ASTVผู้จัดการรายวัน “เมเจอร์ฯ”ซุ่มแผนใหญ่ตะลุยอาเซียนหลังเปิดเออี ซี ชี้ต้นทุนต่ำลง รุกหนักทั้งโรงหนังและโบว์ลิ่ง ชูโมเดลการเทคโอเวอร์หรือควบ กิจการถือหุ้นใหญ่ ปีหน้าทุ่มกว่าพันล้านบาทผุดโรงหนังในไทยให้ครบ 500 โรง และโบว์ลิ่งให้ครบ 500 เลน พร้อมปิดทางแคลิฟอร์เนียว้าวฟิตเนสปรับพื้นที่ใหม่
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนในปี 2558 หรืออีก 3 ปีจากนี้จะส่งผลดีต่อการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะในต่างประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน เนื่องจากอัตรา ภาษีที่จะต่ำลง ทำให้เข้าไปลงทุนในต่างประเทศได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันนี้เมเจอร์ฯก็ถือได้ว่าเป็นผู้นำในธุรกิจ โรงหนังของภูมิภาคอาเซียนอยู่แล้วเพราะว่ามีจำนวนโรงหนังมากที่สุด
ทั้งนี้บริษัทฯก็มีแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศในภูมิภาคเอเซียนี้แล้วทั้งด้านโรงหนังและโบว์ลิ่งซึ่งรูปแบบที่เมเจอร์ฯจะเข้าไปลงทุนนั้นจะเน้นรูปแบบของการควบรวมกิจการโดยเมเจอร์ฯจะต้องถือหุ้นในสัดส่วนมากกว่า 51% ขึ้นไป โดยคาดว่า ภายในเดือน ตุลาคมนี้ บริษัทฯจะเปิดตัวแผนลงทุนใหม่ในเอเชียได้ส่วนตลาดที่ประเทศอินเดียมีแผนจะลงทุนเปิดโบว์รลิ่งเพิ่มอีก 70 เลน จากปัจจุบันที่มีจำนวน 130 เลน
ขณที่การรองรับการแข่งขันในประเทศนั้น ในปีหน้าบริษัทฯมีแผน ที่จะลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 3 ปีเช่นกัน โดยเตรียมงบประมาณไว้ มากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายโรงหนังใหม่ให้ครบ 500 โรง ซึ่งจะเน้นต่างจังหวัดทำเลที่เป็นหลักคือ ในศูนย์การค้า จากปัจจุบันที่เมเจอร์ฯทั้งกลุ่มมีโรงหนังเปิดบริการแล้วในทุกแบรนด์รวมกันประมาณ 402 โรง รวมทั้งมีแผนขยายธุรกิจโบว์ลิ่งในไทย ที่จะเปิดใหม่จำนวน 40 เลน จากปีนี้ที่มีจำนวน 460 เลน เนื่องมีพื้นที่เหมาะสมที่จะขยายสาขาใหม่
ล่าสุดไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯได้จับมือกับ สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ เปิดตัวโรงภาพยนตร์ หรูชื่อว่า “บางกอก แอร์เวยส์ บลูริบบอน สกรีน”
ส่วนกรณีของ บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว จำกัด (มหาชน) ที่ได้ปิดสาขาของ แคลิฟอร์เนีย ว้าว ในสาขาของ เมเจอร์ ทุกแห่ง จากกรณีที่ แคลิฟอร์เนีย ว้าว ถูกฟ้องร้องล้มละลายนั้น ขั้นตอนอยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล เมื่อพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทฯจะนำพื้นที่กลับคืน มาบริหารงานเองทั้งหมด โดยบริษัทฯจะไม่เปิดให้เช่าพื้นที่ทำเป็นฟิตเนสอีกแล้ว โดยบริษัทฯมีแผนที่จะปรับรูปแบบการเช่าโดยเปิด ให้ร้านค้าปลีกมาเช่าพื้นที่แทน
สำหรับรายได้รวมของบริษัทฯสิ้นปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 10-15% จากปีก่อน ที่มีรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% ในทุกปี