เมเจอร์ฯ ทุ่ม 100 ล้านบาทประเดิมลุย 2 ประเทศในอาเซียน พร้อมเปิดให้บริการในอีก 2 ปี ขณะที่ในไทยปีหน้าผุดอีกร่วม 100 โรงด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เชื่อตลาดโรงภาพยนตร์ไทยยังขยายตัวได้อีกมาก ล่าสุดช่วงโค้งส่งท้ายปีมีหนังทำเงินตบเท้าเข้าฉายเพียบ
นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 เมเจอร์ฯ ในฐานะผู้นำตลาดโรงหนังในไทยก็มีความพร้อมในการขยายฐานตลาดต่างประเทศรับเออีซีเช่นกัน ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเราพร้อมรับมือได้อย่างแน่นอนหากมีต่างชาติขยายธุรกิจเข้ามา เนื่องจากมีการป้องกันการแข่งขันไว้บ้างแล้ว รวมถึงมีการทาบทามให้มีการร่วมทุนในหลายๆ ประเทศในอาเซียนด้วย ถึงแม้ว่าคู่แข่งที่สำคัญหลังเปิดเออีซีจะมีทั้งคู่แข่งในประเทศ และต่างประเทศ
ล่าสุดในช่วงไตรมาสสี่นี้บริษัทจะมีการเปิดตัวด้านการลงทุน โดยร่วมกับบริษัทโลคัลในประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศที่มีศักยภาพในการเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ ภายใต้แบรนด์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ แห่งละไม่ต่ำกว่า 7-10 โรง เฉลี่ยต่อโรงลงทุนราว 10-15 ล้านบาท รวมแล้วการเริ่มลงทุนในประเทศอาเซียนครั้งนี้จะใช้งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2557 ซึ่งการลงทุนครั้งนี้มองถึงโอกาสของภาพยนตร์ไทยที่จะเข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ สำหรับไทยถือเป็นประเทศที่มีจำนวนโรงภาพยนตร์มากสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนราว 700-800 โรง แต่ในแง่จำนวนรายได้จากตั๋วหนังอาจจะยังเทียบไม่ได้กับสิงคโปร์ ที่แม้จะมีจำนวนโรงภาพยนตร์เพียง 200 โรง แต่มูลค่ารายได้จากตั๋วหนังสูงกว่าไทยสองเท่าตัว ทั้งนี้ มองว่าไทยยังสามารถขยายจำนวนโรงภาพยนตร์ได้อีกมาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศที่มีกว่า 60-62 ล้านคนในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางเมเจอร์ฯ ได้เข้าไปลงทุนในต่างประเทศแล้ว คือ อินเดีย ปัจจุบันเปิดให้บริการกว่า 175 โรง ปีหน้าจะเปิดให้ครบ 300 โรง ซึ่งบริษัทจะเน้นการลงทุนในส่วนของลานโบว์ลิ่งเป็นหลัก โดยในปีหน้าจะเพิ่มงบลงทุนอีกราว 80 ล้านบาท สำหรับขยายลานโบว์ลิ่งจาก 76 เลนเป็น 200 เลนต่อไป
นายวิชากล่าวต่อว่า ปัจจุบันเมเจอร์ฯ ในไทยเปิดให้บริการครอบคลุมเพียง 23 จังหวัดเท่านั้น คิดเป็นจำนวนโรงภาพยนตร์ได้กว่า 406 โรง หรือมีส่วนแบ่งในตลาดราว 75% โดยแผนการขยายสาขาในปีหน้าราว 12 สาขาในต่างจังหวัดเป็นหลัก รวมคาดว่าจะเปิดอีกไม่ต่ำกว่า 100 โรง หรือภายในสิ้นปี 2556 จะเปิดให้บริการที่ 500 โรง ภายใต้งบลงทุนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมรายได้ในสิ้นปีนี้มองว่าจะเติบโต 10% จาก 6,000 กว่าล้านบาทที่ทำได้ในปีก่อน
