“คำนูณ” ระบุ “กิตติรัตน์” โกหก ขัดต่อประมวลจริยธรรมฯ ชี้ “ผู้ตรวจการแผ่นดิน” มีหน้าที่จัดการได้ พร้อมชี้ไม่หวังถึงขั้นลาออก แต่ต้องขอโทษประชาชนและรับปากจะไม่ทำอีก ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะหมดความน่าเชื่อถือไปตลอด
วันที่ 27 ส.ค. ส.ว.สรรหา ประกอบด้วย พล.อ.อ.วีรวิทย์ คงศักดิ์ และนายคำนูณ สิทธิสมาน ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ถึงประเด็น “โกหกเพื่อชาติ?” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดยนายคำนูณกล่าวว่า การโกหกของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ถ้าเราปล่อยเรื่องนี้ผ่านเลยไป มันจะกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทยไปหรือไม่ ว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจสามารถโกหกได้
ดูจากตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่มีตรงสักทีเดียวเกี่ยวกับเรื่องโกหก แต่มีเรื่องที่ต้องให้ข้อมูลข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้องต่อประชาชน คือ ในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง 2551 ข้อ 6 (2) ยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม (7) ให้ข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนอย่างถูกต้องครบถ้วน และไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง
ข้อ 10 ข้าราชการการเมืองต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม ทั้งโดยส่วนตัว และโดยหน้าที่ต่อสาธารณชน ทั้งต้องวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชน
ข้อ 25 ข้าราชการการเมืองต้องไม่ใช้หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของราชการเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง
โดยผู้ที่มีหน้าที่ตรวสอบ คือผู้ตรวจการแผ่นดิน ตนจึงอยากเห็นประชาชนไปร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบเรื่องนี้ หรือผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องมีคนไปร้องด้วยซ้ำไป จะได้มีบรรทัดฐานขึ้นมา
นายคำนูณกล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่นายกิตติรัตน์บอกว่ามีคนอนุญาตให้โกหกได้ คนนั้นคือใคร ใครมีสิทธิไปอนุญาตท่าน คนธรรมดาทั่วไปควรมีคุณธรรมจริยธรรม รักษาศีล 5 เป็นอย่างต่ำ ถ้าต่ำกว่าศีล 5 ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานคนทั่วไป แล้วคนที่อาสามาทำงานให้ประเทศชาติ กินเงินภาษีอากรของประชาชน ไม่ว่าทฤษฎีตะวันตกหรือตะวันออก คนๆนั้นต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมสูงกว่าปุถุชนคนทั่วไป แล้วคนที่เป็นรองนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพูดไม่จริงมันเป็นเรื่องใหญ่ ในทางสากลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก อย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าสาเหตุที่กรีซล้มละลายก็เพราะการปกปิดข้อมูลที่แท้จริง คำถามที่เกิดขึ้นจากนี้ไป คือ ตัวเลขต่างๆที่รัฐบาลแถลงออกมาอะไรจริง อะไรโกหก เป็นประเด็นใหญ่แน่
นายคำนูณกล่าวด้วยว่า นายกิตติรัตน์ไม่ลาออกไม่เป็นไร เพราะนักการเมืองไทยลาออกเป็นเรื่องยาก แต่ต้องขอโทษประชาชน แล้วต้องรับปากประชาชนว่าต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ไม่เช่นนั้นจะหมดความน่าเชื่อถือไปตลอด
ด้าน พล.อ.อ.วีรวิทย์กล่าวว่า สังคมโลกกำลังเปลี่ยนไป มีการรณรงค์ให้รักษาธรรมาภิบาล ไม่โกง ไม่โกหก ไม่ขโมย แต่สังคมไทยกำลังเปลี่ยนมาสู่การโกงก็ได้ โกหกเล็กน้อยก็ได้ ต่อไปคงขโมยก็ได้ แล้วเราจะไปอยู่กับใครได้ ใครจะรับมาตรฐานเราได้ เพราะทำตัวให้ต่ำลง ถ้าเป็นต่างประเทศ คงพูดขอโทษประชาชน แล้วลาออก แต่นี่ออกมาบอกว่ามีคนอนุญาตให้โกหก ยิ่งแล้วไปใหญ่เลย