ASTVผู้จัดการรายวัน - พลซุ่มยิง 2 นายเข้าให้ปากคำต่อดีเอสไอ ยืนยันมีการลั่นไกยิงผู้ชุมนุม แต่ใช้กระสุนยาง ด้านปชป. จี้ “ธาริต” แจงรางวัลนำจับชายชุดดำ 10 ล้านบาท "เหวง"กล้าพูด ชายชุดดำไม่มีจริง ด้านเสื้อแดงบุกกสม.ขอความจริง
วานนี้ (29 ส.ค. 55) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วลา 10.00 น. พ.ท.บุศริน ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ นำ ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ และส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด ทหารสังกัด ม.พัน 5 เจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในฐานะพลทหารซุ่มยิง ที่ปฎิบัติหน้าที่ในช่วงระหว่างเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 มาชี้แจงในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ระบุว่า พนักงานสอบสวนจะสอบถามในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายทหารทั้ง 2 พร้อมนำภาพเหตุการณ์ในช่วงดังกล่าวมาเปิด ประกอบการสอบถามด้วย
เวลาประมาณ 13.00 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดง นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ น.ส.กมลเกด อัคฮาด อาสาพยาบาลที่เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม เดินทางเขามอบช่อดอกไม้สีขาวเพื่อให้กำลังใจพ.ต.อ.ประเวศน์ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำพลแม่นปืน 2 นาย
หลังการให้ปากคำผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมง พ.ต.อ.ประเวศน์ เปิดเผยว่า การเข้าชี้แจงของ ส.อ.ศฤงคาร และส.อ.คชารัตน์ เน้น สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้อาวุธตามภาพที่ปรากฎ โดยอาวุธที่ใช้เป็นปืนเอ็ม 16 ไม่ใช่สไนเปอร์อย่างที่เข้าใจ ส่วนลำกล้องเป็นลำกล้องของปืนบีบีกันที่นำมาติดภายหลัง"ทหารทั้ง 2 นาย ให้การยอมรับว่า การปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 15 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. เป็นการปฏิบัติหน้าที่บริเวณบ่อนไก่ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับหน่วย พร้อมแจ้งเตือน และในวันนั้นได้มีการลั้นไกปืนยิงขู่กลุ่มผู้ชุมนุม โดยกระสุนที่ใช้เป็นกระสุนยาง
** “บิ๊กตู่” ไฟเขียวพลเฝ้าระวังให้ปากคำ
เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าว ตนก็อนุญาตให้พลเฝ้าระวังไปให้ปากคำตามคำเชิญ หากจะเชิญใครตนก็อนุญาตให้ไป โดยวันนี้ยังไม่มีการเชิญตนไปซึ่งตอนนั้นมีตำแหน่งแค่ที่ปรึกษาของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)เท่านั้น ซึ่งพยานสามารถไปให้ข้อมูลเองหรือให้ตัวแทนไปก็ได้เพราะตนไม่ใช่ผู้ต้องหา/
**เหลิมโต้ “สุเทพ” พลิกสำนวนไม่ได้
อีกด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เกรงว่ารูปคดีการสลายการชุมนุม 91 ศพ จะพลิก และไม่ไว้ใจคนในดีเอสไอ ว่า รูปคดีเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ข้อเท็จจริงข้อกฎหมายเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น กระบวนการยุติธรรมและหลักกฎหมายใครก็ไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้อย่าไปห่วงเลย
** "เหวง"โต้"ปชป.ชายชุดดำไม่มีจริง
นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นำภาพชายชุดดำเมื่อปี 2553 มาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ทำงานอย่างสร้างสรรค์ อย่าทำงานแบบน้ำเน่า เพราะภาพชายชุดดำที่นายชวนนท์นำมาโชว์นั้นไม่ใช่ชายชุดดำ แต่เป็นการ์ดนปช.ชื่อนายมานพ ชาญช่างทอง ส่วนที่ต้องสวมหมวกไหมพรมคลุมหน้านั้นก็เพื่อป้องกันแก๊สน้ำตา อย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นว่าชายชุดดำไม่มีจริงพรรคประชาธิปัตย์จึงหาชายชุดดำไม่เจอ เลยสร้างเรื่องโกหกขึ้นมา
**'วัชระ'จี้ธาริตแจง10ล้านจับชายชุดดำ
นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับปากกับที่ประชุมของคณะกรรมาธิการงประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2556 ว่าจะแบ่งงบประมาณลับจากดีเอสไอ ในปี 56 เป็นเงิน 10ล้านบาท เพื่อเป็นรางวัลนำจับชายชุดดำว่า ในชั้นกมธ.งบฯเคยพูดในเรื่องกรณีชายชุดดำ ที่แม้แต่พนักงานสอบสวนดีเอสไอก็สับสนว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ดังนั้นนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ ก็ได้เสนอแนวคิดให้แบ่งงบลับจำนวน 10 ล้านบาทให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสชายชุดดำ ทั้งนี้ นายธาริตก็ได้รับปากกับกรรมาธิการ ดังนั้น วันนี้จึงขอท้วงถามว่าจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ และขอให้นายธาริตช่วยตอบให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
**เสื้อแดงบุกกสม.ขอความจริงผลสรุป
ด้าน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จำนวนกว่า 50 คน นำโดยนางพะเยา อัคฮาด เดินทางมาชุมนุมที่ด้านหน้าอาคารรัฐประศาสนศาสตร์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอพบนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) เพื่อสอบถามกรณีที่มีการเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบการสลายการชุมนุม ปี 53 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ทางสื่อมวลชน ที่มีเนื้อหาระบุในทำนอง คนเสื้อแดงเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่น เป็นผู้ใช้ความรุนแรง ขณะที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามสากล ภายใต้กฎหมาย ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับคนเสื้อแดง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนเสื้อแดงที่เดินทางมาชุมนุมต่างก็แสดงอารมณ์โมโห ไม่พอใจกับผลสรุปของรายงานที่อ้างว่าเป็นรายงานของกสม. โดยมีการตะโกนต่อว่าการทำหน้าที่ของกรรมการสิทธิฯ อยู่ตลอดเวลา
ขณะที่เมื่อนางอมรา ลงมาพบกับผู้ชุมนุมพร้อมกับนางวิสา เบ็ญจะมโน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ผู้ชุมนุมก็กรูเข้าล้อมนางอมรา และคณะ พร้อมกับตั้งคำถามผ่านไมโครโฟนที่พ่วงกับเครื่องขยายเสียง เพื่อที่จะให้ผู้ชุมนุมและประชาชน ที่มาติดต่อราชการภายในอาคารศูนย์ราชการฯ ได้รับทราบ สร้างความสนใจให้กับผู้สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก
วานนี้ (29 ส.ค. 55) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วลา 10.00 น. พ.ท.บุศริน ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ นำ ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ และส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด ทหารสังกัด ม.พัน 5 เจ้าหน้าที่ทหารที่ประจำการในฐานะพลทหารซุ่มยิง ที่ปฎิบัติหน้าที่ในช่วงระหว่างเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 มาชี้แจงในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ
พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ระบุว่า พนักงานสอบสวนจะสอบถามในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายทหารทั้ง 2 พร้อมนำภาพเหตุการณ์ในช่วงดังกล่าวมาเปิด ประกอบการสอบถามด้วย
เวลาประมาณ 13.00 น. กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดง นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ น.ส.กมลเกด อัคฮาด อาสาพยาบาลที่เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม เดินทางเขามอบช่อดอกไม้สีขาวเพื่อให้กำลังใจพ.ต.อ.ประเวศน์ ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำพลแม่นปืน 2 นาย
หลังการให้ปากคำผ่านไปกว่า 6 ชั่วโมง พ.ต.อ.ประเวศน์ เปิดเผยว่า การเข้าชี้แจงของ ส.อ.ศฤงคาร และส.อ.คชารัตน์ เน้น สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้อาวุธตามภาพที่ปรากฎ โดยอาวุธที่ใช้เป็นปืนเอ็ม 16 ไม่ใช่สไนเปอร์อย่างที่เข้าใจ ส่วนลำกล้องเป็นลำกล้องของปืนบีบีกันที่นำมาติดภายหลัง"ทหารทั้ง 2 นาย ให้การยอมรับว่า การปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 15 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. เป็นการปฏิบัติหน้าที่บริเวณบ่อนไก่ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับหน่วย พร้อมแจ้งเตือน และในวันนั้นได้มีการลั้นไกปืนยิงขู่กลุ่มผู้ชุมนุม โดยกระสุนที่ใช้เป็นกระสุนยาง
** “บิ๊กตู่” ไฟเขียวพลเฝ้าระวังให้ปากคำ
เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าว ตนก็อนุญาตให้พลเฝ้าระวังไปให้ปากคำตามคำเชิญ หากจะเชิญใครตนก็อนุญาตให้ไป โดยวันนี้ยังไม่มีการเชิญตนไปซึ่งตอนนั้นมีตำแหน่งแค่ที่ปรึกษาของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)เท่านั้น ซึ่งพยานสามารถไปให้ข้อมูลเองหรือให้ตัวแทนไปก็ได้เพราะตนไม่ใช่ผู้ต้องหา/
**เหลิมโต้ “สุเทพ” พลิกสำนวนไม่ได้
อีกด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เกรงว่ารูปคดีการสลายการชุมนุม 91 ศพ จะพลิก และไม่ไว้ใจคนในดีเอสไอ ว่า รูปคดีเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ข้อเท็จจริงข้อกฎหมายเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น กระบวนการยุติธรรมและหลักกฎหมายใครก็ไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้อย่าไปห่วงเลย
** "เหวง"โต้"ปชป.ชายชุดดำไม่มีจริง
นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นำภาพชายชุดดำเมื่อปี 2553 มาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ทำงานอย่างสร้างสรรค์ อย่าทำงานแบบน้ำเน่า เพราะภาพชายชุดดำที่นายชวนนท์นำมาโชว์นั้นไม่ใช่ชายชุดดำ แต่เป็นการ์ดนปช.ชื่อนายมานพ ชาญช่างทอง ส่วนที่ต้องสวมหมวกไหมพรมคลุมหน้านั้นก็เพื่อป้องกันแก๊สน้ำตา อย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นว่าชายชุดดำไม่มีจริงพรรคประชาธิปัตย์จึงหาชายชุดดำไม่เจอ เลยสร้างเรื่องโกหกขึ้นมา
**'วัชระ'จี้ธาริตแจง10ล้านจับชายชุดดำ
นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับปากกับที่ประชุมของคณะกรรมาธิการงประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2556 ว่าจะแบ่งงบประมาณลับจากดีเอสไอ ในปี 56 เป็นเงิน 10ล้านบาท เพื่อเป็นรางวัลนำจับชายชุดดำว่า ในชั้นกมธ.งบฯเคยพูดในเรื่องกรณีชายชุดดำ ที่แม้แต่พนักงานสอบสวนดีเอสไอก็สับสนว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ดังนั้นนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ ก็ได้เสนอแนวคิดให้แบ่งงบลับจำนวน 10 ล้านบาทให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสชายชุดดำ ทั้งนี้ นายธาริตก็ได้รับปากกับกรรมาธิการ ดังนั้น วันนี้จึงขอท้วงถามว่าจะดำเนินการได้เมื่อไหร่ และขอให้นายธาริตช่วยตอบให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
**เสื้อแดงบุกกสม.ขอความจริงผลสรุป
ด้าน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จำนวนกว่า 50 คน นำโดยนางพะเยา อัคฮาด เดินทางมาชุมนุมที่ด้านหน้าอาคารรัฐประศาสนศาสตร์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขอพบนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) เพื่อสอบถามกรณีที่มีการเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบการสลายการชุมนุม ปี 53 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ทางสื่อมวลชน ที่มีเนื้อหาระบุในทำนอง คนเสื้อแดงเป็นผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนผู้อื่น เป็นผู้ใช้ความรุนแรง ขณะที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะนั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามสากล ภายใต้กฎหมาย ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ เนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นธรรมกับคนเสื้อแดง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนเสื้อแดงที่เดินทางมาชุมนุมต่างก็แสดงอารมณ์โมโห ไม่พอใจกับผลสรุปของรายงานที่อ้างว่าเป็นรายงานของกสม. โดยมีการตะโกนต่อว่าการทำหน้าที่ของกรรมการสิทธิฯ อยู่ตลอดเวลา
ขณะที่เมื่อนางอมรา ลงมาพบกับผู้ชุมนุมพร้อมกับนางวิสา เบ็ญจะมโน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนฯ ผู้ชุมนุมก็กรูเข้าล้อมนางอมรา และคณะ พร้อมกับตั้งคำถามผ่านไมโครโฟนที่พ่วงกับเครื่องขยายเสียง เพื่อที่จะให้ผู้ชุมนุมและประชาชน ที่มาติดต่อราชการภายในอาคารศูนย์ราชการฯ ได้รับทราบ สร้างความสนใจให้กับผู้สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก