00 เชื่อว่าหลายคนที่เห็นภาพตำรวจพกอาวุธปืนเดินตบเท้านับร้อยคนไปข่มขู่ที่พรรคปชป. ตามคำสั่งของ ผบ.ชน. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เมื่อวันที่ 18 ก.ย. คงจะรู้สึกอดสูกับพฤติกรรมอัปยศเหล่านี้ เพราะคาดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ นาทีนี้ไม่ต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว เนื่องจากขาดซึ่งความรู้สึกรับผิดชอบชั่วดีไปสิ้นแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองมีสถานะอย่างไร หรือไม่รู้ว่า ทักษิณ ชินวัตร ถึงจะรวยอย่างไร จะมีสาวกศรัทธามากแค่ไหน แต่เมื่อทำผิดกม. มีหมายจับติดตัว มันก็ไม่ต่างจากโจร อีกทั้งระบบยุติธรรมยังเป็นแบบนี้ ก็ต้องรู้จักแยกแยะและรู้สึกมี “ยางอาย” เสียบ้าง
00 มองในมุมของ คำรณวิทย์ ถือว่าเห็นแก่ตัวสุดๆ เพราะสิ่งที่เขาพูดและทำในเวลานี้เป็นเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แสดงออกเพื่อให้เห็นว่า ตัวเองเป็น “สมุนรับใช้” ทักษิณ ที่ซื่อสัตย์กว่าใครอื่น เพื่อผลทางการเมืองในวันข้างหน้า เพราะคาดการณ์ว่าตัวเองจะต้องลงสู่สนามการเมืองในสังกัดพรรคเพื่อไทย จะได้อาศัยเสียงสนับสนุนจากมวลชนคนเสื้อแดง เหมือนกับที่ได้ประกาศเอาไว้แล้วว่า ต้องการลงสมัครนายกฯอบจ.ปทุมฯ หลังเกษียณฯ ซึ่งก็ไม่แน่หากออกอาการป่วนได้เข้าตานายก็อาจได้รับตำแหน่งสำคัญเป็นบำเหน็จมากกว่านั้นก็ได้ แต่ขณะเดียวกัน “ตัวตน” ที่เห็น เขาก็ไม่ได้เป็นตำรวจของประชาชนทั่วไปแล้ว เป็นเพียงแค่ตำรวจที่ “เลือกข้าง” ดังนั้นจึงไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไปแม้แต่นาทีเดียว ไม่ต้องรอให้ปชป. ได้เป็นรัฐบาลหรอก ลาออกตั้งแต่ตอนนี้เถอะ เพราะหมดราคา !!
00 กลายเป็น“รัฐตำรวจ” เต็มขั้น กับเรื่องโยกย้ายตำแหน่งสำคัญอยู่ในมือของตำรวจแทบทั้งหมด ล่าสุดเราก็ได้ปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ที่มาจากอดีต ผบ.ตร. อดีตเลขาฯสมช. คือ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ราวกับว่าข้าราชการในกระทรวงคมนาคม หาใครที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถไม่ได้ ถึงต้องไปดึงเอาอดีตตำรวจใหญ่มานั่ง อย่างไรก็ดี อีกมุมหนึ่งนี่คือภาพสะท้อนเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ถ้าใครเป็น “เด็กดี” ไม่หือไม่อือกับ นายแม้ว เมื่อครั้งต้องการให้ “หลีกทาง” ให้ “พี่เมีย” คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. แม้จะไร้ศักดิ์ศรี แต่ผลที่ได้มาก็คุ้มเกินคุ้ม.. ทุด !!
00 ส่วนคนที่มานั่งแทนในตำแหน่ง เลขาสมช. คนใหม่คือ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ก็เป็นหลานของอดีตนายเก่า ปรีดา พัฒนถาบุตร ที่ก่อนหน้านี้ ทักษิณ เคยเป็นตำรวจติดตาม เรียกว่าตอบแทนกันถึงขนาด ก็ไม่ว่ากัน ไหนก็ไหนๆ เอากันให้สุดๆไปเลย ไม่ต้องยั้ง สัปดาห์หน้าก็น่าจะเป็นคิวของกระทวงมหาดไทยในระดับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ แต่ระวังหน่อยแล้วกัน อย่าลืมเรื่องที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตที่ดิน “ธรณีสงฆ์” อัลไพน์กับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ มท.1 เพราะเมื่อนับนิ้วคำนวณเวลาก็จวนจะครบ 30 วันที่ ป.ป.ช.ให้เวลาในการ “เอาผิดกับตัวเอง” เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
00 เป็นไปตามความคาดหมายสำหรับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ในที่สุดแล้ว มติของ ส.ว.ไม่เพียงพอสำหรับการถอดพ้นจากตำแหน่ง เพราะต้องใช้เสียงถึง 89 เสียง แต่มติให้ถอดถอนเมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีแค่ 40 เสียงเท่านั้น ทำให้รอดพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนาน 5 ปี ซึ่งเจ้าตัวเคยประกาศอำลาจากวงการ ถือว่าโล่งอกไป
00 เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันครบรอบการรัฐประหารของ คมช.หน่อมแน้ม ที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แทนที่จะใช้โอกาสที่มีต้นทุนแพงลิบลิ่ววางรากฐานปฏิรูปบ้านเมืองเสียใหม่ แต่นี่ก็เป็นการรัฐประหารเพื่อประโยชน์ตัวเอง ทำเพื่อกลัวว่าจะถูกปลดแค่นั้น แถมตัวอดีตผู้นำยังเสียสุนัขประเภท “โง่แล้วอวดฉลาด” สร้างปัญหามาถึงปัจจุบันไม่จบไม่สิ้น !!
00 มองในมุมของ คำรณวิทย์ ถือว่าเห็นแก่ตัวสุดๆ เพราะสิ่งที่เขาพูดและทำในเวลานี้เป็นเพื่อการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว แสดงออกเพื่อให้เห็นว่า ตัวเองเป็น “สมุนรับใช้” ทักษิณ ที่ซื่อสัตย์กว่าใครอื่น เพื่อผลทางการเมืองในวันข้างหน้า เพราะคาดการณ์ว่าตัวเองจะต้องลงสู่สนามการเมืองในสังกัดพรรคเพื่อไทย จะได้อาศัยเสียงสนับสนุนจากมวลชนคนเสื้อแดง เหมือนกับที่ได้ประกาศเอาไว้แล้วว่า ต้องการลงสมัครนายกฯอบจ.ปทุมฯ หลังเกษียณฯ ซึ่งก็ไม่แน่หากออกอาการป่วนได้เข้าตานายก็อาจได้รับตำแหน่งสำคัญเป็นบำเหน็จมากกว่านั้นก็ได้ แต่ขณะเดียวกัน “ตัวตน” ที่เห็น เขาก็ไม่ได้เป็นตำรวจของประชาชนทั่วไปแล้ว เป็นเพียงแค่ตำรวจที่ “เลือกข้าง” ดังนั้นจึงไม่มีความชอบธรรมอีกต่อไปแม้แต่นาทีเดียว ไม่ต้องรอให้ปชป. ได้เป็นรัฐบาลหรอก ลาออกตั้งแต่ตอนนี้เถอะ เพราะหมดราคา !!
00 กลายเป็น“รัฐตำรวจ” เต็มขั้น กับเรื่องโยกย้ายตำแหน่งสำคัญอยู่ในมือของตำรวจแทบทั้งหมด ล่าสุดเราก็ได้ปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ที่มาจากอดีต ผบ.ตร. อดีตเลขาฯสมช. คือ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ราวกับว่าข้าราชการในกระทรวงคมนาคม หาใครที่เหมาะสม มีความรู้ความสามารถไม่ได้ ถึงต้องไปดึงเอาอดีตตำรวจใหญ่มานั่ง อย่างไรก็ดี อีกมุมหนึ่งนี่คือภาพสะท้อนเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ถ้าใครเป็น “เด็กดี” ไม่หือไม่อือกับ นายแม้ว เมื่อครั้งต้องการให้ “หลีกทาง” ให้ “พี่เมีย” คือ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. แม้จะไร้ศักดิ์ศรี แต่ผลที่ได้มาก็คุ้มเกินคุ้ม.. ทุด !!
00 ส่วนคนที่มานั่งแทนในตำแหน่ง เลขาสมช. คนใหม่คือ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ก็เป็นหลานของอดีตนายเก่า ปรีดา พัฒนถาบุตร ที่ก่อนหน้านี้ ทักษิณ เคยเป็นตำรวจติดตาม เรียกว่าตอบแทนกันถึงขนาด ก็ไม่ว่ากัน ไหนก็ไหนๆ เอากันให้สุดๆไปเลย ไม่ต้องยั้ง สัปดาห์หน้าก็น่าจะเป็นคิวของกระทวงมหาดไทยในระดับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ แต่ระวังหน่อยแล้วกัน อย่าลืมเรื่องที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตที่ดิน “ธรณีสงฆ์” อัลไพน์กับ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ มท.1 เพราะเมื่อนับนิ้วคำนวณเวลาก็จวนจะครบ 30 วันที่ ป.ป.ช.ให้เวลาในการ “เอาผิดกับตัวเอง” เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
00 เป็นไปตามความคาดหมายสำหรับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ในที่สุดแล้ว มติของ ส.ว.ไม่เพียงพอสำหรับการถอดพ้นจากตำแหน่ง เพราะต้องใช้เสียงถึง 89 เสียง แต่มติให้ถอดถอนเมื่อวันที่ 18 ก.ย. มีแค่ 40 เสียงเท่านั้น ทำให้รอดพ้นจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนาน 5 ปี ซึ่งเจ้าตัวเคยประกาศอำลาจากวงการ ถือว่าโล่งอกไป
00 เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันครบรอบการรัฐประหารของ คมช.หน่อมแน้ม ที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน แทนที่จะใช้โอกาสที่มีต้นทุนแพงลิบลิ่ววางรากฐานปฏิรูปบ้านเมืองเสียใหม่ แต่นี่ก็เป็นการรัฐประหารเพื่อประโยชน์ตัวเอง ทำเพื่อกลัวว่าจะถูกปลดแค่นั้น แถมตัวอดีตผู้นำยังเสียสุนัขประเภท “โง่แล้วอวดฉลาด” สร้างปัญหามาถึงปัจจุบันไม่จบไม่สิ้น !!
