xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มกรีนชงผู้ตรวจฯ ฟัน “โต้ง” ไวต์ลาย ส่อไม่ซื่อสัตย์ จี้ลาออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ยื่นหนังสือผู้ตรวจการแผ่นดินสอบจริยธรรม “กิตติรัตน์” บิดเบือนข้อมูลส่งออก ส่อไม่ซื่อสัตย์ จี้เจ้าตัวลาออก สงสัยต้องใช้เครื่องจับเท็จเวลาให้สัมภาษณ์ ด้านรองเลขาฯ เผยจ่อนำเข้าที่ประชุม 5 ก.ย. เล็งชง ครม.-ส.ส.-ส.ว.ตีความคำว่า “ล่วงเลยไปพอสมควร” หมายถึงกี่วัน

วันนี้ (29 ส.ค.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน พร้อมคณะ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กรณีให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าบิดเบือนข้อมูลตัวเลขเป้าหมายการส่งออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน โดยเห็นว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่รับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ที่ตนรับผิดชอบ ขัดจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง

“ทางกลุ่มฯ ขอเรียกร้องให้นายกิตติรัตน์แสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เพราะในกรณีนี้ถือว่านายกิตติรัตน์ทำให้ประชาชนเสียหายยิ่งกว่าเมื่อครั้งที่กิตติรัตน์ลาออกจากการเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีไม่สามารถผลักดันเบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ เวลานี้สื่อต่างประเทศตีข่าวไปทั่วโลกส่งผลเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิ ความภาคภูมิของประเทศไทย ซึ่งหากนายกิตติรัตน์ยังทำหน้าที่ต่อไป ก็ไม่รู้ว่าคำพูดในเรื่องการบริหารบ้านเมืองจะได้รับความเชื่อถือยอมรับแค่ไหน จะถึงขั้นต้องเอาเครื่องจับเท็จไปคอยจับเวลานายกิตติรัตน์พูดหรือไม่” นายจาตุรันต์กล่าว

นายจาตุรันต์กล่าวว่า ดังนั้นจึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเร่งดำเนินการตามตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 279 วรรคสาม เพื่อดำเนินการถอดถอนนายกิตติรัตน์สร้างบรรทัดฐานทางการเมืองและทำให้การเมืองสะอาด มีมาตรฐานทางจริยธรรมและคุณธรรมเป็นไปตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2551 เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและศรัทธาของนักลงทุกปละประชาชนกลับคืนมา หากไม่ดำเนินการจะส่งผลให้นักลงทุนในต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อรัฐบาลไทย และจะนำไปสู่ความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจไทยทั้งระบบในอนาคต จึงเป็นเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการฯที่ต้องดำเนินการกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางกลุ่มกรีนยังได้สอบถามความคืบหน้ากรณีนายกฯ นิ่งเฉยไม่ดำเนินปรับปรุงการแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็น รมช.เกษตรฯ ตามที่ผู้ตรวจการฯ เสนอหนังสือไปว่า ขณะนี้ทางผู้ตรวจฯ ได้มีการทำรายงานเสนอต่อรัฐสภาแล้วหรือยัง

ด้าน นายสงัดกล่าวว่า เรื่องที่มีการร้องเรียนนายกิตติรัตน์ ทางสำนักงานจะเสนอต่อประชุมผู้ตรวจฯ พิจารณาในวันที่ 5 ก.ย. หากรับไว้พิจารณาก็จะมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายกิตติรัตน์ให้ชี้แจง ส่วนในเรื่องการแต่งตั้งนายณัฐวุฒินั้น ที่ประชุมผู้ตรวจฯกำลังพิจารณาตามมาตรา 33 วรรค 2 ของ พ.ร.บ.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ระบุว่า ในกรณีที่ผู้ตรวจมีข้อเสนอแนะแล้วและระยะเวลาได้ล่วงเลยไปพอสมควร หน่วยงานดังกล่าวยังไม่ปฏิบัติตามความเห็นหรือข้อเสนอแนะนั้นโดยไม่มีเหตุอันควร และเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะให้ผู้ตรวจฯทำรายงานเรื่องนั้นเสนอต่อ ครม. ส.ส. และวุฒิสภาเป็นการเร่งด่วนว่า คำว่า “ล่วงเลยไปพอสมควร” หมายความแค่ไหน อย่างไร และนายกฯ ได้มีการดำเนินการในเรื่องนี้ไปอย่างไรแล้ว โดยที่ประชุมได้หยิบยกกรณีที่นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม.ถูกร้องในเรื่องนี้และผู้ตรวจฯมีความเห็นไปว่าสำนักเลขาธิการ ครม.ควรมีการปรับแบบฟอร์มการตรวจสอบประวัติผู้ที่จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยคำนึงถึงจริยธรรมการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 279 ด้วย นายอำพนจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นพิจารณาและเห็นว่ากรณีจริยธรรมตามมาตรา 279 ไม่น่าจะอยู่ในหน้าที่ของเลขาฯ ครม. พร้อมกับหารือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งที่ประชุมผู้ตรวจฯก็อยากจะทราบความเห็นของกฤษฎีกาในเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะพิจารณาเรื่องการทำงานรายงานเสนอรัฐสภาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น