วานนี้(25 ก.ย.55) เว็บไซต์ สำนักบลูมเบิร์ก รายงาน การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ว่า รัฐบาลไทยควรยืดเวลาโครงการรับจำนำข้าวต่อไปอีกหลายปี สวนกระแสนักวิจารณ์ที่โจมตีว่าเป็นนโยบายที่มีแต่เพิ่มภาระหนี้สินแก่รัฐบาลและบ่อเกิดทุจริต
พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า นโยบายนี้ รัฐบาลไทยรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงกว่าอัตราในตลาด จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่าต้นทุนของโครงการนี้ ราว 3 เท่า ถ้าเราจัดการกับกระบวนการนี้ใน 2-3 ปี ทุกอย่างก็จะเดินไปตามวิถีของมัน และราคาข้าวในในตลาดโลก กำลังสูงขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เราไม่ได้โยนเงินทิ้งเปล่า ๆ โครงการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายข้าวในสต๊อก อีกทั้งเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ และช่วยประคับประคองประเทศไทย จากผลกระทบของวิกฤติหนี้ในยุโรป โดย รัฐบาลไทย มีข้าวเปลือกอยู่ในมือราว 17 ล้านตัน และมีข้าวสารในสต๊อกประมาณ 4 ล้านตัน การขายข้าวให้อินโดนีเซีย ไอวอรีโคสต์ หรือ แม้แต่ อิรัก และรวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกา จะทำให้ข้าวที่เก็บไว้ในสต๊อกลดลง ดังนั้น คิดว่าในปีหน้า ไทยจะมีข้าวค้างสต๊อกลดลงพอสมควร
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำโครงการจำนำข้าวต่อไปโดยอ้างว่าจำเป็นเพราะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร พร้อมกับให้เหตุผลว่า โครงการดังกล่าวช่วยยกระดับราคาข้าวและพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวนา เป็นการยืนยันว่าผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลไทยไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ผู้ที่กำหนดทิศทางการทำงานของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คือ พี่ชายที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้โกหกหลายเรื่องเช่นระบุว่า จะยกระดับราคา ขายแบบจีทูจี และพัฒนาคุณภาพชีวิตขาวนา แต่โครงการนี้ผลาญงบประมาณแผ่นดินแล้วประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งในฤดูกาลที่จะถึงนี้ต้องใช้งบประมาณถึง 4 แสนล้าน รวมแล้วต้องใช้งบประมาณเกือบล้านล้านบาทภายในสามฤดูกาล
ชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษฺิณไม่ได้ประเมินถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ เพราะสิ่งที่อ้างว่าเป็นประโยชน์ก็ไม่จริง ทั้งที่อ้างว่ายกระดับราคาข้าวก็ไม่ได้สูงตามที่กล่าวอ้าง ส่วนที่บอกว่าส่งออกไปต่างประเทศแบบจีทูจีกระทรวงพาณิชย์ก็โกหก เนื่องจากมีคำยืนยันจากวงการค้าข้าวไม่พบเห็นการส่งออกข้าว 7 ล้านตันตามที่มีการกล่าวอ้างแม้แต่กิโลเดียว เพราะฉะนั้นข้าวในสต๊อคของรัฐบาลมีจำนวนมหาศาลโดยที่รัฐบาลไม่เปิดเผยความจริง
นายชวนนท์ ยังเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยข้อเท็จจริงว่าสต๊อคข้าวมีอยู่เท่าไหร่ ขายใคร จำนวนเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้น นี่คือโกหกสีดำกับประชาชนอย่างรุนแรงเพราะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมข้าวทั้งระบบ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่คำนึงถึงความเสียหายเนื่องจากมีผลประโยชน์จากการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมหาศาล แม้แต่หน่วยงานภาครัฐ และภาควิขาการก็ไม่เห็นด้วย โดยก่อนหน้านี้ก็มีการคัดค้านใน ครม.ทั้งในส่วนของสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณและสำนักเลขาธิการ ครม. แต่รัฐบาลก็ไม่ฟังเนื่องจากต้องการแสวงหาประโยชน์จากความเสียหายของประเทศ สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่ารัฐบาลไม่มีการคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง
**ซัด"รมว.คลัง" โคตรมหากู้
นายชวนนท์ กล่าวว่า ซึ่งการดำเนินนโยบายเช่นนี้เชื่อมโยงมาถึงการจัดเก็บภาษีที่ต่ำกว่าประมาณการในเดือนสิงหาคม 2555 ถึง 33,322 ล้านบาท และต่ำกว่าเป้าหมายในรอบ 11 เดือนถึง 19,837 ล้านบาท
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้การจัดเก็บภาษีลดลงคือรายได้นิติบุคคลซึ่งเกิดจากนโยบายลดภาษีรายได้นิติบุคคลจาก 30 % เป็น 23 % ของรัฐบาล แต่ภาษีที่เก็บได้มากขึ้นคือ ภาษีบุคคลธรรมดา เท่ากับว่ารัฐบาลรีดภาษีผุ้ประกอบการรายย่อย หรือพ่อค้า แม่ค้า เพื่อชดเชยส่วนที่เสียไป กับการลดภาษีให้นายทุน จึงอยากให้รัฐบาลต้องระมัดระวังอย่าให้คนคิดว่ารัฐบาลที่อ้างว่าตัวเองเป็นรัฐบาลคนจนแต่กลับยกเว้นภาษีให้กับคนรวย แล้วไปรีดภาษีคนจนผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ทั้งนี้เห็นว่าแนวทางที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้นมีความอันตรายและความเปราะบางในเรื่องโครงสร้างภาษี
“เมื่อเก็บภาษีได้ไม่ตรงเป้าการขาดดุลงบประมาณก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะต้องมีการกู้มาชดเชย จะทำให้ระดับหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น และรัฐบาลยังมีแนวโน้มที่จะเก็บรายได้ลดลงอีกเพราะมี นโยบายลดภาษีรายได้นิติบุคคลลงเหลือ 20 % ในปี 2556 ซึ่งรัฐบาลยังมีแนวคิดที่จะกู้เงินอีก 2 ล้านล้านโดยอ้างว่าเพื่อปรับโครงสร้างของประเทศ โดยไม่ได้มีแนวคิดว่าจะหารายได้มาชดเชยในส่วนที่ทำเสียหายไปจากนโยบายจำนำข้าว และการเก็บภาษีนิติบุคคลลดลงอย่างไร ผมคิดว่าระบบเศรษฐกิจกำลังจะล่มสลายในมือของรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลคิดแต่จะสร้างหนี้โดยไม่มีแผนหารายได้มารองรับรายจ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต” นายชวนนท์ กล่าว
** เหน็บ “บุญทรง”ไม่พูดความจริง
ที่รัฐสภา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1ปี โกหกสีขาว 19 เรื่อง ตอนที่14 จำนำข้าว เกวียนละ 15,000 ราคาโกง ราคาคุย ว่า ทั้งราคาโกงและราคาคุย เวลาที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ พูดถึงเรื่องจำนำข้าว แววตาจะเหม่อลอย สะท้อนชัดเจนว่ากำลังโกหกสีขาว ใน 7 ประเด็น 1.รัฐบาลประกาศจำนำข้าวเกวียนละ 15,000ไม่เป็นความจริง 2.จำนำข้าวทุกเม็ดไม่เป็นความจริง เกษตรกรถูกเอาเปรียบจากโรงสี 3.เกษตรกรเอาข้าวไปไว้ที่โรงสีจากนั้น 3 วันจะได้รับใบประทวนอีก 3 วันสามารถนำขึ้นเงินที่ธกส. แต่ในขณะที่บางแห่ง 2-3เดือนยังไม่ได้รับเงินในโครงการจำนวนข้าว
4.รมว.พาณิชย์โกหกสีขาวว่าจะท้วงแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 1 กลับคืนมา โดยโกหกว่าจะส่งออกข้าวให้ได้ 8.5 ล้านตันแต่ปัจจุบันพบว่าส่งออกเพียง 4.75 ล้านตัน 5. การทำจีทูจีกับ 6 ประเทศไม่มีความชัดเจน เพราะอินโดนิเชียและประเทศฟิลิบปินประกาศว่าจะไม่รับซื้อข้าวจากไทยเนื่องจากราคาสูง 6. รมว.พาณิชย์และรัฐบาลชอบอ้างว่าถ้าขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวทั้งหมด 10.5 ล้านตันจะได้เงิน 2.6 แสนล้านบาทจะขาดทุน 2 หมื่นล้านบาทจากตัวเลข 2.8 แสนล้านบาทที่รัฐบาลลงทุนซึ่งไม่เป็นความจริง
7. รมว.พาณิชย์ระบุว่ารัฐใช้เงินจำนวน 2.8 แสนล้านบาทในโครงการจำนำข้าวแต่ปรากฏว่าเลขาธิการสภาพัฒน์รายงานตัวเลขค่าใช้จ่าย 5.1 แสนล้านบาทเป็นการโกหกตัวเลข
พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวว่า นโยบายนี้ รัฐบาลไทยรับซื้อข้าวจากชาวนาในราคาสูงกว่าอัตราในตลาด จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่าต้นทุนของโครงการนี้ ราว 3 เท่า ถ้าเราจัดการกับกระบวนการนี้ใน 2-3 ปี ทุกอย่างก็จะเดินไปตามวิถีของมัน และราคาข้าวในในตลาดโลก กำลังสูงขึ้น
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เราไม่ได้โยนเงินทิ้งเปล่า ๆ โครงการดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายข้าวในสต๊อก อีกทั้งเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ และช่วยประคับประคองประเทศไทย จากผลกระทบของวิกฤติหนี้ในยุโรป โดย รัฐบาลไทย มีข้าวเปลือกอยู่ในมือราว 17 ล้านตัน และมีข้าวสารในสต๊อกประมาณ 4 ล้านตัน การขายข้าวให้อินโดนีเซีย ไอวอรีโคสต์ หรือ แม้แต่ อิรัก และรวมทั้งประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกา จะทำให้ข้าวที่เก็บไว้ในสต๊อกลดลง ดังนั้น คิดว่าในปีหน้า ไทยจะมีข้าวค้างสต๊อกลดลงพอสมควร
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำโครงการจำนำข้าวต่อไปโดยอ้างว่าจำเป็นเพราะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร พร้อมกับให้เหตุผลว่า โครงการดังกล่าวช่วยยกระดับราคาข้าวและพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวนา เป็นการยืนยันว่าผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลไทยไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ผู้ที่กำหนดทิศทางการทำงานของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คือ พี่ชายที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้โกหกหลายเรื่องเช่นระบุว่า จะยกระดับราคา ขายแบบจีทูจี และพัฒนาคุณภาพชีวิตขาวนา แต่โครงการนี้ผลาญงบประมาณแผ่นดินแล้วประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งในฤดูกาลที่จะถึงนี้ต้องใช้งบประมาณถึง 4 แสนล้าน รวมแล้วต้องใช้งบประมาณเกือบล้านล้านบาทภายในสามฤดูกาล
ชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษฺิณไม่ได้ประเมินถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศ เพราะสิ่งที่อ้างว่าเป็นประโยชน์ก็ไม่จริง ทั้งที่อ้างว่ายกระดับราคาข้าวก็ไม่ได้สูงตามที่กล่าวอ้าง ส่วนที่บอกว่าส่งออกไปต่างประเทศแบบจีทูจีกระทรวงพาณิชย์ก็โกหก เนื่องจากมีคำยืนยันจากวงการค้าข้าวไม่พบเห็นการส่งออกข้าว 7 ล้านตันตามที่มีการกล่าวอ้างแม้แต่กิโลเดียว เพราะฉะนั้นข้าวในสต๊อคของรัฐบาลมีจำนวนมหาศาลโดยที่รัฐบาลไม่เปิดเผยความจริง
นายชวนนท์ ยังเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยข้อเท็จจริงว่าสต๊อคข้าวมีอยู่เท่าไหร่ ขายใคร จำนวนเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้น นี่คือโกหกสีดำกับประชาชนอย่างรุนแรงเพราะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมข้าวทั้งระบบ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่คำนึงถึงความเสียหายเนื่องจากมีผลประโยชน์จากการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมหาศาล แม้แต่หน่วยงานภาครัฐ และภาควิขาการก็ไม่เห็นด้วย โดยก่อนหน้านี้ก็มีการคัดค้านใน ครม.ทั้งในส่วนของสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณและสำนักเลขาธิการ ครม. แต่รัฐบาลก็ไม่ฟังเนื่องจากต้องการแสวงหาประโยชน์จากความเสียหายของประเทศ สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่ารัฐบาลไม่มีการคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง
**ซัด"รมว.คลัง" โคตรมหากู้
นายชวนนท์ กล่าวว่า ซึ่งการดำเนินนโยบายเช่นนี้เชื่อมโยงมาถึงการจัดเก็บภาษีที่ต่ำกว่าประมาณการในเดือนสิงหาคม 2555 ถึง 33,322 ล้านบาท และต่ำกว่าเป้าหมายในรอบ 11 เดือนถึง 19,837 ล้านบาท
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้การจัดเก็บภาษีลดลงคือรายได้นิติบุคคลซึ่งเกิดจากนโยบายลดภาษีรายได้นิติบุคคลจาก 30 % เป็น 23 % ของรัฐบาล แต่ภาษีที่เก็บได้มากขึ้นคือ ภาษีบุคคลธรรมดา เท่ากับว่ารัฐบาลรีดภาษีผุ้ประกอบการรายย่อย หรือพ่อค้า แม่ค้า เพื่อชดเชยส่วนที่เสียไป กับการลดภาษีให้นายทุน จึงอยากให้รัฐบาลต้องระมัดระวังอย่าให้คนคิดว่ารัฐบาลที่อ้างว่าตัวเองเป็นรัฐบาลคนจนแต่กลับยกเว้นภาษีให้กับคนรวย แล้วไปรีดภาษีคนจนผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ทั้งนี้เห็นว่าแนวทางที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้นมีความอันตรายและความเปราะบางในเรื่องโครงสร้างภาษี
“เมื่อเก็บภาษีได้ไม่ตรงเป้าการขาดดุลงบประมาณก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะต้องมีการกู้มาชดเชย จะทำให้ระดับหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น และรัฐบาลยังมีแนวโน้มที่จะเก็บรายได้ลดลงอีกเพราะมี นโยบายลดภาษีรายได้นิติบุคคลลงเหลือ 20 % ในปี 2556 ซึ่งรัฐบาลยังมีแนวคิดที่จะกู้เงินอีก 2 ล้านล้านโดยอ้างว่าเพื่อปรับโครงสร้างของประเทศ โดยไม่ได้มีแนวคิดว่าจะหารายได้มาชดเชยในส่วนที่ทำเสียหายไปจากนโยบายจำนำข้าว และการเก็บภาษีนิติบุคคลลดลงอย่างไร ผมคิดว่าระบบเศรษฐกิจกำลังจะล่มสลายในมือของรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลคิดแต่จะสร้างหนี้โดยไม่มีแผนหารายได้มารองรับรายจ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต” นายชวนนท์ กล่าว
** เหน็บ “บุญทรง”ไม่พูดความจริง
ที่รัฐสภา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรื่องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1ปี โกหกสีขาว 19 เรื่อง ตอนที่14 จำนำข้าว เกวียนละ 15,000 ราคาโกง ราคาคุย ว่า ทั้งราคาโกงและราคาคุย เวลาที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ พูดถึงเรื่องจำนำข้าว แววตาจะเหม่อลอย สะท้อนชัดเจนว่ากำลังโกหกสีขาว ใน 7 ประเด็น 1.รัฐบาลประกาศจำนำข้าวเกวียนละ 15,000ไม่เป็นความจริง 2.จำนำข้าวทุกเม็ดไม่เป็นความจริง เกษตรกรถูกเอาเปรียบจากโรงสี 3.เกษตรกรเอาข้าวไปไว้ที่โรงสีจากนั้น 3 วันจะได้รับใบประทวนอีก 3 วันสามารถนำขึ้นเงินที่ธกส. แต่ในขณะที่บางแห่ง 2-3เดือนยังไม่ได้รับเงินในโครงการจำนวนข้าว
4.รมว.พาณิชย์โกหกสีขาวว่าจะท้วงแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 1 กลับคืนมา โดยโกหกว่าจะส่งออกข้าวให้ได้ 8.5 ล้านตันแต่ปัจจุบันพบว่าส่งออกเพียง 4.75 ล้านตัน 5. การทำจีทูจีกับ 6 ประเทศไม่มีความชัดเจน เพราะอินโดนิเชียและประเทศฟิลิบปินประกาศว่าจะไม่รับซื้อข้าวจากไทยเนื่องจากราคาสูง 6. รมว.พาณิชย์และรัฐบาลชอบอ้างว่าถ้าขายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวทั้งหมด 10.5 ล้านตันจะได้เงิน 2.6 แสนล้านบาทจะขาดทุน 2 หมื่นล้านบาทจากตัวเลข 2.8 แสนล้านบาทที่รัฐบาลลงทุนซึ่งไม่เป็นความจริง
7. รมว.พาณิชย์ระบุว่ารัฐใช้เงินจำนวน 2.8 แสนล้านบาทในโครงการจำนำข้าวแต่ปรากฏว่าเลขาธิการสภาพัฒน์รายงานตัวเลขค่าใช้จ่าย 5.1 แสนล้านบาทเป็นการโกหกตัวเลข
