ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เรียบร้อยโรงเรียน นปช.เมื่อในที่สุดแล้ว ศาลอาญาได้มีคำสั่งถอนประกันในการผิดเงื่อนไขในคดีการก่อการร้าย ที่มีลักษณะ ข่มขู่ การปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สำหรับงวดนี้ที่สุดแล้ว หวยได้ออกที่ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ที่ดวงแตกถูกศาลตัดสินให้กลับเข้าไปนอนในซังเตเพียงผู้เดียว ส่วนแกนนำเสื้อแดง หรือจำเลยอีก 17 คน ให้ยกคำร้อง โดยศาลได้เพิ่มเงื่อนไขการประกันตัวเพิ่มกับจำเลยทั้งหมดห้ามดูหมิ่น ยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดมให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายกระทบต่อเกียรติยศ ชื่อเสียงและความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอื่นและห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล
ทั้งนี้ แกนนำ นปช. 17 คน ที่ไม่ถูกเพิกถอนประกันครั้งนี้ ประกอบด้วย วีระ มุสิกพงศ์ จตุพร พรหมพันธุ์ ขวัญชัย ไพรพนา นิสิต สินธุไพรภูมิกิติ สุขจินดาทอง สุขเสก พลตื้อ จรัญ ลอยพูล อำนาจ อินทโชติ ชยุต ใหลเจริญ สมบัติ มากทอง สุรชัย เทวรัตน์ รชต วงค์ยอด ยงยุทธท้วมมี อร่าม แสงอรุณ เจ็มส์ สิงห์สิทธิ์ ป้อมบางชม และอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง
กล่าว สำหรับเจ๋ง ดอกจิก ก็ต้องบอกว่าน่าจะเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่ต้องอัปเปหิ เก็บข้าวเก็บของกลับไปนอนในซังเตอีกครั้ง หลังจากเคยถูกควบคุมตัวไว้หลังเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง 19 พฤษภาคม 2553 และเป็นครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ต้องหันหน้าเข้าห้องขังพร้อมกับแกนนำคนอื่นๆ เมื่อกลางปี2553 ทันทีที่ยุติการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ในข้อหาก่อการร้ายก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในเดือน ก.พ. 2554 รวมเวลาการใช้ชีวิตในห้องขังนานกว่า 9 เดือน แต่ดูแล้วเจ๋ง ก็จะไม่ได้ดูสำนึกต่อการกระทำที่ก่อไว้เท่าใดนัก
ยิ่งหากย้อนไปดูพฤติกรรมความกร่างต่างๆของเขาด้วยแล้ว โดยเฉพาะวันที่ 7 มิถุนายน บนเวทีหน้ารัฐสภาวันนั้น น่าจะเป็นวันที่ เจ๋ง ดอกจิก คงต้องจดจำไปจนวันตายอีกหนึ่งวัน
ศาลอาญาให้เหตุผลเพิกถอนการประกันเจ๋งไว้ว่า "จำเลยยอมรับว่ามีการนำเบอร์โทรศัพท์ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปเปิดเผยบนเวทีปราศรัยจริง แต่เป็นการพูดให้การปราศรัยสนุกสนานและขบขัน แต่เมื่อศาลได้พิจารณาประกอบท่าทางการพูดของจำเลยแล้ว เห็นว่าเป็นการทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถูกดูหมิ่นเกลียดชังจากกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะคำพูดของจำเลยทำให้เข้าใจว่าจำเลยต้องการให้มีการกระทำที่คุกคามและกดดัน"
ขณะที่ เจ๋ง ดอกจิก แถลงต่อศาลว่า การปราศรัยก็เป็นการพูดตามสไตล์ตลกของตน แต่หลังเกิดเหตุตนได้กล่าวขอโทษตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก และได้บอกกับประชาชนว่าอย่าโทรศัพท์ไปก่อกวนครอบครัวของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทุกท่าน ซึ่งก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นและไม่มีประชาชนคนใดคนหนึ่งโทรศัพท์ไปรบกวนตุลาการและครอบครัวเลยแม้แต่คนเดียว ที่สำคัญหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้นำไปประกาศก็ไม่ได้มีการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่มีเจตนายุยงปลุกปั่นสร้างความวุ่นวาย ในทางกลับกันตนได้ประสานกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาชุมนุมศาลอาญาโดยขอร้องให้คนเสื้อแดงอยู่ในระเบียบวินัยของศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้มีรัฐบาลเพื่อไทยและตนเป็นสมาชิกอยู่ รวมทั้งตนมีตำแหน่งเป็นเลขานุการฯ ช่วยงานรมช.มหาดไทย จึง ไม่มีเจตนากระทำการวุ่นวาย วันนี้ตนไม่มีอะไรมากนอกจากขอความเมตตาจากศาล ซึ่งหากมีการกระทำผิดพลาดตนขออภัย และน้อมรับปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเต็มใจและเคร่งครัด
นี่คืออาการสงบเสงี่ยมแบบหนังคนละม้วนเมื่ออยู่ต่อหน้าคนเสื้อแดงของเจ๋ง ดอกจิก
อย่างนี้แล้ว ก็คงต้องบอกว่าไม่ได้ต่างจากอาการตบหัวแล้วลูบหลังเลยแม้แต่น้อย สำหรับการสำนึกในกรรมที่ตัวเองก่อไว้อย่างมากมากมายของตัวเอง เอาเป็นว่าไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใดที่ผลออกมาเป็นแบบนี้ เพราะต้องบอกว่าเข้าข่ายและนอนมาอยู่แล้วว่า เป็นการข่มขู่แจ่มแจ้งและชัดเจน โดยก่อนหน้านี้ทีมทนายความ นปช. ต่างมีการประเมินแล้วว่า หากจะมีแกนนำคนไหนต้องถูกถอนประกัน ก็ไม่น่าจะพ้นรายของเจ๋ง ดอกจิก ด้วยเหตุที่มีพฤติการณ์ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อันถือเป็นประเด็นอ่อนไหวและง่ายต่อการให้ศาลอาญามีคำสั่งถอนประกันตัว ที่ได้ขึ้นเวทีแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้คนเสื้อแดงโทรศัพท์ไปข่มขู่ และก่อความรำคาญ อีกทั้งมีการใช้วาจาหยาบคาย ซึ่งพฤติกรรมในลักษณะแบบนี้ในสังคมไทยย่อมไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่บุคลากรในศาล ในระดับผู้พิพากษาจะถูกกระทำย่ำยีถึงเพียงนี้
กล่าวสำหรับ เจ๋ง ดอกจิกขณะนี้กำลังได้ดิบได้ดี ได้เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่นคือเป็นเลขานุการของ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ฐานิสร์ เทียนทอง มีเงินเดือนเบี้ยหวัดไม่ใช่น้อย มาถึงขณะนี้คงต้องนอนฝันค้างในคุกไปก่อนเพียงอย่างเดียว
ขณะเดียวกัน ที่ต้องขีดเส้นใต้ไว้ก็คือคดีการถูกร้องให้เพิกถอนประกันคดีก่อการร้าย หากจับสังเกตกันให้ดีก็ต้องถือว่าเป็นเหมือนคาถากันผีบ้า ได้ชะงัดอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ไม่ต้องอื่นไกลเอาแค่ ก่อนจะถึงนาทีที่ศาลอาญาจะอ่านคำสั่งไม่กี่ชั่วโมง สังคมก็ได้เห็นอาการของบรรดาแกนนำเสื้อแดงแต่ละคน สีหน้าท่าทางจ๋อย หงอ ซีดเป็นไก่ต้ม แม้จะฝืนยิ้มแต่ก็ดูเหมือนจะยิ้มไม่ค่อยออกไปตามๆ กัน เหมือนกับ “หนังคนละม้วน” ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ ที่อยู่บนเวทีต่อหน้ามวลชนคนเสื้อแดง แบบหน้ามือแบบหลังมือ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครได้เห็นอาการของ ยศวริศ หรือ เจ๋ง ที่หน้าสลดทั้งก่อนและหลังศาลมีคำสั่ง วิงวอนขอความเมตตาจากศาล อ้างว่าตัวเองสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว มีทั้งการขนพยานบุคคลไปให้การยืนยันเพิ่มเติม แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นกรรมที่ตัวเองได้ก่อมา และถูกคุมตัวไปขังที่เรือนจำคลองเปรมทันที แม้ว่าในวันหน้าสามารถยื่นอุทธรณ์ขอประกันได้อีกก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครหน้าไหนรับประกันได้ว่าจะมีผลออกมาเป็นเช่นไร
และหากจะกล่าวถึงหัวโจกแดงรายอื่นๆ ในระยะหลัง ทั้ง ก่อแก้ว พิกุลทอง-เหวง โตจิราการ-วิภูแถลง พัฒนภูมิไท -ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พวกนี้แม้จะแสดงความเห็นทางการเมืองอยู่ แต่ก็ลดความแรงไปมากไม่เหมือนก่อนหน้าที่ศาลอาญาจะพิจารณาคำร้องเรื่องการถอนประกันตัว โดยเฉพาะเห็นได้ชัดเลยว่า ก๊วนแดง เหล่านี้งดการพูดจาพาดพิงถึงองค์กรอื่นไปเลยโดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยลดราวาศอก ได้โอกาสเมื่อไหร่ ต้องใส่ไม่มียั้ง แต่ตอนนี้เงียบกริบ เรียกว่าอาการผีเจาะปากมาพูดหายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ต้องพึ่งยาขนานใดเลย เพียงแค่เห็นสัญญาณอันตรายของศาลที่มีท่าทีเข้มงวดเอาจริงในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี สิ่งที่แกนนำเสื้อแดงทั้งหลายต้องสำเหนียกให้จงดีก็คือ รอบนี้ศาลก็ยังได้มีเงื่อนไขประกันตัวครอบคลุมเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่าศาลได้ใช้กรณี เจ๋ง ดอกจิก ปราศรัยละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเป็นบรรทัดฐานป้องกันไม่ให้แกนนำนปช.วิจารณ์ศาลได้ ในฐานะเป็นองค์กรอำนวยความยุติธรรมที่สมควรได้รับการคุ้มครอง และห้ามไม่ให้ผู้ใดกระทำการละเมิดศักดิ์ศรีของสถาบันตุลาการ ซึ่งถือเป็นต้นทุนสำคัญสำหรับพิจารณาอรรถคดี
ที่สำคัญทิศทางศาลเวลานี้ได้ประกาศแล้วว่าเอาจริง ไม่ปล่อยให้แกนนำเสื้อแดงแสดงความย่ามใจวิพากษ์วิจารณ์ศาลแบบขาดหลักวิชาการมารองรับอีกแล้ว มาถึงตอนนี้ก็คงไม่ต้องบอกว่าคงจะไม่ค่อยเห็นอาการปากกล้าขาสั่นของหัวโจกแดงคนใดออกมาเห่าหอนไล่กัดจิกชาวบ้านหรือออกกร่างดูหมิ่นศาลอีก แน่นอนคงไม่มีใครอยากมีใครอยากหวยออกแบบ เจ๋ง ดอกจิก
ถ้าหากกางรายชื่อในคดีนี้อีกก็มีส่วนผู้ต้องหาที่มีเอกสิทธิ์ความเป็น ส.ส.คุ้มครอง ประกอบด้วย 1. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 2. นายก่อแก้ว พิกุลทอง 3. นายการุณ โหสกุล 4. นพ.เหวง โตจิราการ และ 5. นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ให้เลื่อนการสอบถามเพิกถอนปล่อยตัวชั่วคราวออกไปเป็นวันที่ 29 พ.ย. หลังปิดสมัยประชุมสภาฯ ซึ่งก็เชื่อขนมกินได้เลยว่า พฤติกรรมต่อจากนี้ทั้งหลายคงจะออกแนวสงบเสงี่ยมขึ้นแบบผิดหูผิดตา
อย่างไรก็ตาม กรณี เจ๋ง ดอกจิก ครั้งนี้ คงต้องบอกว่านับเป็นบรรทัดฐานอย่างดีให้กับสังคมได้ประโยชน์อย่างมหาศาล เป็นเครื่องเตือนใจของบรรดาสาวกฮาร์ดคอร์คนเสื้อแดง ที่ได้เที่ยวโพสต์ เที่ยวพูด เที่ยวแจกเบอร์โทรศัพท์ บ้านพักของคนที่ตัวเองเกลียดชัง เพื่อให้บรรดาสาวกร่วมลัทธิออกตามล่า ว่าเป็นสิ่งที่มันไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่ผู้เจริญแล้วเขาไม่ทำกัน ที่จะไล่ไปตามบ้าน คอยราวีให้ชีวิตคนอื่นอยู่แบบไม่มีความสุข เพียงเพราะมีความเห็นต่างทางการเมือง
มาถึงตรงนี้แล้ว ก็นับว่าเป็นบรรทัดฐานที่ดีแก่สังคมเช่นกัน เมื่อมองไปที่ศาล ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ ไปจนถึงระบบศาลยุติธรรมอื่นๆ ที่กำลังยืนอยู่บนเส้นด้าย เพราะถูกคนเสื้อแดงคุกคามอย่างหนักอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่สิ่งที่สะท้อนให้เห็นชัดในกรณีนี้ชัดเจนก็คือ หากกระบวนการทางกฎหมายเอาจริงเอาจัง มีความเข้มงวดด้านกฎหมายก็ย่อมทำให้ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน แต่หากปล่อยปละละเลย ไปอ่อนข้อด้วยแรงกดดันของคนบางกลุ่ม มันก็ยิ่งทำให้เกิดการเหิมเกริมลามปาม และนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมืองไม่จบสิ้น
ดังนั้น คงต้องบอกว่าสมควรแล้วที่คำสั่งศาลออกมาจนทำให้แกนนำคนเสื้อแดงออกอาการหัวหด กลัวคุก สงบเสงี่ยมลงได้บ้าง เพราะประชาชนทั่วไปคงจะชื่นใจไม่น้อยและอยากให้ศาลออกคำสั่งถอนประกัน ดับซ่าความกร่างของแกนนำเสื้อแดงมานมนานแล้ว ไม่ใช่เอาแต่อ้างว่าได้รับการเลือกตั้งมาหลายล้านเสียง แล้วจะทำอะไรก็ได้แบบอยู่เหนือกฎหมาย
หมายเหตุ - 'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' มีแฟนเพจแล้วนะครับ ขอเชิญร่วมพูดคุยและแสดงความคิดกันได้ที่ http://www.facebook.com/Astvmanagerweekend