จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียง นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ผ่านทางเว็บไซต์ ยูทิวบ์ ชื่อ นักการเมืองข่มขู่หัวหน้าเขาแหลม โดยคลิปเสียงดังกล่าว เป็นการพูดคุยโทรศัพท์ ระหว่าง นายฉลอง กับ นายเจริญ ใจชน อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับเรื่องไม่ต้องการให้นายเจริญ เอาเรื่องกับเพื่อนนายฉลอง ที่ทำผิด โดยต้องการเอาที่ดินอุทยานฯ 70 ไร่ เพื่อปลูกยางพารา
ผู้สื่อข่าวได้ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องนี้ แต่นายกฯปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า "ฉลองไหน ไม่รู้เรื่อง"
ขณะที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องสอบถามนายฉลองก่อน แต่ตนไม่คิดว่า เรื่องนี้จะส่งผลเสียหายต่อพรรคเพื่อไทย เพราะสมาชิกพรรคสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ถ้าหัวหน้าพรรคทำไม่ถูก ลูกพรรคก็ต้องวิจารณ์ และพูดถึงได้ ขณะเดียวกันส.ส.ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน มีเอกสิทธิ์ กฎหมายรัฐธรรมนูญ ยังบอก ส.ส.ต้องมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ ตามตนจะถามจากนายฉลองก่อน ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า การพูดแบบนี้ไม่ส่งผลกระทบให้ตัวท่าน และพรรคเสียหายหรือ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนเข้าใจเรื่องนี้ แต่จะต้องคุยกัน ได้ผลอย่างไรจะเล่าให้ฟัง ส่วนจะทำให้ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าเสียขวัญกำลังใจในการทำงานหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งวิจารณ์
เมื่อถามว่าลักษณะอย่างนี้ เป็นการใช้การเมืองเข้าแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็ต้องดูไป และถ้าเขาทำ ก็ต้องมีความผิด ซึ่งทางพรรคก็จะมีกรรมการจรรยาบรรณ มีกรรมการวินัยของพรรคพิจารณาบทลงโทษ พรรคก็เคยมีมติหลายเรื่อง สำหรับคนที่ทำให้พรรคเสียหาย ซึ่งจะต้องสอบถามข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และนายฉลอง ก็ต้องชี้แจง
เมื่อถามย้ำว่า การพูดในลักษณะเอาตัวเองไปนั่งในกระทรวงต่างๆ จะเป็นการแทรกแซงข้าราชการหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องดูว่ามีความตามกฎหมายแค่ไหน ถ้าผิดก็ต้องว่าผิด แต่ถ้าไม่ผิดก็ไม่ผิด
**อ้างยัาย"เจริญ"ไม่เกี่ยวการเมือง
ด้านนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงการย้าย นายเจริญ ใจชน จากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มาประจำที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ส่วนกลาง ว่า ไม่เกี่ยวกับกรณีที่มีคลิปเสียงขัดแย้งกับนายฉลอง เพราะได้ย้ายนายเจริญ ตั้งแต่ปลายปี 2554 เป็นการย้ายหมุนเวียนทั้งกรม เพื่อต้องการสลับเจ้าหน้าที่ที่มีความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ จ.กาญจนบุรี มีปัญหาถูกร้องเรียน ทั้งเรื่องค้าไม้เถื่อน บุกรุกที่ดินอุทยาน และปัญหาล่าสัตว์สงวน อีกทั้งนายเจริญ ก็ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงิน 2 แสนบาท จากเพื่อนของนายฉลอง จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนที่ในคลิปเสียง มีคำพูดคุยของนายฉลอง ที่ข่มขู่นายเจริญ ว่าจะย้ายนั้น ตนก็เพิ่งได้รับฟังคลิป ประมาณเดือนมกราคมปีนี้ ภายหลังจากที่มีการโยกย้ายไปแล้ว ดังนั้นขอย้ำว่า การย้ายนายเจริญ ไม่เกี่ยวกับการเมือง เพราะไม่มีใครสั่งตนได้ หากลูกน้องไม่ผิด
ส่วนพฤติกรรมของนายฉลอง จะเข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ในการใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซงการทำงานเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่นายเจริญ จะต้องไปร้องถอดถอนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาเอง
สำหรับ ที่ดิน 70 ไร่ ที่เป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้ง ที่ระบุว่ามีการบุกรุกพื้นที่อุทยานนั้น ตนขอกลับไปตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งหนึ่งก่อน
** "ค้อนปลอม"ปัดตั้งกก.สอบจริยธรรม
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรม ส.ส. กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ เพราะติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครร้องเรียนเข้ามา ส่วนจะต้องนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร หรือไม่ จะขอไปพิจารณา และตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเองก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอน ของสภาผู้แทนราษฎร
ผู้สื่อข่าวได้ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องนี้ แต่นายกฯปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า "ฉลองไหน ไม่รู้เรื่อง"
ขณะที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องสอบถามนายฉลองก่อน แต่ตนไม่คิดว่า เรื่องนี้จะส่งผลเสียหายต่อพรรคเพื่อไทย เพราะสมาชิกพรรคสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ถ้าหัวหน้าพรรคทำไม่ถูก ลูกพรรคก็ต้องวิจารณ์ และพูดถึงได้ ขณะเดียวกันส.ส.ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน มีเอกสิทธิ์ กฎหมายรัฐธรรมนูญ ยังบอก ส.ส.ต้องมีอิสระในการแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ ตามตนจะถามจากนายฉลองก่อน ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า การพูดแบบนี้ไม่ส่งผลกระทบให้ตัวท่าน และพรรคเสียหายหรือ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนเข้าใจเรื่องนี้ แต่จะต้องคุยกัน ได้ผลอย่างไรจะเล่าให้ฟัง ส่วนจะทำให้ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าเสียขวัญกำลังใจในการทำงานหรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่าจะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งวิจารณ์
เมื่อถามว่าลักษณะอย่างนี้ เป็นการใช้การเมืองเข้าแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็ต้องดูไป และถ้าเขาทำ ก็ต้องมีความผิด ซึ่งทางพรรคก็จะมีกรรมการจรรยาบรรณ มีกรรมการวินัยของพรรคพิจารณาบทลงโทษ พรรคก็เคยมีมติหลายเรื่อง สำหรับคนที่ทำให้พรรคเสียหาย ซึ่งจะต้องสอบถามข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และนายฉลอง ก็ต้องชี้แจง
เมื่อถามย้ำว่า การพูดในลักษณะเอาตัวเองไปนั่งในกระทรวงต่างๆ จะเป็นการแทรกแซงข้าราชการหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องดูว่ามีความตามกฎหมายแค่ไหน ถ้าผิดก็ต้องว่าผิด แต่ถ้าไม่ผิดก็ไม่ผิด
**อ้างยัาย"เจริญ"ไม่เกี่ยวการเมือง
ด้านนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยาแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงการย้าย นายเจริญ ใจชน จากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มาประจำที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ส่วนกลาง ว่า ไม่เกี่ยวกับกรณีที่มีคลิปเสียงขัดแย้งกับนายฉลอง เพราะได้ย้ายนายเจริญ ตั้งแต่ปลายปี 2554 เป็นการย้ายหมุนเวียนทั้งกรม เพื่อต้องการสลับเจ้าหน้าที่ที่มีความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะ จ.กาญจนบุรี มีปัญหาถูกร้องเรียน ทั้งเรื่องค้าไม้เถื่อน บุกรุกที่ดินอุทยาน และปัญหาล่าสัตว์สงวน อีกทั้งนายเจริญ ก็ถูกกล่าวหาว่า เรียกรับเงิน 2 แสนบาท จากเพื่อนของนายฉลอง จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ส่วนที่ในคลิปเสียง มีคำพูดคุยของนายฉลอง ที่ข่มขู่นายเจริญ ว่าจะย้ายนั้น ตนก็เพิ่งได้รับฟังคลิป ประมาณเดือนมกราคมปีนี้ ภายหลังจากที่มีการโยกย้ายไปแล้ว ดังนั้นขอย้ำว่า การย้ายนายเจริญ ไม่เกี่ยวกับการเมือง เพราะไม่มีใครสั่งตนได้ หากลูกน้องไม่ผิด
ส่วนพฤติกรรมของนายฉลอง จะเข้าข่ายรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 ในการใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซงการทำงานเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่นายเจริญ จะต้องไปร้องถอดถอนกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาเอง
สำหรับ ที่ดิน 70 ไร่ ที่เป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้ง ที่ระบุว่ามีการบุกรุกพื้นที่อุทยานนั้น ตนขอกลับไปตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งหนึ่งก่อน
** "ค้อนปลอม"ปัดตั้งกก.สอบจริยธรรม
ด้านนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรม ส.ส. กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ เพราะติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่มีใครร้องเรียนเข้ามา ส่วนจะต้องนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการจริยธรรม สภาผู้แทนราษฎร หรือไม่ จะขอไปพิจารณา และตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเองก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอน ของสภาผู้แทนราษฎร
