การประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) เพื่อพิจารณาโทษปลดออกหรือไล่ออกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงขณะดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่มิชอบในเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ โดยมีนายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในที่ประชุม
ที่ประชุม อ.ก.พ.มีมติเห็นชอบให้ลงโทษวินัยร้ายแรงนายยงยุทธ โดยการ “ปลดออก” กำหนดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2555 เป็นต้นไป ซึ่งครบ 30 วันหลังจาก ป.ป.ช.ส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย
รายงานข่าวแจ้งว่าตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนมาตรา 97 วรรคหนึ่งระบุว่า ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดกระทำผิดวินัยร้ายแรงให้ลงโทษปลดออกหรือไล่ออก ตามความร้ายแรงแห่งกรณี ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อน จะนำมาประกอบพิจารณาลดโทษก็ได้ แต่ห้ามมิให้ลดโทษต่ำกว่าปลดออก ดังนั้นในที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทย จึงมีมติให้ลงโทษปลดออก และในมาตรา 97 วรรคสี่ระบุว่า ผู้ใดถูกลงโทษปลดออกให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญเสมือนว่า ผู้นั้นลาออกจากราชการ
ข่าวบางกระแสว่า นายยงยุทธจะต้องพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บางกระแสบอกอีกว่า การที่ อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยมีมติลงโทษทางวินัยปลดออก จะเข้าลักษณะต้องห้ามของการเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 174 (4) ว่าด้วยคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เพราะเคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการ
ข่าวล่ามาเร็วว่า มติ ป.ป.ช.ล้วนแต่ไม่กระทบกระเทือนต่อตำแหน่งหน้าที่การเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ แต่อย่างใด คนที่ออกมายืนยันในเรื่องนี้คือ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งยืนยันว่าเป็นความเห็นเดิมๆ ของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่วางหลักเกณฑ์นี้ไว้นานแล้วว่า หากจะลงโทษข้าราชการ ต้องลงโทษระหว่างที่บุคคลนั้นรับราชการอยู่ หากพ้นหรือเกษียณอายุราชการแล้วจะลงโทษบุคคลนั้นไม่ได้ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ใช้แนวทางนี้มาโดยตลอด กรณีของนายยงยุทธ หากเป็นไปตามแนวทางนี้ก็อาจจะเข้าข่ายได้รับการล้าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ยังคงเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สบายมาก
มีบางเสียงออกมาคัดค้านว่า กรณีของนายยงยุทธไม่น่าจะเข้าร่าย พ.ร.บ.ล้างมลทินได้ เพราะนายยงยุทธยังไม่เคยรับโทษ และถึงแม้จะเข้าข่ายก็น่าจะพิจารณาตัวเองถึงคุณธรรม จริยธรรม รัฐบาลนี้บอกว่า จะต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชัน จะตอบเรื่องนี้กับประชาชนอย่างไร?
ตอบได้สบายมากครับ โดยเฉพาะรัฐบาลนี้แหละครับ
ถ้าหากมียางอายอยู่บ้าง พวกเขาจะกล้ามาบริหารประเทศชาติบ้านเมืองหรือครับกับความรู้ความสามารถที่ไม่ประสีประสาทางการเมืองของคนเป็นผู้นำรัฐบาล
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่นยิ่งไม่ต้องอาย ไม่ต้องรู้สึกรู้สาตั้งแต่ที่รับงานมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับคำสั่ง ทักษิณ ชินวัตร ยอมรับนางสาวยิ่งลักษณ์ ยอมเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ เดินตามก้นนางสาวยิ่งลักษณ์ต้อยๆ ไม่เกรงลูกเมียญาติพี่น้องจะรู้สึกอับอายขายหน้า นายยงยุทธก็ทำได้และทำมาแล้ว จะเป็นไรไปที่จะอยู่ในตำแหน่งโดยไม่เคอะเขิน ไม่มีต่อมคุณธรรม จริยธรรม
ยังดีนะครับ เขายังหาเหตุยก พ.ร.บ.ล้างมลทินมาอ้าง โดยที่ไม่บอกว่า พวกเขาได้เสียงข้างมาก มีประชาชนเสียงข้างมากเลือกมาตั้ง 15 ล้านเสียง เป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ ป.ป.ช.ที่ลงมติว่าเขาผิดนั่นก็พวกคณะทหารแต่งตั้งไว้ ล้วนเอาคนที่ไม่ชอบทักษิณมาทำหน้าที่ เมื่อนายยงยุทธรับใช้ทักษิณ ป.ป.ช.ก็หาเหตุ ไม่เห็นหรือว่า เรื่องทุจริตต่างๆ ที่เข้าสู่ที่ ป.ป.ช.นั้นมีเป็นพันเป็นหมื่นเรื่อง ทำไมจะต้องจำเพาะมาหยิบเอากรณีของนายยงยุทธมาพิจารณา ทำไมไม่เก็บเอาไว้ก่อน ทีบางเรื่อง ป.ป.ช.ก็ยังเก็บเอาไว้จนหมดอายุได้นี่นา
เจอเข้าอย่างนี้เราก็ต้องงงไปเท่านั้น
เหมือนอย่างที่เขาบอกว่า รายงาน คอป.เชื่อถือไม่ได้ ทั้งที่ตอนที่จะเอาเงิน 7.75 ล้านเยียวยานั้นบอกว่า คอป.นั้นสุดยอด นายคณิต ณ นคร นั้นเป็นนักฎหมายชั้นเยี่ยม เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมา มาวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว นายคณิตรับใช้พรรคประชาธิปัตย์ นายคณิตไม่รู้หรือว่า พวกเขาชุมนุมโดยสงบ สันติ อหิงสา เรียบๆ ร้อยๆ ยิ่งเสียกว่าผ้าพับ ที่บอกว่า เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง เอาขวดมาคนละขวด น้ำมันมาหาเอาข้างหน้า กรุงเทพฯ จะต้องเป็นทะเลเพลิง เกิดอะไรขึ้นให้ไปที่ศาลากลางจังหวัด
หรือที่บอกว่า บัดนี้เรามีแก้ว 3 ประการแล้วพี่น้อง มีพรรคการเมืองคือพรรคเพื่อไทย มีพี่น้องเสื้อแดง นปช.ที่ยืนหยัดต่อสู้ และบัดนี้เรามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยืนอยู่กับเรา นั่นก็พูดไปยังงั้นเอง เพื่อให้ผู้ชุมนุมเกิดความคึกคัก ฮึกเหิม มีกำลังใจ
“ไอ้ที่เผาเวิลด์เทรด เผาศาลากลางจังหวัด นั่นมันคนอื่นทำ ถ้าหากเป็นแดง ก็พวกแดงเทียม แดงจริงๆ เขาไม่ทำหรอก เพราะแดงจริงๆ เป็นคนดีพร้อมสมบูรณ์แบบ”
มันต้องพูดอย่างนี้
ที่ประชุม อ.ก.พ.มีมติเห็นชอบให้ลงโทษวินัยร้ายแรงนายยงยุทธ โดยการ “ปลดออก” กำหนดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2555 เป็นต้นไป ซึ่งครบ 30 วันหลังจาก ป.ป.ช.ส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย
รายงานข่าวแจ้งว่าตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนมาตรา 97 วรรคหนึ่งระบุว่า ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดกระทำผิดวินัยร้ายแรงให้ลงโทษปลดออกหรือไล่ออก ตามความร้ายแรงแห่งกรณี ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อน จะนำมาประกอบพิจารณาลดโทษก็ได้ แต่ห้ามมิให้ลดโทษต่ำกว่าปลดออก ดังนั้นในที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทย จึงมีมติให้ลงโทษปลดออก และในมาตรา 97 วรรคสี่ระบุว่า ผู้ใดถูกลงโทษปลดออกให้มีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญเสมือนว่า ผู้นั้นลาออกจากราชการ
ข่าวบางกระแสว่า นายยงยุทธจะต้องพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บางกระแสบอกอีกว่า การที่ อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทยมีมติลงโทษทางวินัยปลดออก จะเข้าลักษณะต้องห้ามของการเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 174 (4) ว่าด้วยคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เพราะเคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการ
ข่าวล่ามาเร็วว่า มติ ป.ป.ช.ล้วนแต่ไม่กระทบกระเทือนต่อตำแหน่งหน้าที่การเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ แต่อย่างใด คนที่ออกมายืนยันในเรื่องนี้คือ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งยืนยันว่าเป็นความเห็นเดิมๆ ของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่วางหลักเกณฑ์นี้ไว้นานแล้วว่า หากจะลงโทษข้าราชการ ต้องลงโทษระหว่างที่บุคคลนั้นรับราชการอยู่ หากพ้นหรือเกษียณอายุราชการแล้วจะลงโทษบุคคลนั้นไม่ได้ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ใช้แนวทางนี้มาโดยตลอด กรณีของนายยงยุทธ หากเป็นไปตามแนวทางนี้ก็อาจจะเข้าข่ายได้รับการล้าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ยังคงเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สบายมาก
มีบางเสียงออกมาคัดค้านว่า กรณีของนายยงยุทธไม่น่าจะเข้าร่าย พ.ร.บ.ล้างมลทินได้ เพราะนายยงยุทธยังไม่เคยรับโทษ และถึงแม้จะเข้าข่ายก็น่าจะพิจารณาตัวเองถึงคุณธรรม จริยธรรม รัฐบาลนี้บอกว่า จะต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชัน จะตอบเรื่องนี้กับประชาชนอย่างไร?
ตอบได้สบายมากครับ โดยเฉพาะรัฐบาลนี้แหละครับ
ถ้าหากมียางอายอยู่บ้าง พวกเขาจะกล้ามาบริหารประเทศชาติบ้านเมืองหรือครับกับความรู้ความสามารถที่ไม่ประสีประสาทางการเมืองของคนเป็นผู้นำรัฐบาล
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่นยิ่งไม่ต้องอาย ไม่ต้องรู้สึกรู้สาตั้งแต่ที่รับงานมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับคำสั่ง ทักษิณ ชินวัตร ยอมรับนางสาวยิ่งลักษณ์ ยอมเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ เดินตามก้นนางสาวยิ่งลักษณ์ต้อยๆ ไม่เกรงลูกเมียญาติพี่น้องจะรู้สึกอับอายขายหน้า นายยงยุทธก็ทำได้และทำมาแล้ว จะเป็นไรไปที่จะอยู่ในตำแหน่งโดยไม่เคอะเขิน ไม่มีต่อมคุณธรรม จริยธรรม
ยังดีนะครับ เขายังหาเหตุยก พ.ร.บ.ล้างมลทินมาอ้าง โดยที่ไม่บอกว่า พวกเขาได้เสียงข้างมาก มีประชาชนเสียงข้างมากเลือกมาตั้ง 15 ล้านเสียง เป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ ป.ป.ช.ที่ลงมติว่าเขาผิดนั่นก็พวกคณะทหารแต่งตั้งไว้ ล้วนเอาคนที่ไม่ชอบทักษิณมาทำหน้าที่ เมื่อนายยงยุทธรับใช้ทักษิณ ป.ป.ช.ก็หาเหตุ ไม่เห็นหรือว่า เรื่องทุจริตต่างๆ ที่เข้าสู่ที่ ป.ป.ช.นั้นมีเป็นพันเป็นหมื่นเรื่อง ทำไมจะต้องจำเพาะมาหยิบเอากรณีของนายยงยุทธมาพิจารณา ทำไมไม่เก็บเอาไว้ก่อน ทีบางเรื่อง ป.ป.ช.ก็ยังเก็บเอาไว้จนหมดอายุได้นี่นา
เจอเข้าอย่างนี้เราก็ต้องงงไปเท่านั้น
เหมือนอย่างที่เขาบอกว่า รายงาน คอป.เชื่อถือไม่ได้ ทั้งที่ตอนที่จะเอาเงิน 7.75 ล้านเยียวยานั้นบอกว่า คอป.นั้นสุดยอด นายคณิต ณ นคร นั้นเป็นนักฎหมายชั้นเยี่ยม เป็นคนซื่อสัตย์ สุจริต ตรงไปตรงมา มาวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว นายคณิตรับใช้พรรคประชาธิปัตย์ นายคณิตไม่รู้หรือว่า พวกเขาชุมนุมโดยสงบ สันติ อหิงสา เรียบๆ ร้อยๆ ยิ่งเสียกว่าผ้าพับ ที่บอกว่า เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง เอาขวดมาคนละขวด น้ำมันมาหาเอาข้างหน้า กรุงเทพฯ จะต้องเป็นทะเลเพลิง เกิดอะไรขึ้นให้ไปที่ศาลากลางจังหวัด
หรือที่บอกว่า บัดนี้เรามีแก้ว 3 ประการแล้วพี่น้อง มีพรรคการเมืองคือพรรคเพื่อไทย มีพี่น้องเสื้อแดง นปช.ที่ยืนหยัดต่อสู้ และบัดนี้เรามีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายยืนอยู่กับเรา นั่นก็พูดไปยังงั้นเอง เพื่อให้ผู้ชุมนุมเกิดความคึกคัก ฮึกเหิม มีกำลังใจ
“ไอ้ที่เผาเวิลด์เทรด เผาศาลากลางจังหวัด นั่นมันคนอื่นทำ ถ้าหากเป็นแดง ก็พวกแดงเทียม แดงจริงๆ เขาไม่ทำหรอก เพราะแดงจริงๆ เป็นคนดีพร้อมสมบูรณ์แบบ”
มันต้องพูดอย่างนี้
