xs
xsm
sm
md
lg

“ปู”เมินเด้ง“ปลอด” 12 ล้านจัดมหกรรมเอาน้ำอยู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 28 ส.ค.) เวลา 12.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของนายกิจจา ผลภาษี รองประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่ให้ปลดนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ออกจากการดูแลแก้ปัญหาน้ำ โดยเฉพาะตำแหน่งประธาน กบอ.
ส่วนปัญหาความขัดแย้ง จะทำให้เกิดปัญหาในการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราพร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือกันเพื่อให้ได้ข้อสรุป เพราะการบริหารจัดการน้ำเราไม่ได้ยึดอยู่กับบุคคลใด บุคคลหนึ่ง แต่เป็นการรวมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีความรู้ในแต่ละเรื่องมาหารือ ก่อนที่จะตัดสินใจร่วมกัน
นายกิจจา ผลภาษี คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการบริหารจัดการน้ำ(กยน.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวออกมาระบุว่าได้เรียกร้องให้นายกฯเปลี่ยนตัวนายปลอดประสพ ออกจากตำแหน่งประธานกยน. ว่า ในกรณีนี้ตนอยากจะชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยพูดในทำนองที่จะเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปลดนายปลอดประสพให้ออกจากตำแหน่งดังกล่าว เพราะตนเองไม่มีอำนาจหน้าที่อะไรในเรื่องนี้ และโดยส่วนตัวแล้วตนกับนายปลอดประสพก็รู้จักมักคุ้นกันดี อีกทั้งไม่เคยมีปัญหาข้อแย้งอะไร
ส่วนคิดว่าการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ทำงานอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง นายกิจจา กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนเห็นเขาก็ดำเนินการกันอยู่ แต่สิ่งที่ตนอยากจะแนะคืออยากจะให้ทำงานให้เข้มขึ้นอีก โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำจากเขื่อนควรจะต้องมีการวิเคราะห์กันให้ดี เพราะในปีนี้เรามีน้ำน้อย ตนไม่อยากจะให้ไปพะวงเรื่องน้ำท่วมให้มากนักจนเกินไป
“อย่างไรก็ตามผมอยากชี้แจงว่าจนถึงในเวลานี้ตนยังไม่ได้ยื่นเรื่องลาออกจากกยน.แต่อย่างใด และผมขอยืนยันว่าจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก เพราะคนอย่างผมเมื่อตัดสินใจอะไรแล้วว่าจะทำก็จะต้องช่วยงานให้เต็มที่ และที่ผ่านมางานในส่วนของผมกับพรรคพวกที่ดูแลรับผิดชอบอยู่ได้เสร็จสิ้นแล้ว ผมจึงค่อยถอยออกมา แต่ชื่อผมก็ยังอยู่ในในคณะกรรมกยน.อยู่ ไม่มีการถอนชื่อแต่อย่างใด” นายกิจจากล่าว

**เติ้งจี้ปูไกล่เกลี่ย “ปลอด-ปราโมทย์”
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวกรณีนายปลอดประสพ แถลงตอบโต้นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการน้ำ ว่า ต้องย้อนกลับไปปี 2554 ปล่อยน้ำน้อยมากน้ำในเขื่อนมีสูงถึง 70% ประกอบกับมีพายุเข้าอีก 3-4 ลูกจึงต้องระบายน้ำลงมาในเดือนส.ค.-ก.ย.จึงก่อให้เกิดอุทกภัยร้ายแรง
ปีนี้รัฐบาลจึงจัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)เพื่อคอยดูแลการระบายน้ำ มีนายปลอดประสพ เป็นประธานคณะกรรมการ พยายามระบายน้ำให้เหมาะสมกับรองรับพายุที่อาจจะเข้ามา ปัจจุบันมีเขื่อนที่สำคัญคือ เขื่อนภูมิพลมีน้ำอยู่ 48% เขื่อนสิริกิติ์ 54% ตนคาดว่าในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้ไม่น่ามีปัญหา แต่จะมีปัญหาในช่วงที่ฝนทิ้งช่วงมากต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ม.ค.ปีหน้า จะขาดแคลนน้ำในการทำเกษตรกรรม แต่ในขณะนี้ กบอ.ก็ได้ปรับแผนงานใหม่คือถ้าน้ำเข้ามามากจะปล่อยน้ำน้อย เพราะต้องการให้น้ำในเขื่อนมีพอ ที่จะใช้ไปถึงช่วงฤดูแล้ง
เพราะฉะนั้นทั้งนายปลอดประสพและอดีตอธิบดีกรมชลประทานถูกทั้ง 2 ฝ่าย โดยนายปราโมทย์ ก็คงเป็นห่วง แต่การปล่อยน้ำในขณะนี้มีคณะกรรมการดูแล มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วม ส่วนตัวตนเห็นว่าก็ต้องคำนึงถึงพายุที่เข้ามาด้วย ถ้าปีนี้พายุไม่มาหรือมาน้อยทางคณะกรรมการดังกล่าวก็พยายามไม่ปล่อยน้ำมาก เพื่อให้น้ำมีใช้เพียงพอถึงเดือนม.ค.ปี 2556
“ผมได้ลงพื้นที่ไปดูประตูน้ำบางโฉมศรี ดูแล้วสถานการณ์น้ำทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยายืนยันว่า น้ำไม่ท่วม 100% ปีนี้สบายใจได้ ส่วนปีหน้าค่อยว่ากัน โดยปีนี้ในพื้นที่ที่มีจุดอ่อน กรมชลประทานต้องรีบดำเนินการ ผมในฐานะที่เป็นที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ ก็พยายามลงพื้นที่ไปดูทุกสัปดาห์ ส่วนไหนที่ต้องได้รับการแก้ไข ก็ต้องของบประมาณจากรัฐบาล ซึ่งในวันนี้รัฐบาลก็ได้ให้งบประมาณในส่วนการซ่อมแซมประตูน้ำบางโฉมศรีและสถานีสูบน้ำปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ครบแล้ว 500 กว่าล้านบาท ก็จะเร่งดำเนินการต่อไป ส่วนจุดที่สำคัญงบประมาณก็คงจะทยอยมา ” นายบรรหารกล่าว
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมีการตั้งข้อสังเกตว่าควรจะมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องน้ำ เพราะนายปลอดประสพไม่ได้เก่งในการบริหารจัดการน้ำ นายบรรหาร กล่าวว่า ท่านเคยทำงานกับตนสมัยที่อยู่กระทรวงเกษตรฯ ถึงแม้ว่านายปลอดประสพจะไม่เคยดูแลเรื่องน้ำ แต่หลังจากที่ได้มารับหน้าที่ดูแลเรื่องน้ำ ก็คงจะมีความรู้มาก พอสมควร และก็ยังมีกรรมการอีกหลายฝ่ายรวมทั้งกรมชลประทานเข้าร่วมด้วย ท่านคงไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้ โดยหลักแล้วกรมชลประทานจะตัดสินใจและมีหน้าที่รับผิดชอบเป็นหลักใหญ่ ประชาชนมั่นใจในข้อมูลได้ และไม่ต้องกังวล

**จัดนิทรรศการแจงการบริหารน้ำ
อีกด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าในการจัดนิทรรศการน้ำของรัฐบาลเพื่อชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนรับทราบ ว่า จะจัดขึ้นช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 2 ก.ย.นี้ ขอเชิญชวนประชาชนไปดู เพราะถือเป็นรายละเอียดทั้งหมดที่รัฐบาลได้เตรียมรับมืออุทกภัยในปีนี้
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลจะจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ภายใต้ชื่องานว่า "มุ่งมั่นทำงาน บริหารจัดการน้ำเพื่อประชาชน" ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ห้องบางกอกคอนเวชั่น ชั้น 5 โดยมีวัตถุปประสงค์เพื่อให้ประชาชนรับทราบการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลในทุกมิติ ซึ่งภายในงานจะบอกถึงสาเหตุการเกิดอุทกภัยมากที่สุดในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา แนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นใจจากประชาชนและแก่นักลงทุนด้วย โดยการจัดนิทรรศการในครั้งนี้จะมีการฉายวิดีทัศน์บอกเล่าเรื่องราวนำเสนอการบริหารจัดการน้ำ เช่น การพยากรณ์น้ำ การติดตั้งซีซีทีวีตามเขื่อน ขณะที่ไฮไลท์สำคัญ เช่นโครงการผันน้ำที่เชื่อมโยง 25 ลุ่มน้ำเข้าด้วยกัน ที่ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในลุ่มน้ำยม และน่าน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง การสร้างคันกั้นน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น จ.นครสวรรค์ และการป้องกันน้ำในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และเสริมแนวคันกั้นน้ำโครงการพระราชดำริ
อย่างไรก็ตามในวันที่ 31ส.ค.นี้ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นประธานเปิดงาน พร้อมชี้แจงข้อมูลการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลให้ประชาชนและนักลงทุนรับทราบอีกด้วย โดยใช้งบประมาณจัดงาน 12 ล้านบาท

**ไฟเขียวงบประมาณ769.3ล้าน
วันเดียวกัน ครม.อนุมัติในหลักการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำโครงการ 3 โครงการ ตามมติผลการประชุมของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ครั้งที่ 8/2555 ภายในวงเงิน 769,311,374.85 บาท ดังนี้ 1.โครงการป้องกันน้ำท่วมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เพื่อก่อสร้างกำแพงเข็มพืดคอนกรีต พนังคันดิน ประตูกั้นน้ำที่ประตูทางเข้า – ออก และถนนยกระดับบริเวณทางเข้าหลักร่วมกันของสามสถาบัน 2.โครงการประตูน้ำ/สถานีสูบน้ำกึ่งถาวรปากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ กรมชลประทาน และ3.โครงการก่อสร้าง Siphon เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรีกรมชลประทาน

**สั่ง 3 กระทรวงบูรณาการช่วยภัยแล้ง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงปัญหาภัยแล้งในภาคอีสานที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ก็ต้องแก้ปัญหาเป็นจุด ๆ ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส.) กับกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือประชาชนแล้ว และส่วนฝนหลวง กระทรวงเกษตรฯ ก็ได้เข้าไปช่วยดูแลเพิ่มเติม โดยทั้ง 3 กระทรวงจะบูรณาการลงไปแก้ปัญหาในพื้นที่

**ลดการปล่อยน้ำจากเขื่อนแก้แล้ง
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) สรุปสถานการณ์ภาพรวมของสภาพอากาศระหว่างวันที่ 21-27 ส.ค.2555 ที่ผ่านมาว่า จากการรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการก่อตัวของพายุ 2 ลูกคือ พายุใต้ฝุ่น TEMBIN และ BOLAVEN โดยมีจุดก่อตัวที่มหาสมุทรแปซิฟิก แต่ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย รวมถึงร่องความกดอากาศต่ำหรือร่องมรสุม ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ในช่วงวันที่ 27 -28 ส.ค. โดยร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมกำลังแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน อ่าวไทย และประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากโดยเฉพาะภาคเหนือ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร แต่มรสุมจะมีกำลังอ่อนลงในช่วงวันที่ 29 ส.ค. - 1 ก.ย.นี้
ช่วงนี้ประเทศไทยจะเกิดฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ขาดน้ำ ตามที่นายปลอดประสพ เคยระบุไว้ ดังนั้นในช่วงนี้เราจะลดการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนให้น้อยลง และกักเก็บน้ำให้มากขึ้นในทุกเขื่อน เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในเขื่อนสำคัญอย่างเช่น เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ยังสามารถกักเก็บน้ำได้อีกประมาณ 1 หมื่นล้านลูกบาตรเมตร ซึ่งเทียบเท่ากับปริมาณน้ำที่ท่วมเมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงอยากให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่ท่วมในปีนี้ตามที่นายปลอดประสพ ได้ระบุไว้อย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น