สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
แม้ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่มนุษย์ทั้งชั่วและดีนั่นแหละ คือ ผู้บิดเบือน-ปกปิด-ทำลายความจริงบนโลกใบนี้!
คนดี-บิดเบือน-ปกปิด-ทำลายความจริงเพื่อส่วนรวม เช่น บางครั้งหมอจำเป็นต้องใช้วิธี“White Lie” หากคนป่วยด้วยโรคมะเร็งยังอ่อนแอทั้งกายใจ จึงต้องปกปิดความจริงไว้ชั่วครั้งชั่วคราว เพื่อให้คนป่วยมีเวลาสั่งสมกายใจ ให้แกร่งพอจะสู้กับโรคร้ายได้เสียก่อน
คนชั่ว-บิดเบือน-ปกปิด-ทำลายความจริงเพื่อตนและพวกพ้อง ที่ได้กระทำผิดต่อส่วนรวม หรือชาติบ้านเมือง ดังที่ทักษิณกับแกนนำเสื้อแดงทำกันอยู่ในขณะนี้
ทักษิณเป็นนายกฯที่โกงชาติจนศาลฯตัดสินให้ถูกจำคุก 2 ปี และโดนหมายจับอีกหลายคดี ส่วนแกนนำเสื้อแดงทั้งหลายก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน นั่นคือ มีคดีติดตัวทั้งเผาเมือง-ก่อการร้าย จนทำให้ทหารและประชาชนต้องบาดเจ็บล้มตายมากมาย
ยิ่งวันนี้ทักษิณได้ตั้งรัฐบาลนอมีนีที่เป็นน้องสาวของตน ได้ตั้งแกนนำแดงที่มีคดีความดังกล่าวบางคน ให้เป็นรัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง ความจริงของเหตุการณ์เผาเมืองและก่อการร้าย ในปี 2552-2553 ยิ่งถูกรัฐบาลของนักโทษหนีคุก ใช้เล่ห์ร้ายบิดเบือน-ปกปิด-ทำลายความจริง จนเรื่องขาวกลายเป็นดำ เรื่องผิดกลายเป็นถูก จากคนร้ายกลายเป็นคนดี ฯลฯ
โดยเฉพาะจากการเป็นฆาตกรกลายเป็นวีรบุรุษ และจากวีรบุรุษกลายเป็นฆาตกรแบบหน้าด้านๆ!
นับเป็นการกระทำที่ชั่วช้า เพราะได้ทำให้กระบวนการยุติธรรมของชาติ กลับกลายเป็นกระบวนการอยุติธรรมของชาติไปเสียฉิบ!!
โดยใช้คนบางคนในกลไกรัฐบางหน่วย ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม และหลงในลาภยศเงินทองทำการชั่ว เพื่อสนองตัณหาผิดๆของนักโทษหนีคุกเพียงคนเดียวเท่านั้น
เพราะก่อนหน้านี้..นักโทษหนีคุกและนักการเมืองชั่วบางคนรวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงได้โกหกผ่านสื่ออยู่ตลอดเวลาว่า คนเสื้อแดงชุมนุมกันอย่างสันติด้วยสองมือเปล่า แต่ถูกรัฐบาลอภิสิทธิ์-สุเทพ-ทหาร ใช้อาวุธสงครามมาเข่นฆ่าประชาชนจนตายไปถึง 92 คน
เมื่อถูกถามย้อนกลับไปว่า ในการชุมนุมครั้งแรกปี 2552 ของคนเสื้อแดง โดยไม่มีอาวุธสงครามเข้าไปเกี่ยวข้อง และทหารจำต้องสลายการชุมนุมตามคำสั่งรัฐบาลจนสำเร็จ โดยทุกฝ่ายไม่มีใครเสียชีวิตสักคนใช่ใหม?
แต่การชุมนุมครั้งที่สองในปี 2553 ของคนเสื้อแดง นักข่าวหลายคนบันทึกภาพและเสียงให้เห็นและได้ยินกันแบบจะๆว่า มีคนเสื้อดำหลายคนในที่ชุมนุมของคนเสื้อแดง ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยใช้อาวุธสงคราม เปิดฉากยิงทหารที่รัฐบาลสั่งให้ถือแค่โล่กับกระบองติดตัวเท่านั้น ผลคือ ทหารตายและบาดเจ็บกว่า 300 คนทันที!
แม้นักโทษหนีคุกกับรัฐบาลหุ่นเชิด รวมทั้งรองนายกฯ ก๊าบๆ-ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย-แกนนำเสื้อแดงทั้งหลาย จะคิดแบบโง่ๆว่า“ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดมิดได้” จึงดาหน้าปฏิเสธฯกันอย่างหน้าด้านๆ ว่า ไม่เคยเห็นคนเสื้อดำบ้างล่ะ ไม่เคยมีคนเสื้อดำบ้างล่ะ
ทว่า..คำพูดที่โกหกหักล้างความจริง ที่คนไทยและคนทั้งโลกได้รู้ได้เห็นไม่ได้!
แกนนำแดงเหวงๆ จึงปลิ้นปล้อนหน้าตาเฉยว่า เสธ.แดงไม่ได้ข้องเกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงแม้แต่น้อย!
การพูดแบบเหวงๆ นี้ ทำให้อดีตมนุษย์ที่เคยเป็น“ผี-โม่แป้ง” แต่ได้ตายกลายเป็นผีจริงๆไปแล้ว แต่วิญญาณอยู่ขุมใดในปรโลกไม่อาจรู้ได้ แต่ที่แน่ๆ “ผีเสธ.แดง”คงหัวเราะไม่ออก-ร้องไห้ก็ไม่ได้ เพราะก่อนตาย เสธ.แดงเองนั่นแหละ เป็นคนประกาศให้ผู้คนรู้ว่า
เสธ.แดงนั้นเป็น“ผี-โม่แป้ง”ฝึกอาวุธ ให้กับกองกำลังนปก.ฮาร์ดคอร์ที่สนามหลวง และอีกหลายจังหวัด แถม เสธ.แดงยังเดินทางไปพบกับทักษิณที่ดูไบ ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ฝ่ายล้มอำมาตย์มีแก้ว 3 ประการแล้ว นั่นคือ พรรค มวลชน กอง(ทัพ)กำลังติดอาวุธ!
เสธ.แดงกับนปก.คือเนื้อเดียวกัน แถม เสธ.แดงยังเป็นขวัญใจคนเสื้อแดง มากกว่าแกนนำเหวงๆด้วยซ้ำ แค่คลิกไปดูคลิป เสธ.แดงขึ้นปราศรัย กับคนเสื้อแดงในหลายเวทีก็ตาสว่างแล้ว..จริงไหม?
ดังนั้น แกนนำแดงเหวงๆ จึงจงใจจะโกหก เพื่อปัดความรับผิดชอบเรื่อง เสธ.แดง ที่ประกาศจะใช้ความรุนแรงล้มอำมาตย์ และยังแสร้งหูหนวกตาบอดทำเป็นไม่รู้ว่า คนชุดดำเป็นผู้ใช้อาวุธสงครามเปิดฉากยิงทหารก่อน!
แต่ว่าไปแล้วทักษิณที่เป็นหัวโจกคนชั่ว ซึ่งเป็นทั้งรัฐบาลและพวกนักการเมืองชั่ว ที่ใช้เงินซื้อเสียงจนชนะการเลือกตั้ง รวมทั้งแกนนำคนเสื้อแดงที่สู้แล้วรวย ล้วนเป็นพวกที่ได้กระทำเรื่องชั่วช้ามหันต์ กับประชาชนและชาติไทยมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่แปลกที่คนเหล่านี้จะมีสันดานแบบเดียวกัน นั่นคือ ชอบบิดเบือน-ปกปิด-ทำลายความจริง เป็นมหาโจรการเมืองที่ชอบโกหกว่า-ดำนั้นเป็นขาว-ขาวนั้นเป็นดำ ผิดนั้นเป็นถูก-ถูกนั้นเป็นผิด ชั่วนั้นเป็นดี-ดีนั้นเป็นชั่ว มหาโจรนั้นเป็นนักบุญ-นักบุญนั้นเป็นมหาโจร สุดท้าย-ฆาตกรนั้นเป็นวีรบุรุษ-วีรบุรุษนั้นเป็นมหาโจร ฯลฯ
วันนี้..ความจริงส่วนหนึ่งได้ถูกไข ณ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน รัชดาฯ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2555 โดยคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่แถลงข่าวสรุปเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ในช่วงเดือนมีค.-พ.ค.2553 ผ่านรายงาน คอป.ฉบับสมบูรณ์ พร้อมภาคผนวกที่หนากว่า 300 หน้า
โดยนายสมชาย หอมละออ ระบุว่า คอป.ได้ตรวจสอบเหตุการณ์รุนแรงถึง 10 กรณี นับแต่เหตุการณ์สถานีวิทยุดาวเทียมไทยคมเหตุการณ์ที่สี่แยกคอกวัว และที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เหตุการณ์ที่วัดปทุมวนาราม การเผาเซ็นทรัลเวิลด์และอาคารต่างๆในต่างจังหวัด
นอกจากนี้ยังศึกษาภาพรวมเหตุการณ์-ภูมิหลัง นับแต่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากองค์การระหว่างประเทศ เช่น ยูเอ็นดีพี.และไอซีทีเจ. ในการฝึกอบรมอนุกรรมการและเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์และการตรวจสอบเหตุการณ์ โดยการสนับสนุนจากสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญไทยอีกหลายคน เพื่อให้ได้ความจริงที่ใกล้เคียงมากที่สุด
นายสมชายกล่าวตอนหนึ่งว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 มีผู้เสียชีวิต 92 ราย เป็นทหาร 8 นาย ตำรวจ 2 นาย พลเรือน 82 ราย
เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดการสูญเสียมากที่สุด คือ สี่แยกคอกวัวและถนนดินสอ เมื่อวันที่ 10 เม.ย 2553 มีผู้เสียชีวิต 26 ราย เป็นพลเรือน 21 ราย รวมทั้งนายมูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น ทหาร 5 นาย รวมทั้ง พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และบาดเจ็บกันอีกกว่า 864 คน ซึ่งเป็นทหารกว่า 300 นาย
ประเด็นสำคัญ คือ คอป.พบว่า ปฏิบัติการของคนชุดดำนั้น ได้รับการสนับสนุนจากการ์ด นปช.บางคน แถมพบว่า..คนชุดดำบางคนเป็นผู้ใกล้ชิดกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล โดย เสธ.แดงได้ปรากฏตัวที่หน้าโรงเรียนสตรีวิทยาก่อนเกิดเหตุการณ์ และหลังเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น เสธ.แดงก็ได้ปรากฏตัวที่นั่นอีกครั้งด้วย..
รายละเอียดในรายงานของ คอป.ยังมีอีกพะเรอ ที่ยกมาให้อ่านเป็นความจริงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น
ลงท้าย คอป.ได้เรียกร้องให้ทักษิณเสียสละ วางมือจากการเมืองหรือหยุดทำลายชาติอย่างถาวร เพื่อจะได้เป็นวีรบุรุษของชนชาวไทยนั้น
เฮ้อ..ชาตินี้-ชาติหน้า-ชาติไหนๆ “งาช้างไม่มีวันงอกออกมาจากปากสุนัข”อย่างแน่นอนชาติจะสงบเมื่อทักษิณตายเท่านั้น..จริงไหม?
หรือคณิตกับ คอป.คิดว่า..เป็นไปได้ที่“งาช้างจะงอกออกมาจากปากสุนัข”???