xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ดัก “ยงยุทธ” ล้างมลทินไร้ผล ชี้ต้องออก นิ่งฟ้องยก ครม.ข้อง อ.ก.พ.เอาใจนาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
มือ กม.ปชป.สวน มท.1 อย่าอ้าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน ชี้ ต้องรับโทษก่อนแถม พ.ร.บ.มีมาก่อนจะเริ่มคดี ซัดต้องออกจากตำแหน่งอย่างเดียว หากดื้อ “ปู” พร้อม ครม.ร่วมรับผิดชอบ เล็งฟ้องทั้งอาญา ปกครอง “องอาจ” จวก อ.ก.พ. ชงเรื่องมั่วหวัง มท.1 หลุด มั่นมีลับลมคมใน ย้อน “ชายจืด” ชี้ “แม้ว” เก่ง แต่ในทางไม่ดี เชื่อคนไทยไม่เอา ไม่ยอมให้กลับเท่ๆ ไล่ไปบอก “บิ๊กบัง” ขอโทษที่รัฐประหารเอง จวกกลายเป็นพวกเดียวกัน

วันนี้ (23 ก.ย.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อ้าง พ.ร.บ.ล้างมลทิน โดยไม่ต้องรับผิดตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่า เรื่อง พ.ร.บ.มลทิน ต้องรับโทษก่อนวันที่ พ.ร.บ.ล้างมลทินประกาศใช้ ซึ่งในขณะนี้ พ.ร.บ.ดังกล่าวประกาศใช้มาหลายปีแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีผลที่จะล้างมลทิน นายยงยุทธได้ สิ่งที่ นายยงยุทธ อ้างจึงไม่เป็นความจริง อีกทั้งมีเงื่อนไขว่าต้องรับผิดมาก่อน และต้องรับโทษก่อนวันที่ พ.ร.บ.ล้างมลทินออก ทั้งนี้ เมื่อยังไม่ได้รับโทษในวันที่ พ.ร.บ.ล้างมลทินประกาศใช้ จึงไม่มีผล ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลพยายามตะแบงว่าได้ล้างมลทินแล้วไม่เป็นความจริง

นายวิรัตน์ กล่าวว่า นายยงยุทธ ต้องออกจากตำแหน่งเพียงอย่างเดียว ส่วนทางพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นให้ศาลใดศาลหนึ่งตีความหรือไม่นั้น เห็นว่า เรื่องนี้หากไม่มีการปลดออกรัฐบาลก็จะต้องร่วมรับผิดชอบทั้งคณะรัฐมนตรี ทั้งในทางอาญา ปกครอง อย่างไรก็ตาม หากในวันอังคารที่ 28 ก.ย.นี้ นายยงยุทธ ยังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็จะถือว่าเป็นความผิดที่นายกรัฐมนตรีร่วมรับผิดชอบด้วย และเป็นความผิดที่มีความสำคัญด้วย

ส่วน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ที่คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) มีมติไล่ออก นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ว่า เหตุใด อ.ก.พ.จึงพิจารณาโทษไล่ออกย้อนหลังไปถึงปี พ.ศ.2545 หรือต้องการให้ นายยงยุทธ นำมาเป็นข้ออ้างเพื่อเข้าหลักเกณฑ์ในการล้างมลทิน ตามมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.2550 หรือไม่ แต่คดีนี้ไม่น่าจะเข้าข่ายล้างมลทินได้ เพราะ นายยงยุทธ ไม่เคยรับโทษทางวินัยเกี่ยวกับคดีที่ดินอัลไพน์มาก่อนเลย และเหตุใดในการประชุม อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทย ในครั้งนี้ นายพระนาย สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายวัลลภ พลิ้มพงษ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นคณะกรรมการ อ.ก.พ.ด้วย จึงไม่ทราบว่า มีการประชุม และไม่มีใครเชิญให้เข้าร่วมประชุม มีอะไรลับลมคมในหรือไม่ เพราะการประชุมจะต้องเป็นในเรื่องของระเบียบข้อบังคับการประชุม ไม่ใช่จะจัดการประชุมตามอำเภอใจ หรือตามคำสั่งใครได้ จึงสงสัยว่า นายยงยุทธ มีการสั่งการอะไรในทางลับหรือไม่

นายองอาจ กล่าวว่า อยากเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมีส่วนกระตุ้นเตือนรัฐมนตรีใน ครม.ให้ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อความสง่างาม เพื่อเป็นการเอาจริงเอาจัง ตามหลักธรรมาภิบาล ที่เคยแถลงไว้ต่อสภาผู้แทนราษฎร นายกฯ จะบอกว่า ไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ หรือจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ทางสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ส่งหนังสือไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี แจ้งถึงเรื่องที่นายกฯได้มอบหมายให้ทางกฤษฎีกาตีความ เรื่องที่ อ.ก.พ.กระทรวงมหาดไทย มีมติไล่ออก นายยงยุทธ ว่า มีผลตามกฎหมายหรือไม่นั้น ดังนั้นนายกฯไม่สามารถปฏิเสธการรับรู้กรณีนี้ได้ เพราะฉะนั้นนายกฯต้องแสดงความสง่างาม ในการเป็นผู้นำคณะรัฐมนตรี ที่จะทำให้รัฐมนตรีได้ทำตามกฎหมาย หรือพยายามใช้ช่องว่างทางกฎหมายละเว้นการปฏิบัติได้


นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คนส่วนหนึ่งไม่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศไทย เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เก่งกว่า ว่า คนไทยล้วนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านเพื่อมารับโทษทัณฑ์ ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่อยากเห็น พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านอย่างเท่ๆ และยกเลิกคดีความทั้งหมด ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถกลับบ้านได้ทันทีในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ก็ได้ การที่บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เก่งกว่าคนอื่นนั้น ก็เก่งกว่าเฉพาะในเรื่องที่ทำไม่ถูกต้อง ทำผิดกฎหมาย มีผลประโยชน์ทับซ้อน และทุจริตเชิงนโยบาย ไม่ได้เก่งในทางที่ดี แต่เก่งในทางที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมมากกว่าหรือไม่ จึงทำให้คนไทยยอมรับไม่ได้

นายองอาจ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ นายสมชาย ได้เรียกร้องให้หัวหน้าที่ก่อรัฐประหารออกมาขอโทษประชาชนนั้น ตนเห็นว่า หัวหน้าคณะรัฐประหารนั้น คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งก็อยู่กับพวกนายสมชายอยู่แล้ว และพวกท่านก็ยังใช้เขาทำงานในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ถือว่าเขาทำงานสุดลิ่มทิ่มประตู นายสมชาย จึงสามารถบอกกับ พล.อ.สนธิ ได้ด้วยตัวเอง
วิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น