตอน "เปิดปมหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมถูกเด้ง เหตุไม่สยบให้การเมืองรุกที่อุทยาน"
นักการเมืองข่มขู่หัวหน้าเขาแหลม 1/2 http://youtu.be/u6z3m6InbdY
นักการเมืองข่มขู่หัวหน้าเขาแหลม 2/2 http://youtu.be/_E8_fIoqYa8
มีผู้ใช้ชื่อ khaolaem โพสต์คลิปเสียงแบ่งเป็นสองตอน ใช้ชื่อ นักการเมืองข่มขู่หัวหน้าเขาแหลม ขึ้นยูทูปพร้อมคำบรรยายว่า “นักการเมืองจังหวัดนนทบุรี โทรศัพท์ข่มขู่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ เพียงเพราะต้องการที่ดินของรัฐในเขตอุทยานแห่งชาติ ที่บ้านกองม่องทะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี "เจ้าหน้าที่รัฐทำงานเพื่อปกป้องพื้นที่ป่าไม้ แต่สู้แรงอำนาจมืดไม่ไหว อยากจะขอฝากให้ลูกหลานได้ช่วยกันปกป้องผืนป่าของประเทศชาติต่อไปด้วย" โดยตอนแรกมีความยาว 14.55 นาที และตอนที่สอง
เนื้อหาในคลิปทั้งสองตอนเป็นการสนทนาระหว่างนายเจริญ ใจชน อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาตเขาแหลมกับนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย โดยมีการโต้เถียงในช่วงแรกเกี่ยวกับเพื่อนนายฉลองที่ชื่อ ไพบูลย์ มีปัญหากับ นายเจริญ เกี่ยวกับการรุกที่อุทยานจนเป็นเหตุให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีในศาล และนายฉลอง ได้พูดอย่างมีอารมณ์ในลักษณะข่มขู่ให้นายเจริญเลิกเอาผิดกับเพื่อนตัวเอง โดยระบุว่า
“นี่มันของจริงมันเป็นเพื่อนผม จะต้องเอารัฐมนตรีหรือใคร ผมโทรได้หมด ถ้าคุณอยู่ที่นี่ผมว่าเพื่อนผมลำบาก คุณทะเลาะกับเพื่อนผมตลอด ผมอยู่ 4 ปี นะโว้ย รอบนี้ ผมไม่ใช่กระจอก ๆ ผมโทรได้ทุกกระทรวง ถ้าคุณยังทะเลาะกับเพื่อนผมที่ทองผาภูมิ คุณน่าจะไปอยู่ที่อื่นดีกว่ามั่ง ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ มานั่งตรงนี้ยงยุทธตู้เย็นให้ผมมาอยู่ตรงนี้ อธิบดีอะไรพวกเนี้ยะเขาย้ายกันหมดแล้วนะ เป็นนโยบายแล้วนะเราจะเขี่ยออกหมด สายไหน สายไหนเราไม่เอาไว้หรอก ตอนนั้นผมไม่เป็นส.ส.คุณอาจไม่ฟังผมหรอก ตอนนี้ผมเป็นส.ส.คุณต้องฟังทำผม ผมไม่อยากทำร้ายคุณหรอก ออฟมันเพื่อนรักผม เอาโน่นมาใส่เรื่องนั้นผมเคลียร์หมดแล้ว ให้เลขาโทรไปก็จบ มันไม่ยากสำหรับผมหรอกชั่วโมงเนี่ยะ ทีนี้จริง ๆ ผมไม่เจอหน้าคุณจะฟังความข้างเดียวก็ไม่ได้ และผมเคยเป็นข้าราชการมาก่อน เมื่อกี้มันก็ถามไอ้หลองมึงจะพูดยังไง เพราะมันรู้ผมเป็นคนใจร้อน มึงอย่าไปอะไรกับเขานะ ผมก็บอกว่า มันบอกอย่าคุยกับของจริงไง ผมก็บอกพรุ่งนี้เดี๋ยวให้ปรีชา ให้รัฐมนตรีโทรไปหามันเลย ก็ต้องถามว่าจะรบกะกูหรือไง ถ้างั้นก็ต้องย้าย...ตอนนี้นนทบุรีกูเอาส.ส.มาได้ 7 คนเนี่ยะ ให้นายจัดตำแหน่งได้หมด ไปเอางานได้ทุกกระทรวง ทบวง กรมได้หมด ตอนนี้ก็อยู่ที่กระทรวงทรัพเป็นที่ปรึกษาปรีชา เร่ง ทั้งเลขาอะไรเนี่ยะ มีคนของเราอยู่ที่กระทรวงทรัพทั้งหมด คุณจะมารบกับผมกับเพื่อนผมชั่วโมงนี้อย่ามารบเลย รบไม่ชนะผมหรอก ตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าอุทยาน คุณเจริญมาสายตรงข้ามกับผม ถ้าจะเอาจริง ๆ ผมไม่เลี้ยง ไม่เอาไว้หรอก ถ้าคุณอยู่มีปัญหากับเพื่อนผมหรือเปล่า เจริญ คุยกับพี่คุยตรงได้ ... มันบอกว่าจะให้ที่ผม 70 ไร่ ผมจะเอามาลงยาง เดี๋ยวบอกเสี่ยลาว ดูแลช่วยกษตรเนี่ยะให้เอายางมาให้ ก็ถามว่าที่มันถูกต้องหรือเปล่า เขาก็ยืนยันว่าถูกต้อง ทีมงานผมอยู่ที่นั่นหมด สมชาย เพศประเสริฐ ก็อยู่ที่นั่น มีทางที่เราจะไม่ทะเลาะกันไหม
**เผย “เจริญ”ถูกเอี้ยงสั่งย้าย
ในขณะที่นายเจริญ พยายามอธิบายว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเพื่อนของนายฉลอง นอกจากนี้ยังเตือนนายฉลองด้วยว่าที่ 70 ไร่ที่นายฉลองอยากได้นั้นเป็นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และถ้าจะพิสูจน์สิทธิก็ให้มาพิสูจน์ ถ้ามาเอาที่ดินนี้อาจเป็นเรื่อง และชักชวนว่าถ้ามีโอกาสมาเที่ยวดีกว่า และยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่บางคนอาจคิดว่าตนพูดไม่รู้เรื่อง กับนายไพบูลย์ที่โดนจับเพราะมีเรื่องกับชาวบ้านเขาร้องเรียนจนไปถึงผู้ว่า ตนก็แนะนำมาตลอด แต่เขาไม่เชื่อจนมีการร้องไปที่กรม และเตือนย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าไม่ควรมาเอาที่ดิน 70 ไร่นี้ เพราะเป็นที่อุทยานแห่งชาติ
ส่วนตอนที่สองความยาว 11.20 นาที เป็นการสนทนาที่ยังย้ำเกี่ยวกับเรื่องคดีของนายไพบูลย์ว่านายฉลองสามารถเคลียร์ได้หมด และยังพยายามหว่านล้อมให้นายเจริญหาช่องทางที่จะทำให้นายฉลองได้ที่ดิน 70 ไร่ในเขตอุทยานด้วย และยังยืนยันว่าตัวเองคือ ฉลอง เรี่ยวแรง ด้วยการบอกเลขประจำตัว ส.ส.ว่าอยู่อันดับที่ 057 ด้วย
สำหรับนายเจริญ เพิ่งถูกนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ เซ็นต์คำสั่งย้ายไปประจำที่กรมอุทยานแห่งชาติส่วนกลาง ให้นายสมชาย โกมลคงอยู่ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ไปทำหน้าที่แทน โดยให้เหตุผลว่านายเจริญถูกร้องเรียนว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
**ฉลองอ้างแค่ไกล่เกลี่ยแทนเพื่อน
ที่พรรคเพื่อไทย นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แถลง ว่า ยอมรับว่าเป็นเสียงตน และรู้ว่ามีการอัดเสียงไว้ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะต้องการไกล่เกลี่ย เพราะก่อนหน้านายไพบูลย์หรืออ๊อด ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท มีเรื่องกับนายเจริญในงานศพ จนเกือบจะชกต่อยกัน โดยนายไพบูลย์อ้างว่าถูกนายเจริญรังแก กลั่นแกล้ง ซึ่งตนได้ไกล่เกลี่ยไม่อยากให้มีเรื่องกัน เพราะถ้าใหญ่โตกลายเป็นฆ่ากันตายมันจะไม่ดี แต่ในช่วงที่พูดกับนายเจริญได้บอกว่าให้ทำไปตามกฎหมาย หากถูกว่าตามถูก ผิดว่าตามผิด การพูดคุยไม่เคยไปข่มขู่ จะไปขู่อะไรได้ ไม่รู้ว่าต่อมาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งย้ายนายเจริญ ส่วนกรณีที่อ้างว่าเพื่อนตนจะบุกรุกพื้นที่กว่า 70ไร่นั้น ทั้งที่เขาได้นำเอกสาร หลักฐานต่างๆมาแสดงหมด และทราบว่ามีการต่อสู้ในชั้นอัยการ สั่งไม่ฟ้อง และศาลก็บอกว่าไม่ผิด แต่ต่อมายังถูกกลั่นแกล้ง
นายฉลองกล่าวอีกว่า บางคำพูดที่บอกหรือมึงจะรบกับกู ใช่เป็นคนพูด ก็พูดดีด้วย แต่นายเจริญมาทำนักเลงใส่ ก็ต้องพูดหนักๆกลับไปบ้าง มาบอกใช่ฉลองตัวจริงไหม ก็บอกว่าใช่ฉลอง และยังมาอำใส่บอกตอนนี้อยู่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็บอกเอ้างั้นก็ขึ้นมาเลยอยู่ชั้น19 แต่ก็ไม่ขึ้นมา แสดงว่าอำกัน แต่สิ่งที่พูดพร้อมรับผิดชอบคำพูด หากนายเจริญจะฟ้องก็ยินดี แต่ละฝ่ายจะได้เอาหลักฐานไปยันกัน ว่าของใครจริง ไม่จริง และไม่อยากพูดมากเบื้องหลังที่นายเจริญ ถูกย้าย ไปทำอะไรไว้บ้าง
โดยมีรายงานว่า อีก 1 เดือน นายดำรงค์ พิเดช จะเกษียณอายุราชการในปี 2555 ขณะที่มีกระแสข่าวว่า อาจจะมีการต่ออายุราชการให้กับนายดำรงค์อีก 1 ปี ทั้งนี้ก่อนหน้ามีกระแสข่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่ามีความพยายามที่จะย้ายนายดำรง ไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้ว
ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนผ่านช่องทางของ “สกายรีพอร์ท” ส่วนใหญ่เห็นด้วย พบว่า กว่า 105,578 คน ได้กดไลท์ โดยบางรายเปรียบเทียบ นายดำรงค์ เปรียบเหมือน “สืบ นาคะเสถียร”ของคนไทย ขณะที่อีกรายเขียนว่า “เกลียดพวกรีสอร์ทบุกรุกที่หลวง แล้วมาตู่ว่าเป็นของตัวเอง เอาชาวบ้านมากดดันเจ้าหน้าที่อีก เลวมาก เห็นแก่ตัวที่สุด สู้ๆค่ะท่านดำรง”
“เห็นด้วยอยากให้ท่านอยู่ต่อจะได้ผืนป่าจากไอ้พวกโกงแผ่นดิน และขอสาปแช่งไอ้พวกเอาป่าไปเป็นของตระกูลมันให้มันเจ็บป่วยนอนแบกสารพัดโรคและพวกราชการที่รู้เห็นเป็นใจกับพวกเปตรด้วยสาธุ”
“ยินดีด้วยท่านเป็นแกนนำเสื้อแดงที่ดี อนาคตนักการเมืองรอท่านอยู่ สู้ต่อไปเพื่ออนาคตการเมือง แต่อย่าลืมว่าทำอะไรไว้ในอดีตเค้าขุดคุ้ยกันกระจุย”
“คนแบบนี้สมควรต่ออายุ ราชการให้นะ จะได้ทำงานให้ประเทศชาติ ,ต่ออายุราชการให้ดำรง พิเดช อีกหนึ่งปี ประเทศไทยจะได้ที่คืนล้านไร่”
**กลุ่มค้านซัดเชียร์ออกนอกหน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่กลุ่มที่ไม่เห็นด้วย ได้นำเสนอข้อความ ระบุว่า สื่อชี้นำสังคมไปถูกทางจริงหรือ สกายรีพอร์ทเชียร์สุดใจ สนับสนุนให้คนกดไลท์ ดำรงให้ล้าน เชียร์ออกนอกหน้าไม่สนคดีเก่า ถลุงงบประมาณ 5 ล้านบาท ขนเจ้าหน้าที่ชุมนุมเสื้อแดง
ขณะที่ผู้ที่ไม่เห็นด้วย รุบว่า “SKY Report กลบข่าว ฉลอง ว่างั้น”
บางรายระบุว่า การขายตัวเพื่อเอาเงินมาสนองตัณหาของนักข่าวและข้าราชการเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ดำรง ควรจะถูกไล่ออกจากข้าราชการไปตั้งนานแล้ว มันปล่อยให้มีการสร้างรีสอร์ทในเขตอุทยานได้ยังไง การสั่งรื้อถอนเป็นการประจานการทำงานของมันอยู่แล้ว
อีกรายระบุว่า แกจะเกษียณแล้ว..น่าจะทำมานานแล้ว หรือเตรียมตัวเล่นการเมือง... อีกคนเห็นว่า เป็นนักฉวยโอกาสมากกว่า คนไม่ดี
ขณะที่อีกคน แสดงความเห็นด้วยว่า ควรรักษาป่า แต่ง่ายไปไหม ปล่อยให้สร้างก่อน ปล่อยปละละเลยกินจนอ้วนแล้วค่อยทุบทิ้ง มาง่ายนี่นา นั่งรถมา สี่เลนแป๊บเดียวถึง แต่ที่แบบต้นน้ำลำธาร ไปจับยากๆไม่ไป ป่าวังน้ำเขียวที่อุทยานจริง แต่ต้นน้ำลำธารจริงหรือเปล่าไม่รู้ ต้องถามคนพื้นที่เดิม
อีกคนบอกว่า เห็นเฉลิม ชูวิทย์ แล้ว อย่าลืมนึกถึง ดำรงค์ พิเดชนะครับ สไตร์เดียวกันครับผม ไม่ต้องอธิบาย คนพวกนี้ชอบหากินบนความสะใจของสังคม แต่...คุณคงหลอกคนไทยบางส่วนได้เท่านั้นแต่คนไทยส่วนหนึ่ง "รู้ทันคุณ"
“ตอนเค้าสร้างเป็นปี นิ่งเฉย จะเกษียณ โชว์ผลงานหรือเปล่า”อีกหนึ่งข้อความ
บางข้อความระบุว่า “ผมว่า ณ เวลานี้ จังหวะนี้ ประชาชนอย่างเราไม่มีใครได้ ไม่มีใครเสีย ปล่อยให้เขาจัดการนายทุนไปก่อนเถอะครับ ณ เวลานี้ เรามีแต่ได้ พื้นที่ป่าคืนมา ไม่งั้น รีสอร์ทก็จะกินขยายพื้นที่เรื่อยๆ ส่วนบางรีสอร์ทที่เตรียมลงเสาก็ชะลอไว้ก่อน เพราะกลัวของจริงโดนทุบ เพราะกฎหมายบ้านเราเกี่ยวกับคดีแบบนี้กว่าศาลจะตัดสินสูงสุด ก็ป่าเข้าไป 10 ปี แล้ว มันก็กินที่ไปเรื่อยๆ เมื่อศาลสูงสุดตัดสินให้ทุบ บ้านเราก็ไม่มีหน่วยงานไหนรับผิดชอบการทุบทำลายค่าใช้จ่ายหรือมีอำนาจโดยตรง”
**เอี้ยงใช้ 32 ล้าน นำเที่ยวฮอลลีวู๊ด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน แฟนเพจ“สายตรงภาคสนาม” ได้นำรูปละบทความ “อธิบดีกรมอุทยานฯพาเจ้าหน้าที่เที่ยวเคนย่า ฮอลลีวู๊ด ลาสเวกัส ใช้งบ 32 ล้าน แต่ปล่อยสัตว์ป่าของกลางหิวโซ อดตาย !”
มีใจความว่า กรมอุทยานแห่งชาติฯโดยนายดำรงค์ พิเดช อธิบดี ใช้งบประมาณ 32 ล้านบาท นำเจ้าหน้าที่ 300 คนไปศึกษาดูงานที่เคนย่าและสหรัฐอเมริกา โดยมีการไปเที่ยวฮอลลีวู๊ด และลาสเวกัส ทำให้เกิดคำถามว่าการใช้จ่ายงบประมาณจากค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติเป็นไปอย่างคุ้มค่าหรือไม่ เพราะในขณะที่อธิบดีจัดงบประมาณนำทีมเจ้าหน้าที่ไปต่างประเทศ แต่กลับไม่จัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอในการดูแลสัตว์ป่าของกลางที่กรมอุทยานแห่งชาติยึดเอาไว้ ปล่อยให้ผอมโซ และอดตายไปจำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า ช้างของกลางชื่อพัง สีทอง อายุ 17 ปี ตายทั้งกลมในขณะตั้งท้องได้ 7 เดือน โดยไม่ทราบสาเหตุ และช้างตัวดังกล่าวยังตั้งท้องได้ 7 เดือน คาดว่าเพราะอยู่ในสภาพขาดน้ำในช่วงขนย้ายจากไทรโยค มาที่จ.ลำปาง
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีช้างอีกหลายเชือก ที่ถูกล่ามโซ่ เรียงกันไว้เฉยๆไม่มีอาหารและเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเพียงพอ เนื่องจากกรมอุทยานไม่ได้จัดงบประมาณในการดูแล เนื่องจาก เจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ รวมทั้งอาหารของช้าง
**ปูดคลิปขู่ขรก.สนองการเมือง
ขณะที่ “สายตรงภาคสนาม”ยังเสนอบทความพร้อมคลิปวีดีโอ ตอน "เปิดปมหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมถูกเด้ง เหตุไม่สยบให้การเมืองรุกที่อุทยาน"
นักการเมืองข่มขู่หัวหน้าเขาแหลม 1/2 http://youtu.be/u6z3m6InbdY
นักการเมืองข่มขู่หัวหน้าเขาแหลม 2/2 http://youtu.be/_E8_fIoqYa8
มีผู้ใช้ชื่อ khaolaem โพสต์คลิปเสียงแบ่งเป็นสองตอน ใช้ชื่อ นักการเมืองข่มขู่หัวหน้าเขาแหลม ขึ้นยูทูปพร้อมคำบรรยายว่า “นักการเมืองจังหวัดนนทบุรี โทรศัพท์ข่มขู่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ เพียงเพราะต้องการที่ดินของรัฐในเขตอุทยานแห่งชาติ ที่บ้านกองม่องทะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี "เจ้าหน้าที่รัฐทำงานเพื่อปกป้องพื้นที่ป่าไม้ แต่สู้แรงอำนาจมืดไม่ไหว อยากจะขอฝากให้ลูกหลานได้ช่วยกันปกป้องผืนป่าของประเทศชาติต่อไปด้วย" โดยตอนแรกมีความยาว 14.55 นาที และตอนที่สอง
เนื้อหาในคลิปทั้งสองตอนเป็นการสนทนาระหว่างนายเจริญ ใจชน อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาตเขาแหลมกับนายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย โดยมีการโต้เถียงในช่วงแรกเกี่ยวกับเพื่อนนายฉลองที่ชื่อ ไพบูลย์ มีปัญหากับ นายเจริญ เกี่ยวกับการรุกที่อุทยานจนเป็นเหตุให้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีในศาล และนายฉลอง ได้พูดอย่างมีอารมณ์ในลักษณะข่มขู่ให้นายเจริญเลิกเอาผิดกับเพื่อนตัวเอง โดยระบุว่า
“นี่มันของจริงมันเป็นเพื่อนผม จะต้องเอารัฐมนตรีหรือใคร ผมโทรได้หมด ถ้าคุณอยู่ที่นี่ผมว่าเพื่อนผมลำบาก คุณทะเลาะกับเพื่อนผมตลอด ผมอยู่ 4 ปี นะโว้ย รอบนี้ ผมไม่ใช่กระจอก ๆ ผมโทรได้ทุกกระทรวง ถ้าคุณยังทะเลาะกับเพื่อนผมที่ทองผาภูมิ คุณน่าจะไปอยู่ที่อื่นดีกว่ามั่ง ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ มานั่งตรงนี้ยงยุทธตู้เย็นให้ผมมาอยู่ตรงนี้ อธิบดีอะไรพวกเนี้ยะเขาย้ายกันหมดแล้วนะ เป็นนโยบายแล้วนะเราจะเขี่ยออกหมด สายไหน สายไหนเราไม่เอาไว้หรอก ตอนนั้นผมไม่เป็นส.ส.คุณอาจไม่ฟังผมหรอก ตอนนี้ผมเป็นส.ส.คุณต้องฟังทำผม ผมไม่อยากทำร้ายคุณหรอก ออฟมันเพื่อนรักผม เอาโน่นมาใส่เรื่องนั้นผมเคลียร์หมดแล้ว ให้เลขาโทรไปก็จบ มันไม่ยากสำหรับผมหรอกชั่วโมงเนี่ยะ ทีนี้จริง ๆ ผมไม่เจอหน้าคุณจะฟังความข้างเดียวก็ไม่ได้ และผมเคยเป็นข้าราชการมาก่อน เมื่อกี้มันก็ถามไอ้หลองมึงจะพูดยังไง เพราะมันรู้ผมเป็นคนใจร้อน มึงอย่าไปอะไรกับเขานะ ผมก็บอกว่า มันบอกอย่าคุยกับของจริงไง ผมก็บอกพรุ่งนี้เดี๋ยวให้ปรีชา ให้รัฐมนตรีโทรไปหามันเลย ก็ต้องถามว่าจะรบกะกูหรือไง ถ้างั้นก็ต้องย้าย...ตอนนี้นนทบุรีกูเอาส.ส.มาได้ 7 คนเนี่ยะ ให้นายจัดตำแหน่งได้หมด ไปเอางานได้ทุกกระทรวง ทบวง กรมได้หมด ตอนนี้ก็อยู่ที่กระทรวงทรัพเป็นที่ปรึกษาปรีชา เร่ง ทั้งเลขาอะไรเนี่ยะ มีคนของเราอยู่ที่กระทรวงทรัพทั้งหมด คุณจะมารบกับผมกับเพื่อนผมชั่วโมงนี้อย่ามารบเลย รบไม่ชนะผมหรอก ตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าอุทยาน คุณเจริญมาสายตรงข้ามกับผม ถ้าจะเอาจริง ๆ ผมไม่เลี้ยง ไม่เอาไว้หรอก ถ้าคุณอยู่มีปัญหากับเพื่อนผมหรือเปล่า เจริญ คุยกับพี่คุยตรงได้ ... มันบอกว่าจะให้ที่ผม 70 ไร่ ผมจะเอามาลงยาง เดี๋ยวบอกเสี่ยลาว ดูแลช่วยกษตรเนี่ยะให้เอายางมาให้ ก็ถามว่าที่มันถูกต้องหรือเปล่า เขาก็ยืนยันว่าถูกต้อง ทีมงานผมอยู่ที่นั่นหมด สมชาย เพศประเสริฐ ก็อยู่ที่นั่น มีทางที่เราจะไม่ทะเลาะกันไหม
**เผย “เจริญ”ถูกเอี้ยงสั่งย้าย
ในขณะที่นายเจริญ พยายามอธิบายว่าทุกอย่างที่ดำเนินการไปทำตามหน้าที่ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเพื่อนของนายฉลอง นอกจากนี้ยังเตือนนายฉลองด้วยว่าที่ 70 ไร่ที่นายฉลองอยากได้นั้นเป็นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และถ้าจะพิสูจน์สิทธิก็ให้มาพิสูจน์ ถ้ามาเอาที่ดินนี้อาจเป็นเรื่อง และชักชวนว่าถ้ามีโอกาสมาเที่ยวดีกว่า และยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่บางคนอาจคิดว่าตนพูดไม่รู้เรื่อง กับนายไพบูลย์ที่โดนจับเพราะมีเรื่องกับชาวบ้านเขาร้องเรียนจนไปถึงผู้ว่า ตนก็แนะนำมาตลอด แต่เขาไม่เชื่อจนมีการร้องไปที่กรม และเตือนย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าไม่ควรมาเอาที่ดิน 70 ไร่นี้ เพราะเป็นที่อุทยานแห่งชาติ
ส่วนตอนที่สองความยาว 11.20 นาที เป็นการสนทนาที่ยังย้ำเกี่ยวกับเรื่องคดีของนายไพบูลย์ว่านายฉลองสามารถเคลียร์ได้หมด และยังพยายามหว่านล้อมให้นายเจริญหาช่องทางที่จะทำให้นายฉลองได้ที่ดิน 70 ไร่ในเขตอุทยานด้วย และยังยืนยันว่าตัวเองคือ ฉลอง เรี่ยวแรง ด้วยการบอกเลขประจำตัว ส.ส.ว่าอยู่อันดับที่ 057 ด้วย
สำหรับนายเจริญ เพิ่งถูกนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ เซ็นต์คำสั่งย้ายไปประจำที่กรมอุทยานแห่งชาติส่วนกลาง ให้นายสมชาย โกมลคงอยู่ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ไปทำหน้าที่แทน โดยให้เหตุผลว่านายเจริญถูกร้องเรียนว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
**ฉลองอ้างแค่ไกล่เกลี่ยแทนเพื่อน
ที่พรรคเพื่อไทย นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แถลง ว่า ยอมรับว่าเป็นเสียงตน และรู้ว่ามีการอัดเสียงไว้ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะต้องการไกล่เกลี่ย เพราะก่อนหน้านายไพบูลย์หรืออ๊อด ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท มีเรื่องกับนายเจริญในงานศพ จนเกือบจะชกต่อยกัน โดยนายไพบูลย์อ้างว่าถูกนายเจริญรังแก กลั่นแกล้ง ซึ่งตนได้ไกล่เกลี่ยไม่อยากให้มีเรื่องกัน เพราะถ้าใหญ่โตกลายเป็นฆ่ากันตายมันจะไม่ดี แต่ในช่วงที่พูดกับนายเจริญได้บอกว่าให้ทำไปตามกฎหมาย หากถูกว่าตามถูก ผิดว่าตามผิด การพูดคุยไม่เคยไปข่มขู่ จะไปขู่อะไรได้ ไม่รู้ว่าต่อมาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งย้ายนายเจริญ ส่วนกรณีที่อ้างว่าเพื่อนตนจะบุกรุกพื้นที่กว่า 70ไร่นั้น ทั้งที่เขาได้นำเอกสาร หลักฐานต่างๆมาแสดงหมด และทราบว่ามีการต่อสู้ในชั้นอัยการ สั่งไม่ฟ้อง และศาลก็บอกว่าไม่ผิด แต่ต่อมายังถูกกลั่นแกล้ง
นายฉลองกล่าวอีกว่า บางคำพูดที่บอกหรือมึงจะรบกับกู ใช่เป็นคนพูด ก็พูดดีด้วย แต่นายเจริญมาทำนักเลงใส่ ก็ต้องพูดหนักๆกลับไปบ้าง มาบอกใช่ฉลองตัวจริงไหม ก็บอกว่าใช่ฉลอง และยังมาอำใส่บอกตอนนี้อยู่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็บอกเอ้างั้นก็ขึ้นมาเลยอยู่ชั้น19 แต่ก็ไม่ขึ้นมา แสดงว่าอำกัน แต่สิ่งที่พูดพร้อมรับผิดชอบคำพูด หากนายเจริญจะฟ้องก็ยินดี แต่ละฝ่ายจะได้เอาหลักฐานไปยันกัน ว่าของใครจริง ไม่จริง และไม่อยากพูดมากเบื้องหลังที่นายเจริญ ถูกย้าย ไปทำอะไรไว้บ้าง
