เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 14
เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้น สายชลซึ่งยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิมมาเปิดประตู แล้วก็ผงะ
“คุณแพร”
“วันนี้แพรขอติดรถคุณชาร์ลไปทำงานด้วยได้มั๊ยคะ รถแพรเสียน่ะค่ะ”
“ได้ซิครับ”
ชมพูแพรเหลือบเห็นลูกแก้ว เศษแก้วเกลื่อนเต็มพื้นบ้าน ก็แปลกใจสงสัย สายชลเห็นชมพูแพรมอง ก็เอาตัวบังสายตาเอาไว้
“คุณแพรรอผมสิบนาทีนะครับ แล้วผมจะไปรับที่บ้าน”
สายชลพูดจบก็เข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู ทิ้งความสงสัยไว้ที่ชมพูแพรว่ามันเกิดอะไรขึ้น
+ + + + + + + + + + + +
ขณะที่สายชลขับรถ ชมพูแพรนั่งข้างๆ คอยมองสายชลตลอดเวลาจนสายชลรู้สึกตัว
“คุณแพรมีอะไรอยากถามผมรึเปล่า”
ชมพูแพรมองสายชลอย่างชั่งใจ แล้วก็ตัดสินใจ...
“เมื่อเช้าแหวนเห็นคุณชาร์ล ออกมาจากบ้านของยัยฟ้า”
สายชลตอบนิ่งๆ
“ใช่ครับ เมื่อเช้าผมออกมาจากบ้านคุณฟ้า”
ชมพูแพรหน้าถอดสี ถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกไม่พอใจ
“ผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับคุณฟ้านิดหน่อย”
“ใช่เรื่องที่คุณชาร์ลเคยบอกแพรรึเปล่าคะ”
สายชลยิ้ม ไม่ตอบ ชมพูแพรไม่กล้าถามย้ำ แต่ยิ่งสงสัย และอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างสายชลกับฟ้าลดา
เมื่อไปถึงที่ทำงาน ชมพูแพรเดินไปเดินมา ในห้องทำงานอย่างเครียดจัด
“ทำไมคุณชาร์ลไม่ตอบเรา หรือว่า คุณชาร์ลบอกรักยัยฟ้าแล้ว”
ชมพูแพรเครียดสุดๆ
+ + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาไปที่ทำงาน บอกทุกคนว่าเธอไม่ลาออกแล้ว วีรเดชจับมือฟ้าลดาด้วยความดีใจ
“พี่รักฟ้ามากที่สุดในโลก ในที่สุดฟ้าก็ตัดสินใจกลับมาทำงานกับพี่ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ”
วีรเดชหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ฟ้าลดายิ้มเจื่อนๆ รีบดึงมือออก ธงไทยอ้าแขนจะเข้ามากอดฟ้า
“ฟ้าจ๋า มามะ...มาให้ไทยกอดแสดงความดีใจหน่อยเร้ว”
ฟ้าลดาเอามือยันหน้าธงไทยแล้วผลักออกไป ทุกคนหัวเราะ
“พี่วีคะ ฟ้ามีเรื่องอยากขอร้องพี่วี...”
“บอกมาได้เลยจ๊ะว่าฟ้าอยากขออะไร แต่ถ้าฟ้าจะขอดาวขอเดือนกับพี่ พี่คงให้ไม่ได้นะจ๊ะ”
“ติดนิสัยน้ำเน่ามาจากพี่ไทยป่ะเนี่ยพี่วี” แป๊ะแซว
วีรเดชเขกหัวแป๊ะ แล้วหันไปยิ้มให้ฟ้าลดา
“ฟ้าอยากถอนตัว ในการเป็นพรีเซนเตอร์ ของสายการบินเซเว่นซีค่ะ”
ทุกคนตกใจ
“ทำไมล่ะฟ้า โฆษณาถ่ายจบไปแล้วนะ”
“ฟ้าอ่านสัญญาแล้วนะคะพี่วี ในสัญญาไม่ได้ระบุว่าฟ้าต้องเป็นพรีเซนต์เตอร์แต่เพียงผู้เดียว เพราะฉะนั้นเรามีสิทธิ์ที่จะมีพรีเซนต์เตอร์กี่คนก็ได้ ฟ้าอยากทำงานเบื้องหลังอย่างเดียว พี่วีช่วยฟ้าหน่อยเถอะนะคะ บอกคุณชาร์ลให้ฟ้าที”
ฟ้าลดาส่งสายตาอ้อนวอน วีรเดชนิ่งคิดไปพัก
“ถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ก็อดหักหัวคิวฟ้าน่ะซิ แต่...ไม่เป็นไร คราวนี้พี่ยอม เพราะฟ้าเลือกที่จะกลับมาทำงานกับพี่ พี่จะบอกคุณชาร์ลให้เอง”
ฟ้าลดาโล่งใจและดีใจ
“ขอบคุณพี่วีมากค่ะ”
“ถ้างั้นวันนี้เราไปฉลองกันมั๊ยพี่ เลี้ยงต้อนรับที่พี่ฟ้ากลับมาทำงานกับพวกเราอีกครั้ง” จุ๊รีบเสนอ
“งานนี้พี่เป็นเจ้าภาพเอง”
ทุกคนหันขวับไปมองวีรเดชด้วยความตกตะลึง
“โอ้ว้าว..สงกะสัยที่เขาทำนายว่าหิมะจะตกในประเทศไทย คงเป็นเพราะพี่วีมากกว่า ไม่ใช่เพราะโลกร้อนหรอก”
ทุกคนหัวเราะกับมุขกับแป๊ะ ยกเว้นฟ้าลดาที่ได้แต่ยิ้มเศร้า แววตาไม่มีความสุข เจมส์หันไปมองฟ้าลดาด้วยความสงสัย
+ + + + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดากดน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟ แต่เหม่อคิดเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับสายชล เลยไม่เห็นว่าน้ำร้อนล้นออกนอกแก้วจนทำให้ลวกมือ ฟ้าลดาสะดุ้ง
“โอ๊ย!”
เจมส์เข้ามาเห็น ตกใจ รีบเข้ามาดูอย่างเป็นห่วง
“ฟ้าเป็นไรรึเปล่า”
เจมส์จับมือ ฟ้าลดาตกใจ..รีบดึงมือออก
“ฉันไม่เป็นไร”
“มือแดงขนาดนี้ บอกไม่เป็นไรได้ไง”
เจมส์จับมือฟ้าลดามาดูอีก ฟ้าลดาดึงมือออกอย่างแรง พูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์
“บอกว่าไม่เป็นไรไง!!”
เจมส์อึ้ง ฟ้าลดารู้ตัว รีบเปลี่ยนเรื่อง
“เออ...ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฝากบอกพี่วีด้วยแล้วกันว่าฉันคงไปกินข้าวด้วยไม่ได้แล้ว”
ฟ้าลดารีบเดินออกไป เจมส์มองตามไปด้วยความเป็นห่วงและสงสัยกับพฤติกรรม
+ + + + + + + + + + +
วีรเดชโทรหาสายชล บอกให้รู้ว่าฟ้าลดา ขอถอนตัวจากการเป็นพรีเซนต์เตอร์ แล้วรีบบอกเพื่อให้สบายใจ
“คุณชาร์ลไม่ต้องห่วงนะครับ มีโฆษณาเยอะแยะที่ใช้พรีเซนเตอร์หลายคน ตอนนี้เราเหลือภาพนิ่ง แล้วก็ป้ายคัทเอ้าท์ ที่จะเอาไปวางไว้ตามจุดขายตั๋วเครื่องบิน ผมว่าถ้าเราใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนต์เตอร์ มันจะช่วยกระตุ้นยอดขายให้สายการบินของคุณสายชลแน่นอน คอนเฟิร์ม ฟันธง โช๊ะเด๊ะด้วยเลยเอ้า เฮอะๆๆ”
สายชลฟังแล้วโมโหมาก
“ถ้าผมไม่ได้คุณฟ้าลดาเป็นพรีเซนต์เตอร์ ผมจะเอาโปรเจ็กต์ทั้งหมดไปให้บริษัทอื่นทำต่อ”
วีรเดชหยุดหัวเราะแทบไม่ทัน แล้วสายชลก็วางสายไปเลย วีรเดชเหวอ
“อ้าวเฮ้ย..คุณชาร์ล เวร เวรแล้วมั๊ยล่ะ”
วีรเดชเหงื่อตก...ต่อโทรศัพท์หาสายชลอีกที แต่สายชลไม่รับสายแล้ว วีรเดชหน้าซีด ขณะที่สายชลบอกกับตัวเองทันที...
“คิดจะตีตัวออกห่างสายชลเหรอนางฟ้า?? ไม่มีวัน!!!”
สายชลไปที่บริษัทวีรเดชทันที เมื่อไปถึงวีรเดชรีบเข้ามาต้อนรับ ทำเอาเจมส์ ธงไทย แป๊ะ จุ๊ที่ทำงานอยู่ หันมามองเป็นตาเดียวด้วยความแปลกใจ
“คุณชาร์ล..”
วีรเดชฟูมฟาย คุกเข่าลงไปกอดขา สายชลกับคนอื่นตกใจ
“ผมขอร้อง อย่าหอบโปรเจ็กต์ไปที่อื่นเลยนะครับ ถ้าคุณทำแบบนั้น บริษัทผมเจ๊งแน่ ลูกน้องผมคงถูกลอยแพเป็นสิบคน ผมมีพ่อมีแม่ต้องเลี้ยง มีปู่มีย่าที่ต้องดูแล แถมมีหนี้ที่ยังต้องชำระ”
“ปล่อย..”
วีรเดชกลับกอดแน่นขึ้น
“ไม่ครับ ผมไม่ปล่อย อย่าทำร้ายผู้ชายตาดำๆ ที่น่าสงสารคนนี้เลยนะครับ”
“ถ้าไม่ปล่อย ผมจะยกเลิกงานทั้งหมดกับคุณเดี๋ยวนี้”
วีรเดชรีบปล่อยขาสายชล แล้วลุกขึ้นยืนทันที
“คุณฟ้าอยู่ไหน?”
“ฟ้าไม่ค่อยสบาย กลับไปแล้ว”เจมส์บอก
สายชลหันไปมองเจมส์ แล้วก็รีบจ้ำกลับออกไป วีรเดชถอนหายใจโล่งอก เจมส์ ธงไทย แป๊ะ จุ๊เข้ามารุม
“เกิดไรขึ้นพี่วี??” ธงไทยพูด
วีรเดชหันไปมองทุกคนหน้าแย่มาก
+ + + + + + + + +
สายชลจ้ำเดินมาที่รถพลางโทรศัพท์หาฟ้าลดาไปด้วย
“ปิดเครื่องแล้วคิดว่าจะหนีพ้นเหรอ”
สายชลต่อโทรศัพท์ไปที่บ้าน แหวนรับสาย...
“ แหวน...คุณฟ้าอยู่บ้านรึเปล่า”
“คุณฟ้าไม่อยู่ค่ะ คุณชาร์ลมีอะ..”
สายชลวางสายไปเลย แหวนงง
“เอ้า..อะไรวะ??”
แหวนวางสาย เกาหัวไม่เข้าใจ
ทางด้านสายชล เมื่อนั่งมาในรถ ในใจร้อนรุ่ม ครุ่นคิดอย่างหนัก
“ไม่สบาย? ไม่สบาย?”
สายชลนึกๆๆ แล้วก็นึกออกว่าฟ้าลดาน่าจะไปไหน สายชลรีบขับรถออกไปทันที
+ + + + + + + + + + +
ที่ร้านอาหาร ในโรงพยาบาล
ฟ้าลดาเขี่ยข้าวในจานไปมา หมอวัฒนาที่นั่งกินข้าวตรงข้าม เหลือบมองฟ้าลดาแปลกใจ
“ชวนพี่มาทานข้าว แต่ตัวเองกลับทานเหมือนแมวดม”
ฟ้าลดาเงยหน้า
“พอทานเข้าไปแล้วมันรู้สึกตื้อๆน่ะค่ะ”
ฟ้าลดารวบช้อน ดื่มน้ำ หมอวัฒนาสงสัย
“ที่น้องฟ้าเป็นแบบนี้ มันเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้น้องฟ้า เปลี่ยนใจไม่กลับอเมริการึเปล่า”
ฟ้าลดานิ่ง คำถามหมอแทงใจจำ ฟ้าลดาจะร้องไห้
“ฟ้าขอไปห้องน้ำก่อนนะคะพี่หมอ”
ฟ้าลดารีบลุกเดินออกไป หมอวัฒนาเป็นห่วงมาก
ฟ้าลดาเดินมาตามทาง..กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป หยุดเดิน ก้มหน้าร้องไห้ พลันมีมือยื่นมาจับไหล่ ฟ้าลดาสะดุ้งตกใจสุดขีด รีบปัดมือออก พอหันไปก็เห็นหมอวัฒนายืนอยู่
ฟ้าลดาหน้าถอดสี หมอวัฒนาแปลกใจกับท่าทางของฟ้าลดา
“น้องฟ้าเป็นอะไร??”
“พี่หมอ...”
“น้องฟ้าร้องไห้”
หมอวัฒนาจับแขนฟ้าลดา ฟ้าลดาเบี่ยงตัวหลบ
“อย่ามาถูกตัวฟ้าเลยค่ะพี่หมอ” ฟ้าลดาน้ำเสียงแผ่วเบา ด้วยความเจ็บปวด “ฟ้าสกปรก”
หมอวัฒนาตกใจ
“น้องฟ้า! ทำไมน้องฟ้าพูดแบบนี้ล่ะครับ”
ฟ้าลดาไม่ตอบเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้
“ถ้าเป็นเพราะเรื่องที่เกาะมิน มันไม่ใช่ความผิดของน้องฟ้าเลยนะครับ”
ฟ้าลดาพูดอะไรไม่ออก มันจุกอก ตีบตันไปหมด ฟ้าลดากอดอกตัวสั่น...เหมือนลูกนกที่อ่อนแอ หมอวัฒนาค่อยๆเอื้อมมือมาจับแขนฟ้าลดา ฟ้าลดาสะดุ้งไปเล็กน้อย หมอวัฒนาค่อยๆดึงฟ้าลดาเข้ามาแล้วกอด
“ร้องไห้ออกมาเถอะครับน้องฟ้า ระบายออกมาให้หมด พี่หมอคนนี้จะอยู่กับน้องฟ้าเอง”
ฟ้าลดาเริ่มผ่อนคลาย ร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้ มือสองข้างกอดหมอวัฒนาไว้แน่นเหมือนต้องการใครซักคนเป็นที่พึ่ง
สายชลเดินออกมาจากมุมหนึ่ง..มองด้านหลัง หมอวัฒนาที่กอดฟ้าลดาก็โมโหมาก ขยับจะเข้าไปหา แต่มีคนเข็นเตียงคนไข้ตัดหน้า ทำให้สายชลต้องหยุด พอเงยหน้ามองอีกทีทั้งคู่ไม่อยู่แล้ว
สายชลไปถามหาหมอวัฒนาจากพยาบาล แต่พยาบาลบอกให้รู้ว่ากลับไปแล้ว จึงเดินออกจากโรงพยาบาลมาด้วยความโมโห แล้วระบายอารมณ์ด้วยการ หันไปเตะถังขยะหน้าโรงบาลอย่างแรง ด้วยความเจ็บใจ
(อ่านต่อหน้า 2)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 14 (ต่อ)
ชมพูแพรเข้าไปที่ห้องทำงานของสายชล พร้อมแฟ้มเอกสาร
“คุณชาร์ลคะ”
ชมพูแพรเดินเข้ามามองไปรอบๆ ไม่เห็นสายชลก็แปลกใจว่าไปไหน ก่อนจะเดินมาที่โต๊ะทำงาน วางเอกสารลงบนโต๊ะ เห็นรูปสายชลที่ถ่ายคู่กับไมเคิลวางอยู่
ชมพูแพรหยิบขึ้นมามอง เอามือลูบที่หน้าสายชลอย่างชื่นชม ค่อยๆยกรูปเข้ามา ทำท่าจะหอม พลันเสียงสายชลดังขึ้นข้างหลัง
“ทำอะไรครับ”
ชมพูแพรสะดุ้ง หันไปเห็นสายชลยืนระยะประชิดก็ตกใจ
“คุณชาร์ล!”
ชมพูแพรปล่อยกรอบรูป สายชลยื่นมือไปรับได้ทัน ก่อนจะเอื้อมมือเอารูปวางบนโต๊ะ พอหันมาหน้าก็เกือบชนหน้าชมพูแพรที่ยืนหลังติดโต๊ะ
ชมพูแพรหัวใจเต้นแรงมาก สายชลมองจนเธอหน้าร้อนผ่าว ทำหน้าไม่ถูก
“เออ..แพรเอางานเข้ามาปรึกษาคุณชาร์ลน่ะค่ะ”
สายชลคิดถึงเหตุการณ์ที่ หมอวัฒนากับฟ้าลดากอดกัน จึงอยากจะแก้แค้นขึ้นมา ขณะเดียวกัน ชมพูแพรหยิบเอกสารบนโต๊ะ หันมายื่นให้ สายชลจับมือชมพูแพรไว้
“ทำไมมือคุณแพรเย็นแบบนี้”
ชมพูแพรตะกุกตะกัก
“เออ...แอร์ห้องคุณชาร์ลเย็นน่ะค่ะ”
สายชลเห็นชมพูแพรเหงื่อผุดเต็มหน้า
“คุณแพรนี่แปลกนะครับ บอกว่าแอร์เย็น แต่เหงื่อเต็มหน้าเลย”
สายชลใช้หลังมือซับเหงื่อที่หน้าผากให้ ชมพูแพรแทบจะระทวยไปตรงนั้น ทำให้สายชลดูออกว่าเธอชอบเขา ระหว่างนั้นสหัสเปิดประตูเข้ามา
“คุณชาร์ล” สหัสเห็น ตกใจ “ขอโทษครับ”
สายชลผละออกจากชมพูแพร
“คุณชาร์ลอ่านเอกสารดูก่อนก็ได้นะคะ แล้วเราค่อยคุยกัน”
ชมพูแพรรีบเดินออกไป สหัสหันไปมองตามชมพูแพร
“มีอะไร?”
“ผมจะเข้ามาบอกว่าวันพรุ่งนี้ คุณเพลินตากับคุณพิสมัยจะกลับมาเมืองไทยครับ”
สายชลพยักหน้า สหัสยังยืนมอง
“ถ้าหมดเรื่องแล้วก็ออกไป”
“เออ คุณชาร์ล...” สายชลมองหน้าสหัส ”เมื่อกี๊คุณกับคุณชมพูแพร..”
“ไม่ใช่เรื่องของนาย”
สหัสไม่กล้าถามต่อ หันหลังเดินออกไป แต่แปลกใจกับภาพที่เห็น
+ + + + + + + + + + + +
เย็นวันนั้น ชมพูแพรนั่งรถกลับมากับสายชล
“ขอบคุณนะคะ”
ชมพูแพรบอกก่อนที่จะลงจากรถ สายชลยิ้มให้
“ถ้าคุณชาร์ลไม่มีเพื่อนทานอาหารเย็น ก็เชิญที่บ้านแพรนะคะ”
“ขอบคุณมากครับ แต่วันนี้ผมเอางานกลับมาทำที่บ้าน อยากทานไป ทำงานไปมากกว่า”
ชมพูแพรพยักหน้า แล้วก็ลงจากรถ สายชลขับไปที่บ้านพัก
ชมพูแพรรู้สึกผิดหวังเล็กๆ ก่อนจะได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา หันไปเห็นฟ้าลดาขับรถกลับมา ก็รีบเดินไปหาทันที และถามเรื่องไปอเมริกาอีก
ฟ้าลดามองพี่สาวอย่างแปลกใจ
“ทำไมพี่แพรถามฟ้าอีกล่ะคะ ฟ้าก็บอกแล้วว่าที่ฟ้าไม่กลับไปอเมริกา เพราะฟ้าเป็นห่วงพี่แพร”
ชมพูแพรเดินมาจ้องหน้าฟ้าลดา
“อย่าโกหกพี่นะฟ้า ถ้าฟ้ามีอะไรแล้วไม่บอกพี่ พี่โกรธนะ”
ฟ้าลดาทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อน
“ฟ้าไม่มีอะไรจริงๆค่ะ”
ชมพูแพรมองจับผิด
“ถ้าฟ้าบอกไม่มีอะไร พี่ก็จะเชื่อ” ชมพูแพรจับแขนฟ้าลดาสองข้าง “จำไว้นะว่าฟ้าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของพี่ พี่รักฟ้ามาก ถ้ามีอะไร หรือมีใครมาทำให้น้องสาวของพี่ ต้องเจ็บช้ำน้ำใจ พี่จะไม่ปล่อยไว้ พี่ทำได้ทุกอย่างเพื่อน้องสาวคนเดียวคนนี้ ถ้าฟ้ามีปัญหาหรือมีเรื่องไม่สบายใจ ฟ้าต้องเล่าให้พี่ฟัง รับปากพี่ซิฟ้า”
“ได้ค่ะ...” ฟ้าลดาสวมกอดชมพูแพร
“ฟ้ารู้นะคะว่าพี่แพรทำงานหนักเพื่อฟ้า ฟ้าจะไม่ทำให้พี่แพรต้องมาเหนื่อยกับฟ้าอีก”
ชมพูแพรดึงฟ้าลดาออกมา
“งั้นฟ้าก็รีบไปพักเถอะ รู้มั๊ยว่าวันนี้น้องสาวของพี่หน้าตาไม่สดใสเลย”
ฟ้าลดายิ้มเจื่อน ชมพูแพรเดินกลับไป
“ปัญหาของฟ้า ฟ้าจะแก้ไขเอง ฟ้าจะไม่ทำให้พี่แพรเดือดร้อนเด็ดขาด”
ฟ้าลดาบอกตัวเอง แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทางด้านชมพูแพรที่เดินมาถึงหน้าประตูบ้าน ก็ถอนใจเฮือก
“คุณชาร์ลคงยังไม่ได้บอกเรื่องนั้นกับยัยฟ้า”
ชมพูแพรค่อนข้างเบาใจ แล้วก็หันไปมองที่บ้านเช่าของสายชลอย่างครุ่นคิด
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดาเดินกลับไปที่บ้าน หันไปมองรอบๆท่าทางหวาดระแวงกลัวเจอสายชล พอหันไปเห็นบ้านเช่าสายชลมืดสนิทก็สบายใจ คิดว่าสายชลคงยังไม่กลับมา
ฟ้าลดาเดินไปไขกุญแจบ้าน แปลกใจ ที่ประตูไม่ได้ล็อค
“เมื่อเช้าตอนเราออกจากบ้าน ไม่ได้ล็อคเหรอ”
ฟ้าลดาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน เปิดไฟ หันไปก็ตกตะลึงที่เห็นสายชลนั่งอยู่
“ให้ผัวรอนาน ไม่ใช่นิสัยที่ดีของเมียเลยนะ”
ฟ้าลดาจะออกไป สายชลพุ่งเข้ามาปิดประตูแล้วล็อค ฟ้าลดารีบเข้าไปคว้าไม้เบสบอลขึ้นมา สายชลจะเข้ามาแย่ง แต่ฟ้าลดาฟาดเต็มแรง สายชลหลบทันและตกใจที่ฟ้าลดาเอาจริง
“คุณบ้าไปแล้วเหรอ”
“ถ้าคุณไม่ออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะบ้าให้มากกว่านี้”
“โอเค..ผมจะออกไป”
สายชลหันหลัง เดินไปที่ประตู ทำท่าจะออกไป รอจังหวะฟ้าลดาเผลอ สายชลหันไป..แย่งไม้เบสบอลมาจากมือฟ้าลดาแล้วโยนทิ้ง พร้อมกับกอดฟ้าลดาจากทางด้านหลังไว้แน่น ฟ้าลดาดิ้นสู้
“เอามือสกปรกของคุณออกไปจากฉัน”
สายชลพูดข้างหู
“ทีกับผู้ชายคนอื่นให้เขายืนกอดได้น่าไม่อาย ทีกับผัวตัวเองทำเป็นรังเกียจ”
ฟ้าลดาไม่เข้าใจคำพูดนั้น สายชลจับฟ้าลดาให้หันมา ยื่นหน้าจะจูบ ฟ้าลดาหลับตาแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาสายชลอึ้งที่เห็นน้ำตาของฟ้าลดา
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรถือถาดอาหาร ยิ้มด้วยความอารมณ์ดีเดินมาที่หน้าบ้านสายชล มองเข้าไปเห็นทั้งบ้านมืดสนิทก็แปลกใจ
“ทำไมปิดไฟ ไหนบอกว่าจะเคลียร์งาน?”
ชมพูแพรเอะใจ หันไปมองเห็นบ้านหลังเล็กของฟ้าลดาเปิดไฟ...ก็ใจไม่ดี
ทางด้านสายชลปล่อยมือจากฟ้าลดา ที่รีบถอยออกห่าง
“ออกไปจากบ้านฉัน”
“ผมไปแน่ แต่ก่อนไป ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าคุณไม่มีวันหนีผม คุณต้องทำตามที่ผมสั่ง คุณต้องเป็นพรีเซนต์เตอร์ให้ผมต่อ”
“ฉันไม่เป็น และคุณก็บังคับฉันไม่ได้ด้วย”
“เดี๋ยวคุณก็จะได้เห็นว่าผมบังคับคุณได้ หรือ ไม่ได้”
ฟ้าลดาแปลกใจ สายชลหยิบมือถือโทรหาวีรเดช
“คุณวี...ลูกน้องคุณปฏิเสธที่จะเป็นพรีเซนต์เตอร์ให้ผม เพราะฉะนั้นผมจะเอาโปรเจ็กต์นี้ไปให้ที่อื่นทำต่อ” ฟ้าลดาตกใจ สายชลวางสาย
“คุณ!”
ยังไม่ทันพูดต่อ เสียงมือถือฟ้าลดาดังขึ้น ฟ้าลดาชะงัก หยิบมาดู
“พี่วี...”
ฟ้าลดาหันไปมองสายชลด้วยความโมโห สายชลยิ้ม ฟ้าลดากดรับสาย
“ค่ะพี่วี...ใจเย็นค่ะพี่วี อย่าเพิ่งร้องไห้”
ฟ้าลดาฟังแล้วก็อ่อนใจ หันไปจ้องหน้าสายชลไม่พอใจ
“ตกลงค่ะตกลง..ฟ้าไม่ถอนตัวแล้ว” ฟ้าลดาวางสาย “สาแก่ใจคุณแล้วใช่มั๊ย”
“มากกกกกก”
สายชลยิ้มพร้อมยักคิ้วกวน ฟ้าลดาเปิดประตูให้สายชล
“กลับไปได้แล้ว”
สายชลเดินมาที่ประตู แล้วจู่โจมหอมแก้มฟ้าลดาโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ฟ้าลดาตกใจ สายชลหัวเราะกวนๆ แล้วเดินออกไป ฟ้าลดารีบปิดประตูดังปัง!! ก่อนจะยกมือเช็ดหน้าตัวเองด้วยความรังเกียจ
สายชลเดินออกไปด้านหนึ่ง ชมพูแพรเดินเข้ามาอีกด้านจึงไม่เห็นกัน
ด้านใน...ฟ้าลดายังคงถูหน้าตัวเองไม่หยุด เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฟ้าลดาเข้าใจว่าเป็นสายชลก็โมโห
“มีอะไรอีก”
“ฟ้า...นี่พี่เอง”
ฟ้าลดาตกใจ
“พี่แพร!”รีบเปิดประตู
ชมพูแพรมองสงสัย
“มีใครมาหาฟ้าเหรอ”
“เออ ไม่มีนี่คะ”
“เอ้า..แล้วที่ฟ้าถามว่ามีอะไรอีก มันคืออะไร”
“ฟ้านึกว่าเป็นแหวนน่ะค่ะ พี่แพรมาหาฟ้ามีไรเหรอคะ”
ชมพูแพรเหลือบมองไปนอกหน้าต่าง แล้วก็เห็นไฟบ้านสายชลเพิ่งเปิด ชมพูแพรผงะ รู้สึกทะแม่งๆ เอะใจ
“พี่แพร ตกลงมาหาฟ้ามีไรคะ”
“จะมาเตือนฟ้าว่า พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบวันตาย ของคุณพ่อคุณแม่”
“ค่ะ ฟ้าไม่ลืม”
“อย่าตื่นสายล่ะฟ้า”
“ค่ะ”
ชมพูแพรเดินออกไป ฟ้าลดารีบประตูแล้วล็อค ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
+ + + + + + + + + + + +
วันต่อมา...
หมอวัฒนาเอายาบำรุงวางบนโต๊ะ ฟ้าลดามองตะลึงๆ
“โอ้โฮ นี่พี่หมอกะจะให้ฟ้ากินวิตามินแทนข้าวรึเปล่าคะ”
หมอวัฒนายิ้ม
“พี่เป็นห่วงน้องฟ้านี่จ๊ะ เห็นน้องฟ้าไม่ค่อยกินข้าว ก็ต้องบำรุงกันหน่อยล่ะ”
“ขอบคุณมากนะคะพี่หมอ เออ พี่หมอคะ..ฟ้าไม่อยากให้พี่หมอเล่าให้พี่แพรฟังเรื่องเมื่อวาน ฟ้าไม่อยากให้พี่แพรเป็นห่วง พี่แพรยิ่งขี้กังวลอยู่ด้วย”
“จ๊ะ”
หมอวัฒนาจับหัวฟ้าลดาด้วยความเอ็นดู ขณะเดียวกันนั้น สายชลมองฟ้าลดากับหมอวัฒนา จากกล้องดูดาว ก่อนจะผละออกมาด้วยความโมโหหึง
ฟ้าลดาเก็บยาใส่ถุง หมอวัฒนาลุกขึ้นยืน
“พี่ไปรอที่รถนะน้องฟ้า”
ฟ้าลดาลุกขึ้นเดินมากราบที่อกหมอ
“ขอบคุณพี่หมอมากนะคะที่เป็นห่วงฟ้า”
หมอวัฒนายิ้มให้ฟ้าลดาอย่างอ่อนโยน ฟ้าลดาเข้ามากอดหมอวัฒนาหลวมๆ
ชมพูแพรเดินมา แล้วก็ชะงัก...เห็นหมอวัฒนากับฟ้าลดาก็ครุ่นคิดบางอย่างทันที ไม่นานหมอวัฒนากับฟ้าลดาผละออกจากกัน หันไปเห็นชมพูแพร
“พี่แพร”
ชมพูแพรยิ้มแล้วเดินมาหา
“ยังไม่แต่งตัวอีกเหรอฟ้า”
“แต่งแล้วค่ะ”
“ไปชุดนี้เนี่ยนะ”
“ค่ะ พี่แพรกับพี่หมอไปรอที่รถได้เลย ฟ้าขอไปเอากระเป๋าก่อนแล้วจะรีบตามไป”
หมอวัฒนากับชมพูแพรเดินออกไป ฟ้าลดาเข้าไปในบ้าน
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรเดินออกมาจากบ้าน กับหมอวัฒนา
“ถ้าแพรเป็นพวกคิดมาก คงคิดว่าพี่หมอกับยัยฟ้ากิ๊กกันแน่ๆเลยค่ะ”ชมพูแพรแกล้งพูด
หมอวัฒนาตกใจ
“ไม่ใช่นะแพร ผมรักแล้วก็เอ็นดูฟ้าเหมือนน้องสาว”
ชมพูแพรขำ
“แพรแซวเล่นน่ะค่ะ”
หมอวัฒนายิ้มโล่งใจ
“เออนี่แพร...ผมมีบางอย่างต้องบอกแพรเรื่องน้องฟ้า”
“ยัยฟ้าเป็นอะไรคะ”
“เมื่อวานฟ้ามาหาผมที่โรงพยาบาล ท่าทางฟ้าดูตื่นกลัว แล้วก็ร้องไห้ไม่หยุด”
ชมพูแพรชะงัก คิดเรื่องที่สายชลออกมาจากบ้านฟ้าลดา
หมอวัฒนามองชมพูแพรยืนนิ่งก็แปลกใจ
“แพรครับ”
ชมพูแพรหันมา
“คะ? เออ..แพรกำลังคิดว่าที่ยัยฟ้าเป็นแบบนั้น เพราะเรื่องที่เกาะมินรึเปล่า”
“มีความเป็นไปได้ครับ น้องฟ้าอาจจะช็อคกับสิ่งที่ได้รู้”
“แต่เมื่อเช้าฟ้าก็ดูปกตินะคะ”
“นั่นแหละครับ ยิ่งน่าเป็นห่วง เวลาที่น้องฟ้ามีปัญหา น้องฟ้าจะไม่แสดงออก ยิ่งน้องฟ้าทำตัวเป็นปกติมากเท่าไหร่ แสดงว่าน้องฟ้าไม่ปกติ เราต้องช่วยๆกันดู”
“ค่ะ”
ชมพูแพรทำทีเป็นรับปาก ขณะที่คิดอะไรบางอย่างในใจ
(อ่านต่อหน้า 3)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่ 14 (ต่อ)
เช้าวันใหม่...
ฟ้าลดาเดินออกมาจากบ้าน สายชลเข้ามาฉุดแขน ฟ้าลดาตกใจหันไป
“คุณชาร์ล!!”
ฟ้าลดารีบสะบัดแขนให้หลุด ทำให้กระเป๋าสะพายหล่นพื้น
“จะไปไหนกับหมอวัฒนา”
“ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน”
“ถ้างั้นผมไม่ให้คุณไป”
สายชลพาล แล้วจับแขนฟ้าลดาแน่น
“คุณต้องไปกับผม”
ฟ้าลดาพยายามแกะมือสายชลออก
“ฉันไม่ไป”
สายชลไม่สน ลากฟ้าลดาออกไปทันที แหวนเดินออกมาเห็นสายชลกับฟ้าลดาก็ชะงักกึก
“อีกแล้ว”
+ + + + + + + + + + + +
ป้าเนียมเอาพวงมาลัยพวงโต มาให้ชมพูแพรกับหมอวัฒนา
“ฝากเอาให้คุณผู้ชาย กับคุณผู้หญิงด้วยนะคะคุณแพร”
“ค่ะ” ชมพูแพรหันไปมองฟ้าลดา “ทำไมยัยฟ้ายังไม่มาอีก”
“ผมไปตามให้ครับ”
แหวนเดินเข้ามา
“ไม่ต้องหรอกค่ะพี่หมอ แหวน..ไปตามคุณฟ้าที”
“แหวนเห็นคุณฟ้า ออกไปกับคุณชาร์ลแล้วค่ะ”
ทุกคนชะงักไปทันที
ทางด้านสายชลขับรถออกไป ฟ้าลดาหันไปมองสายชล
“คุณชาร์ล!! จอดให้ฉันลงเถอะ วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายพ่อกับแม่ฉัน ฉันต้องไหว้ท่าน”
สายชลชะงักไปนิดๆ รู้สึกผิดเหมือนกันที่พาฟ้าลดาออกมา แต่ทำโหดต่อ
“พี่สาวคุณกับคุณหมอไปแล้ว คุณก็ไม่ต้องไป”
ฟ้าลดาโมโห
“ใจร้าย”
“ผมก็เรียนรู้จากคุณไง ฟ้าลดา”
ฟ้าลดาสุดทน
“ฉันไม่เข้าใจว่า ฉันไปทำอะไรให้ ทำไมคุณต้องทำกับฉันแบบนี้”
สายชลจอดรถเข้าข้างทางอย่างแรง แล้วเบรกเอี๊ยดด้วยความโมโห หันมาทางฟ้าลดา
“คุณนี่แสดงละครได้เก่งจริงๆ ทำเป็นอินโนเซ้นไม่เข้าใจได้เนียนมาก”
“คุณชาร์ล!! เลิกพูดจาแล้วก็ทำพฤติกรรมดูถูกฉันซักที”
“ผู้หญิงอย่างคุณทำไมผมต้องให้เกียรติ!! มักมาก ไม่รู้จักพอ ถามจริงเหอะนี่คุณคิดแย่งแฟนพี่สาวตัวเองด้วยรึเปล่า”
ฟ้าลดาตบหน้าสายชลเพียะ!!
สายชลผงะ หันมาหัวเราะ ฟ้าลดายิ่งฉุน
“คุณมันบ้า!! บ้า บ้า บ้า”
ฟ้าลดาเปิดประตูจะออกจากรถ สายชลดึงฟ้าลดาเอาไว้ไม่ให้ออก ใช้มือกดไหล่ฟ้าลดาจนติดประตูรถ
“ถ้าคุณออกไป ผมจะปล้ำคุณเดี๋ยวนี้!”
ฟ้าลดาไม่สน พยายามจะออกไป สายชลจับตัวฟ้าลดาเบียดตัวเข้ามาจะจูบ ฟ้าลดาตกใจ รีบเอามือดันสายชลให้ออกห่าง
“ฉันไม่ไปแล้ว”
สายชลยิ้มสะใจ แล้วขับรถออกไป ฟ้าลดาหอบหายใจถี่
+ + + + + + + + + + + +
ชมพูแพรหยิบกระเป๋าสะพายฟ้าลดา ที่หล่นบนพื้นขึ้นมา
“ยัยฟ้าไม่ได้เอากระเป๋าไป” ชมพูแพรหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า “มือถือก็ไม่ได้เอาไปด้วย ทำไมต้องรีบแบบนี้”
ชมพูแพรร้อนรน ร้อนใจมาก
“โทรหาคุณชาร์ลมั๊ยครับ”แหมอวัฒนาถาม
ชมพูแพรหยิบมือถือโทรไปหาสายชลทันที เสียงมือถือดังขึ้น สายชลหยิบมือถือเห็นชื่อหน้าจอ ก็หันไปยิ้มให้ฟ้าลดา
สายชลกดรับสายผ่านทางบลูทูธ
“ครับคุณแพร ใช่ครับ คุณฟ้าอยู่กับผม พอดีผมมีงานด่วนต้องให้คุณฟ้าไปทำ ได้ซิครับ”
สายชลส่งมือถือให้ฟ้าลดา
“พูดดีๆ”
ฟ้าลดารับมือถือมาพูด
“ค่ะพี่แพร ฟ้าขอโทษนะคะที่ไปไม่ได้ งานด่วนจริงๆค่ะ พอดีฟ้ารีบไป ก็เลยลืมกระเป๋า”
ชมพูแพรกดวางสายด้วยความหัวเสีย
“อะไรมันจะรีบขนาดนั้นจนลืมกระเป๋าเอาไว้?!! ไม่รู้คุณชาร์ลกับยัยฟ้าไปทำอะไรกันแน่”
“ก็คงจะเป็นงานด่วนจริงๆล่ะครับ ถึงรีบมากขนาดนี้ ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะครับ”
ชมพูแพรฮึดฮัดหงุดหงิดเดินออกไป หมอวัฒนามองชมพูแพรสงสัย ป้าเนียมกับแหวนมองตาม
“คุณแพรดูเหมือนหึง ที่คุณชาร์ลออกไปกับคุณฟ้าเลยนะป้า แสดงออกเต็มที่เลยอ่ะ”
“สู่รู้อีกแล้วนะแก”
แหวนแบะปาก ขณะที่ป้าเนียมรู้สึกไม่สบายใจ
+ + + + + + + + + + + +
หลังจากไปไหว้อัฐิของพ่อ แม่ที่วัด ชมพูแพรเดินหน้าเครียดออกมา
“เดี๋ยวเราไปหาอะไรทานกันนะครับแพร”
ชมพูแพรเงียบ เอาแต่คิดเรื่องสายชลกับฟ้าลดา หมอวัฒนาแปลกใจ
“แพรครับ...”
ชมพูแพรได้ยิน หยุดเดิน หันมาทางหมอวัฒนา
“คะพี่หมอ”
“แพรไม่ได้ยินที่ผมพูดเหรอครับ แพรคิดอะไรอยู่”
“เออ คิดว่าป่านนี้คุณชาร์ลกับยัยฟ้าจะกลับมาบ้านเหรอยัง”
“ดูแพรกังวลจังเลยนะครับ”
“นั่นน้องสาวแพรนะคะพี่หมอ”
“น้องฟ้าก็บอกแล้วว่าไปทำงาน ผมไม่เห็นว่าแพรจะต้องกังวลไปทำไม”
ชมพูแพรนิ่ง หมอมองหยั่งเชิง
“ผมดูๆน้องฟ้ากับคุณชาร์ลแล้ว ไม่แน่สองคนนั้นเค้าอาจจะชอบพอกันจริงๆ”
ชมพูแพรสวนกลับทันที
“ไม่ได้”
หมอวัฒนาผงะ
“ทำไมถึงไม่ได้ครับ”
ชมพูแพรอึกอัก
“เพราะเขาเป็นเจ้านายแพร และยัยฟ้าก็เป็นน้องสาวแพร ขืนเขาสองคนรักกัน ชาวบ้านได้นินทาตาย”
“แพรรู้มั๊ยว่าตอนนี้แพรเหมือนอะไร แพรเหมือนเป็นแฟนคุณชาร์ล แล้วแพรก็หึงที่คุณชาร์ลออกไปกับน้องฟ้า”
ชมพูแพรอึ้ง...
“พี่หมอ...ทำไมพี่หมอคิดแบบนี้”
“ไม่รู้ซิครับ ตั้งแต่แพรกลับจากกระบี่ ผมรู้สึกว่าแพรเปลี่ยนไป เราไม่ค่อยได้คุย และพอเราเจอกัน เราก็ไม่มีเรื่องคุยกัน แล้วก็ลงท้ายด้วยการมีปากเสียง แล้วแพรก็ไม่เคยใส่แหวนแต่งงานของผมอีกเลย มันเหมือนว่าแพรกำลังมีคนอื่น”
หมอวัฒนามองหน้าชมพูแพรจับผิด ชมพูแพรพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ ควบคุมอารมณ์
“สิบปีที่เราคบกันมา พี่หมอยังไม่ไว้ใจแพรเหรอคะ พี่หมอดีกับแพรมาก ยิ่งช่วงที่คุณพ่อคุณแม่เสีย แล้วก็ช่วงที่ยัยฟ้าหายตัวไป พี่หมอเป็นคนเดียวที่ยืนข้างแพรมาตลอด ความดีของพี่หมอแพรไม่ลืมหรอกนะคะ”
“ผมอยากให้แพรแต่งงานเพราะรักผม ไม่ใช่แต่ง...เพราะความดีของผม”
หมอวัฒนาพูดด้วยความน้อยใจ แล้วเดินไปที่รถ ชมพูแพรตามมาอย่างไม่พอใจ
“พี่หมอ...”
หมอวัฒนาหันไปมอง
“พี่หมออย่ามาพูดทิ้งท้ายแล้วเดินหนีไปแบบนี้นะคะ พี่หมอกำลังดูถูกความรักของแพรที่มีให้พี่หมอ ถ้าพี่หมอคิดว่าแพรเป็นแบบนั้น เราก็ไม่ต้องแต่งงานกัน”
หมอวัฒนาตกใจ ชมพูแพรจ้ำเดินออกไปเลยอย่างแกล้งทำเป็นโมโหมาก
“แพร กลับไปขึ้นรถ”หมอวัฒนาตามติดๆ
“ไม่ แพรจะกลับบ้านเอง”
หมอวัฒนารีบตามมาขวาง
“แพร..”
ชมพูแพรเบี่ยงตัวหลบ หมอวัฒนาจับแขนไว้
“ปล่อยแพร อย่ามายุ่งกับแพร...ปล่อยแพรซิคะพี่หมอ”
หมอวัฒนาดึงชมพูแพรมากอด ชมพูแพรชะงัก
“ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ดูถูกความรักของแพรที่มีต่อผม”
ชมพูแพรนิ่ง หมอวัฒนาผละออกมามองหน้า...
“เราอย่าเป็นแบบนี้กันเลยอีกเลยนะครับ ผมไม่ชอบเวลาที่เราทะเลาะกัน”
“แพรก็ไม่ชอบเหมือนกันค่ะ”
“แพรอย่าโกรธผมนะ”
“พี่หมอจำไว้นะคะ มีสองอย่างที่จะทำให้แพรหมดรักพี่หมอ นั่นคือ การโกหก กับ การนอกใจ”
หมอวัฒนาหนักแน่น
“แพรมั่นใจได้เลยว่า สองสิ่งนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น”
ชมพูแพรพยักหน้า หมอวัฒนาดึงชมพูแพรมากอดอีกครั้ง
+ + + + + + + + + + +
สหัสไปรับเพลินตา กับพิสมัยที่สนามบิน และพากลับมาส่งที่บ้านพัก เพลินตาโวยวายที่ไม่เห็นสายชล
“วันนี้วันหยุด ทำไมพี่ชาร์ลถึงไม่ไปรับฉันกับคุณแม่”
“คุณชาร์ลไม่ว่างครับ”
“ไม่ว่าง?! ไปไหน?”
“ไม่ทราบครับ”
“เป็นผู้ช่วยภาษาอะไร ถึงไม่เคยรู้ว่าพี่ชาร์ลไปไหน “
“ผู้ช่วยนี่ครับ ไม่ใช่เมีย”
เพลินตาฉุน
“นายสาหัส!!”
สหัสเงียบ เพลินตาฉุกคิดอะไรได้เหล่มองสหัสมีเลศนัย
“คุณแม่ขา วันนี้เราไปชอปปิ้งกันดีกว่าค่ะ”
“ดีจ๊ะลูก”
“ถ้าหมดธุระแล้ว ผมกลับนะครับ”สหัสรีบบอก
“ใครบอกว่าแกหมดธุระ แกต้องขับรถให้ฉัน”
เพลินตากับพิสมัยเดินเชิดออกไป สหัสถอนใจเฮือกด้วยความเซ็ง
(อ่านต่อหน้า 4)
เกมร้ายเกมรัก ตอนที่14 (ต่อ)
ในห้างสรรพสินค้า
สายชลจับมือฟ้าลดากึ่งเดินกึ่งลากมาตามทาง ฟ้าลดาไม่เต็มใจเดิน คนแถวนั้นหันมามองสายชลกับฟ้าลดาสายตาแปลกๆ เพราะสายชลดูดีมาก แต่ฟ้าลดาเซอร์สุดๆ
“ตกลงคุณจะพาฉันไปไหน”สายชลไม่ตอบ “คุณชาร์ล!!”
สายชลไม่สนใจ ลากเข้าร้านเสริมสวยทันที สายชลบอกให้พนักงานรู้ว่าเขาต้องการให้ทำอะไรกับกับฟ้าลดา
“ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้วค่ะ” พนักงานบอก
“ผมจะนั่งรอตรงนั้น”
ฟ้าลดาค้อนสายชลด้วยความหัวเสีย สายชลแอบยิ้มขำๆ
พนักงานทำผมให้ฟ้าลดา ขณะที่สายชลนั่งเล่นเน็ตทางมือถือ พักใหญ่ เสียงพนักงานดังขึ้น
“เสร็จแล้วค่ะ”
สายชลเงยหน้า เห็นฟ้าลดานั่งผมยาวตรงอยู่หน้ากระจก สายชลเดินมาด้านหลังฟ้าลดา เอามือเท้าเก้าอี้ แล้วโน้มหน้าลงไปข้างๆ ก่อนจะหันไปยื่นหน้าไปดมผม ฟ้าลดารู้สึกรังเกียจ จะลุกขึ้นแต่ถูกกดไหล่เอาไว้
“พอใจหรือยัง” ฟ้าลดาถามเสียงแข็ง
“ยัง”
สายชลยิ้ม แล้วพาเธอมาที่ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม ฟ้าลดาขืนตัวไม่ยอมเข้าไป
“ฉันไม่ใช่ตุ๊กตา ที่คุณนึกจะจับฉันแต่งตัวหรือทำอะไรก็ได้”
สายชลหันมา
“คุณไม่ใช่ตุ๊กตา แต่คุณเป็นสมบัติของผม ต่อจากนี้ไป คุณต้องเป็นในแบบที่ผมต้องการ!!”
“แล้วถ้าฉันไม่ทำตามคุณ“
สายชลยิ้มมุมปาก ยื่นหน้ามาข้างหูฟ้าลดาแล้วพูดเสียงแผ่วเบา
“เราก็จะได้ใกล้ชิด แนบแน่นกันแบบวันก่อน”
สายชลเอื้อมมือมาจับเอว ฟ้าลดาชะงัก รีบผละออกห่าง สายชลมองด้วยสีหน้าเอาจริง ฟ้าลดาจำต้องยอมตามเข้าไป
สายชลพาฟ้าลดาเข้ามาในร้านเสื้อ หยิบเสื้อสี่ห้าชุดจากที่แขวนหันไปส่งให้ฟ้าลดาลอง แล้วไปนั่งอ่านแม็กกาซีนรอ ไม่นานฟ้าลดาเดินออกมา สายชลเห็นเท้าที่ใส่รองเท้าส้นสูง แล้วก็ไล่สายตาขึ้นมาเห็นฟ้าลดาเต็มตัว สายชลมองด้วยความพอใจ
ฟ้าลดายืนนิ่งๆ สายชลลุกขึ้นเดินมาตรงหน้า มองตั้งแต่หัวจรดเท้า พนักงานเดินมาหา
“ถูกใจมั๊ยคะท่าน”
“พอใจแล้วใช่มั๊ย ฉันจะได้ไปเปลี่ยนชุด” ฟ้าลดาถาม
สายชลหันไปทางพนักงาน
“เอาเสื้อผ้าพวกนั้นไปทิ้ง”
พนักงานตกใจ ฟ้าลดาหันขวับมาทางสายชล
“ไม่ได้! นั่นมันเสื้อผ้าของฉัน”
สายชลเสียงเข้มกับพนักงาน
“เอา-ไป-ทิ้ง!!”
พนักงานไม่กล้า กวาดเสื้อกับกางเกงฟ้าลดาขึ้นมา ฟ้าลดาเข้าไปแย่งชุดกับรองเท้าคืนจากพนักงาน แต่ไม่ถนัดเพราะใส่ส้นสูงเลยล้มไปบนพื้น พนักงานรีบเดินออกไป
ฟ้าลดาโมโหมาก ลุกขึ้น หันมาทางสายชล
“คิดจะพรากของที่ฉันรักไปหมดเลยเหรอไง!!”
“ใช่!! ทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้ง...”
สายชลใช้หลังมือลูบแขนฟ้าลดา พลางมองกรุ่มกริ่ม ฟ้าลดาปัดมือสายชลออก สายชลหัวเราะชอบใจแล้วก็เดินออกไป ฟ้าลดาแค้นใจสุดๆ
+ + + + + + + + + + + +
สายชลจับมือฟ้าลดาเดินไปด้วยกัน แต่เพราะเดินบนส้นสูงไม่ถนัด ทำให้จะล้ม สายชลรีบเข้ามาประคอง โอบเอวเธอเอาไว้ สองคนหน้าใกล้กัน สายชลประคองฟ้าลดาให้ลุกขึ้นยืน
“เดินบนส้นสูงแค่นี้ยังเดินไม่ได้ แล้วจะเดินงานเปิดตัวพรีเซนต์เตอร์ให้ผมได้เหรอ”
“งั้นก็ไม่ต้องจ้างฉันซิ”
“ผมจะจ้างมืออาชีพมาฝึกคุณ และคุณจะต้องฝึกอย่างหนักจนไม่มีเวลาไปไหนเลย”
ฟ้าลดาไม่พอใจ สายชลจับมือฟ้าลดาแล้วพาเดินไปที่ร้านอาหาร พนักงานเข้ามาต้อนรับ แล้วพาเดินไปที่โต๊ะ พนักงานเลื่อนเก้าอี้ให้ฟ้าลดานั่งลง ก่อนจะเอาเมนูให้ทั้งสองคน
“ขอน้ำส้มให้คุณผู้หญิง”
“ฉันไม่ดื่ม”
สายชลเหลือบตามองฟ้าลดาแต่ไม่ได้สนใจ
“ส่วนฉันขอน้ำแร่ เอาเครื่องดื่มมาก่อน”
พนักงานรับคำแล้วเดินออกไป ฟ้าลดาโมโห
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ดื่มน้ำส้ม”
สายชลไม่สน ก้มหน้าอ่านเมนู ฟ้าลดายิ่งฉุน เตะหน้าแข้งสายชลใต้โต๊ะ สายชลสะดุ้งโหยง ร้องออกมาเสียงดัง
“โอ๊ย!!”
คนทั้งร้านหันมามองสายชลเป็นตาเดียว สายชลชะงัก อายมาก หันไปมองฟ้าลดาไม่พอใจ ฟ้าลดาทำหน้ากวน แล้วก็หยิบเมนูมาอ่าน
+ + + + + + + + + +
เพลินตา พิสมัย เดินนำสหัสที่ทั้งหอบ ทั้งหิ้วถุง ที่สองแม่ลูกไปช็อปปิ้งมาเต็มไม้เต็มมือ
“ชอปปิ้งนาน แม่ชักหิวแล้วนะคะลูก”
“ตาก็หิวเหมือนกันค่ะ ทานอะไรดีคะคุณแม่ อาหารญี่ปุ่น อาหารอิตาลี หรืออาหารไทยดีคะ”
พิสมัยมองหาร้าน แล้วก็ชะงัก เห็นสายชลนั่งกับฟ้าลดา แต่ฟ้าลดานั่งหันหลัง ทำให้พิสมัยไม่เห็นว่าเป็นใคร
“แม่ว่าเราไปทานร้านนั้นกันดีกว่าค่ะ”
เพลินตาหันไปมองตามพิสมัยแล้วก็อึ้ง
“พี่ชาร์ล!!”
สหัสหันขวับไปมองตามเห็นสายชลก็ตกใจ เพลินตามองอย่างโมโหหึงสุดๆ
ในร้าน...
พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ทันใดนั้นเสียงเพลินตาดังขึ้น
“พี่ชาร์ล”
สายชลชะงักเงยหน้าเห็นเพลินตา พิสมัย สหัสเดินมาหา ฟ้าลดาหันไป ทั้งสามคนตะลึงกับการแต่งตัวสไตล์ใหม่ของฟ้าลดา
“แกเองเหรอ”
ฟ้าลดาเห็นเพลินตา ก็คิดอยากแกล้งขึ้นมาทันที
“ไหนสหัสบอกว่าพี่ชาร์ลยุ่งไงคะ” เพลินตาปรายตามองฟ้าลดา ”เนี่ยเหรอคะเรื่องยุ่งของพี่”
“พี่กำลังคุยธุระอยู่กับคุณฟ้า”
“ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอกค่ะ คุยกันเรื่อยเปื่อย นั่งด้วยกันซิคะ”
ฟ้าลดาชวนหน้าตาเฉย สายชลผงะ เพลินตากับพิสมัยมองฟ้าลดาที่ยิ้มให้ ตัดสินใจนั่งลงทันที สหัสจำต้องนั่งลงด้วย ฟ้าลดาสั่งอาหารเพิ่มทันที ไม่นานนัก พนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม เป็นปูที่ต้องใช้อุปกรณ์ในการแกะ
ฟ้าลดาเหลือบมองเพลินตาที่นั่งตรงข้าม จึงหยิบที่คีบมาคีบก้ามปู แล้วก็แกล้งทำเป็นว่าหลุดมือ
“ว๊าย!!”
ปูกระเด็นไปแปะที่หน้าอกเพลินตา
“อ๊ายยย!!” เพลินตากรี๊ดลั่น
สหัสที่นั่งหัวโต๊ะ เอื้อมมือมาหยิบปูให้เพลินตาโดยอัตโนมัติ เพลินตายิ่งกรี๊ด
“นายสาหัส! คิดแต๊ะอั๋งฉันเหรอ?!!”
สหัสเหวอ
“ผมเปล่านะครับ”
เพลินตาเอาผ้าเช็ดปากตีสหัสไม่หยุด ฟ้าลดาแกล้งตกใจ
“ตายแล้ว เสื้อคุณเพลินตาเปื้อนหมดเลย ถ้าไม่รีบล้างคราบ จะเป็นรอยจนซักไม่ออกนะคะ มาค่ะ ฟ้าช่วย..”
ฟ้าลดาคว้าแก้วน้ำ ลุกเดินไปหาเพลินตา แต่แกล้งสะดุด ทำให้น้ำหกรดใส่หัวเพลินตา
สายชล สหัส พิสมัยตกใจ ฟ้าลดาทำเป็นตกใจมาก
“อุ๊ย!! ขอโทษค่ะ ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ”
เพลินตาสุดทน ลุกขึ้นมากรี๊ด
“อ๊ายยยย!!” พิสมัยเห็นท่าไม่ดีรีบลุกขึ้นยืนตามลูก “แกตั้งใจ แกจงใจแกล้งฉันนังฟ้าลดา”
“ใจเย็นค่ะลูก คนมองกันทั้งร้านแล้ว”
“แล้วไงคะแม่ ตาไม่สน..ดูมันทำกับตาซิ”
เพลินตาคว้าแก้วน้ำ จะสาดใส่แต่ฟ้าลดาหลบ ทำให้น้ำโดนหน้าสายชลเต็มๆ เพลินตารีบวางแก้วบนโต๊ะ แล้วเข้าไปดูสายชล
“พี่ชาร์ล..” เพลินตาเอาผ้าเช็ดปากมาเช็ดหน้าสายชล “ตาขอโทษ ตาไม่ได้ตั้งใจ ถ้านังนั่นไม่หลบตา พี่ชาร์ลก็ไม่โดนหรอก”
สายชลรำคาญ ที่เพลินตาเช็ดหน้าเช็ดตาเขาไม่หยุด
“พอได้แล้วตา!”
เพลินตาหยุด สายชลหันไปจะเล่นงานฟ้าลดา แต่เธอหายไปแล้ว สายชลโมโหที่เสียรู้ฟ้าลดา รีบลุกเดินออกไป เพลินตาเหวอและงง
“พี่ชาร์ลจะไปไหนคะ?? พี่ชาร์ล....”
เพลินตาจะออกไป แต่พนักงานเดินเข้ามา
“พวกคุณยังออกไปไหนไม่ได้นะครับ ถ้าจะออกไปต้องจ่ายค่าอาหาร และชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาก่อน”
เพลินตากรี๊ดใส่หน้าพนักงานที่สะดุ้งโหยง เพลินตาหันไปทางสหัส
“นายสาหัส..จัดการซิ ฉันจะไปตามพี่ชาร์ล”
“ผมจัดการไม่ได้ครับ ผมไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายทั้งหมด”
เพลินตากรี๊ดปิดท้ายด้วยความหัวเสีย พิสมัยต้องจับตัวเพลินตาปลอบให้ใจเย็น
+ + + + + + + + + + + +
ฟ้าลดารีบเดินมาตามทาง แต่เดินไม่ถนัด ถอดรองเท้าส้นสูงแล้วรีบจ้ำฝีเท้าเดินไม่หยุด
ทันใดนั้นสายชลขับรถแล่นมาข้างๆฟ้าลดา
“ฟ้าลดา!!”
ฟ้าลดาหันไปเห็นสายชลก็ตกใจ
“คิดเหรอว่าแผนตื้นๆของคุณจะหนีผมไปได้!!”
“ฉันก็หนีมาได้แล้วนี่ไง”
สายชลฉุน
“ขึ้นรถ!!”
ฟ้าลดาหยุดเดินด้วยความโมโห เอาส้นสูงปาใส่รถสายชล ส้นสูงเข้าไปในรถตกลงเบาะข้างๆคนขับ
สายชลเบรคด้วยความตกใจ
“เฮ้ย!!”
ฟ้าลดาปารองเท้าใส่เข้าไปในรถสายชลอีกข้าง คราวนี้เกือบโดนตัว สายชลฉุนกึก รีบลงจากรถ ฟ้าลดาหันหลังวิ่งหนี สายชลวิ่งตามไปจับตัวไว้
“ปล่อย!!” ฟ้าลดาหันไปผลักสายชล “อย่ามาถูกตัวฉัน”
ฟ้าลดาทั้งผลักทั้งทุบสายชลเต็มแรงจนเซไป
“ฉันเกลียดคุณ ฉันเกลียดคุณ เกลียด เกลียด เกลียด!!!”
สายชลทั้งโมโห ทั้งเสียใจ
“เคยได้ยินมั๊ย เกลียดอะไร ก็จะได้อย่างนั้น ยิ่งคุณเกลียดผมมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งต้องอยู่ด้วยกัน” สายชลเดินมาชี้หน้า...
“นี่แค่เริ่มต้น เตรียมตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกันฟ้าลดา”
สายชลขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร็วด้วยความโกรธ ทิ้งให้ฟ้าลดายืนอึ้งอยู่กับที่ ทรุดลงพื้นหมดสภาพอยู่ตรงนั้น
สายชลขับรถมาตามทาง กำพวงมาลัยด้วยความโมโหเสียใจน้อยใจ
“เกลียดกันมากนักเหรอนางฟ้า เกลียดสายชลมากนักเหรอ??”
สายชลทุบพวงมาลัยไม่หยุด จนทนไม่ไหว เบรกเอี๊ยด!! หอบหายใจถี่ แล้วก็เหลือบไปเห็นรองเท้าส้นสูงที่ฟ้าลดาปาเข้ามาในรถ นึกได้ว่าฟ้าลดาไม่มีรองเท้าใส่ สายชลเริ่มเป็นห่วง
“นางฟ้า...”
สายชลรีบกลับรถกลับไปจอดที่เก่า แล้วถือรองเท้าลงจากรถ หันไปมองรอบๆ ฟ้าลดาไม่อยู่แล้ว สายชลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รู้สึกผิด ไม่น่าทิ้งฟ้าลดาเอาไว้คนเดียว และเริ่มเป็นห่วงว่าฟ้าลดาหายไปไหน
(จบตอนที่ 14)
อ่านตอนที่ 15 วันพรุ่งนี้