นัดฟังคำตัดสินถอนประกันแกนนำแดงวันนี้ อธิบดีศาลฯ เผยยกร่างคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ยึดข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นหลัก ด้านแกนนำแดงซีด ขอความเมตตาศาลแค่ตักเตือน "ไอ้กี้ร์" ยังกร่าง ถ้าอยากปรองดอง ต้องไม่ถอนประกัน ตำรวจระดมกำลัง 650 นายรักษาความปลอดภัยเข้ม
นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึง กรณีที่ศาลนัดสอบถาม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ผู้ช่วยเลขานุการ รมว. มหาดไทย กับพวกแกนนำนปช. จำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย รวม 19 คนกระทำผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว กรณี ปราศรัยโจมตีข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันนี้ (22ส.ค.) ว่า ในส่วนของจำเลย 18 คน นั้นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้สอบถามจำเลยเสร็จแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนในฐานะอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ร่วมให้คำปรึกษากับผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน จนได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว โดยองค์คณะได้ยกร่างคำสั่ง และเหตุผลมาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงนำมาปรึกษาและปรับเหตุผล และอยู่ระหว่างนำกลับไปเรียบเรียง เพื่อเขียนคำสั่งที่จะเตรียมอ่านในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เชื่อว่าจะเสร็จสิ้น ส่วนคำวินิจฉัยของศาล จะชี้ขาดคำร้องเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยอย่างไร ไม่สามารถบอกได้ ซึ่งมีหลายแนวทางเหมือนที่เคยบอกไปแล้ว
** ยึดข้อเท็จจริงเป็นหลักพิจารณา
นายทวี กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำสั่งชี้ขาดคำร้องเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยแล้ว ศาลก็จะอธิบายเหตุผลไว้ในคำสั่ง ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษา และผู้บริหารศาลอาญาได้ประชุมปรึกษากันอย่างรอบคอบ โดยเอาเหตุผลข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน ประกอบกับหลักข้อกฎหมาย ไม่มีการนำเอาความคิด หรือข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาเกี่ยวข้อง ซึ่งหลักฐานในสำนวนมีทั้งภาพ และเสียงจากแผ่นวีซีดี คำถอดเทปการปราศรัย ว่ากันไปตามข้อกฎหมาย
อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวต่อว่า นายยศวริศ ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานบุคคล จำนวน 2-3 ปาก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้ง นายจรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช มาแถลงเป็นพยาน ซึ่งเป็นดุลพินิจขององค์คณะผู้พิพากษาว่า จะอนุญาตหรือไม่ ในช่วงเช้าวันที่ 22 ส.ค. องค์คณะผู้พิพากษาคงจะปรึกษาตนอีกครั้ง ว่า จะออกหมายเรียกหรือไม่ เพราะมีเงื่อนไขใหม่เข้ามา
**ขอให้สอบพยานเพิ่มหวังประวิงเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานก่อนนัดสอบถามเพียงวันเดียว แสดงว่า มีเจตนาประวิงเวลาเพื่อให้เลื่อนฟังคำสั่งออกไปหรือไม่ นายทวี กล่าวว่า เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ แต่อยู่ที่องค์คณะจะพิจารณามีความเห็นว่าอย่างไร เมื่อจำเลยมีเวลายื่นคำร้องหลายวัน กลับมายื่นคำร้องวันนี้ เพราะกระบวนการส่งหมายเรียกบุคคลภายนอก ที่จำเลยนำมาศาลไม่ได้ให้มาเป็นพยานนั้น ไม่สามารถส่งหมายได้ภายในวันเดียว เป็นดุลพินิจอิสระขององค์คณะที่จะพิจารณาพฤติการณ์ ว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวการเผยแพร่เสียงในห้องพิจารณาคดี ไปยังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (เคเบิลทีวี) บางช่องหรือไม่ นายทวี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการกระทำดังกล่าว การกระจายเสียงศาลอนุญาตเพียงกระจายเสียงผ่านลำโพง ให้ผู้ฟังด้านนอกห้องพิจารณาคดีเท่านั้น หากมีการเชื่อมต่อไปออกทางสถานีโทรทัศน์ หรือเคเบิลช่องต่างๆ อาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
**"เจ๋ง"ยังหวังให้ศาลแค่ตักเตือน
นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋งดอกจิก แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) จำเลยคดีก่อการร้าย กล่าวถึง กรณีศาลอาญานัดฟังคำสั่งเพิกถอนประกันตัว 19 แกนนำ นปช. ในวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า ทีมทนายความของ ตนได้เตรียมพยานบุคคล เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมพื้นที่การชุมนุมหน้ารัฐสภา และได้ฟังคำปราศัยของตนมาแถลงเป็นพยานต่อศาล รวมทั้งหลักฐานแผ่นวีซีดี พร้อมเอกสารถอดเทปคำปราศรัย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. มายื่นต่อศาล เชื่อว่าศาลอาญาจะมีความยุติธรรม และเมตตาอีกครั้ง เพราะตนแสดงความคิดเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลการเมือง ไม่ใช่ศาลยุติธรรม และที่ตนปราศรัยนั้น ก็ไม่ได้มีเจตนาปลุกปั่น เชื่อว่าศาลจะว่ากล่าวตักเตือน และเพิ่มเงื่อนไขการประกันตัวมากกว่าที่จะมีคำสั่งถอนประกันตัว เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความพร้อมในเรื่องสุขภาพร่างกาย และมีเหตุที่จะขอเลื่อนฟังคำสั่งไปอีกครั้งหรือไม่ นายยศวริศ กล่าวว่า ตนมีความพร้อมในเรื่องของร่างกาย และไม่ขอเลื่อนฟังคำสั่งแล้ว เพราะศาลก็คงไม่อนุญาตให้เลื่อนอีกแล้ว
เมื่อถามว่าหากผลคำสั่งศาลออกมาในทางลบ จะยอมรับหรือไม่ นายเจ๋ง กล่าวว่า พร้อมน้อมรับ เมื่อถามว่าจะมีจำเลยที่เป็นส.ส. และมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เดินทางมาร่วมฟัง และให้กำลังใจด้วยหรือไม่ นายยศวริศ กล่าวว่า จำเลยในคดีส่วนมากจะมาร่วมฟังแน่นอน รวมถึงจำเลยที่เป็น ส.ส.ด้วย และคาดการณ์ว่าในวันนี้แนวร่วม นปช. น่าจะเดินทางมาศาลเยอะกว่าในวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะเป็นวันนัดฟังคำสั่งว่าจะถอนประกันหรือไม่
**"เต้น"วอนขอเมตตาจากศาล
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติตัวที่ศาลกับกลุ่มนปช.แล้ว และอยากให้ทุกคนยึดแนวปฏิบัติเดิม มั่นใจว่าศาลจะให้ความเมตตา แต่ศาลจะมีหลักปฏิบัติอะไรเพิ่มเติม ต้องรอคำวินิจฉัยต่อไป ส่วนจะเป็นผลบวก หรือลบ ก็น้อมรับคำวินิจฉัย และไม่มีเงื่อนไขอื่นๆ
ส่วนที่ศาลยังติดใจ กรณีนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำนปช. กรณีขึ้นเวทีประกาศ เบอร์โทรศัพท์ ของครอบครัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการชี้แจงเพิ่มเติม โดยได้เตรียมข้อมูลไว้แล้วรวมทั้งคลิปวีดีโอ ที่ประกาศบนเวทีห้ามปรามประชาชนว่า อย่าได้ไปกดดันศาลรัฐธรรมนูญ และ จากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ไปต้องใช้ความระมัดระวังในคำพูดที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น โดยเฉพาะแกนนำนปช. เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง และยังอยู่ในความขัดแย้ง แต่ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการสั่งฆ่าประชาชน ที่ขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า และดำเนินคดีใดๆ ถึงแม้จะมีการเรียกทั้งสองคน เข้าไปให้ปากคำในฐานะพยาน รวมถึงที่ทั้งสองคนได้ประกาศเสมอว่า พร้อมชี้แจง แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
**"กี้ร์" ขู่ อยากปรองดอง อย่าถอนประกัน
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาแกนนำ นปช. มีการพูดคุยกับองค์คณะผู้พิพากษา เพื่อร้องขอความเมตตา เพราะการขึ้นปราศรัยนั้น อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องของวุฒิภาวะทางอารมณ์ หากศาลพิจารณาแล้ว มีการลงโทษตักเตือนแกนนำกลุ่ม นปช. และไม่ได้มีคำสั่งถอนประกัน ตนก็คิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี นำไปสู่ความปรองดอง แสดงให้เห็นว่า ศาลมีอิสระ และใช้ดุลพินิจในการพิจารณา
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า ศาลจะถอนประกันตัวแกนนำนปช. ทั้ง19 คนหรือไม่ นั้น ส่วนตัวไม่มีอะไรต้องกังวล มั่นใจว่าแกนนำเสื้อแดงจะไปฟังคำพิพากษาหมด ไม่มีใครเดินทางออกนอกประเทศ
" คนที่ตื่นเต้น มีเพียงนายยศวริศ ก็ขอให้แพ็กกระเป๋าติดไปด้วยก็ดี ไม่ต้องห่วง ติดคุกยังมีวันออก ผมติดคุก 9 เดือน พอออกมา ก็มาอยู่กับลูกกับเมีย แต่พวกที่ไปกัมพูชา ลาว ฮ่องกง ยุโรป กว่าจะได้กลับมา ลำบาก หากนายยศวริศ ถูกดำเนินคดีจริง ก็อยากให้ไปอยู่เรือนจำบางเขน เพราะมีแต่คนเสื้อแดงทั้งนั้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย"
เมื่อถามถึงปฏิกิริยาคนเสื้อแดงต่อผลคำตัดสิน นายก่อแก้ว กล่าวว่า ไม่ต้องกลัว คงไม่มีความวุ่นวาย คนเสื้อแดงคุยง่าย แต่ในแง่ความรู้สึกอาจมีกันบ้าง แต่แกนนำที่เดินทางไป จะช่วยดูแลให้เกิดความสงบ ไม่มีอะไรต้องกังวล
** ชี้ "เจ๋ง ดอกจิก" ทำผิดซ้ำซาก
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังเดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลอาญา ว่า ตนได้นำแผ่นวีซีดีการปราศัยของนายยศวริศ ที่ปราศัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ 5 ครั้งมาเพื่อยื่นให้ศาลตรวจสอบ เพื่อชี้ให้เห็นว่า นายยศวริศ มีพฤติกรรมการปราศรัยซ้ำซาก ในการโจมตีองค์กรต่างๆ ซึ่งผิดเงื่อนไขการประกันตัว ส่วนศาลจะถอนประกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ แต่ตนมั่นใจในพยานหลักฐานของตนมาก ส่วนที่มีข่าวว่านายยศวริศ จะนำพยานบุคคลมาเบิกความด้วยนั้น ตนก็จะขออนุญาตต่อศาลใช้สิทธิซักถามด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาได้เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย โดยเตรียมนำแผงเหล็กประมาณ 100 แผง มากั้นบริเวณทางเดินเข้าสู่ศาล ซึ่งในการฟังคำสั่งครั้งนี้ ศาลยังคงมีมาตราการข้อกำหนด 4 ข้อเหมือนเดิมคือ
1. ห้ามประพฤติตนในทางไม่สงบเรียบร้อย หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญ 2. ห้ามส่งเสริมยั่วยุการกระทำดังกล่าว 3. ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงรบกวนการพิจารณา 4. ห้ามกีดขวางทางเข้าออก วางขายสินค้าในบริเวณศาล และได้มีการประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.น. 2 กองปรามปราม และสน.พหลโยธินรวม 3 กองร้อย จำนวน 450 นาย เพื่อมาดูแลรักษาความปลอดภัยเพราะคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงจำนวนมาก เดินทางให้กำลังแกนนำ นปช. แต่ไม่อนุญาตเข้ามาอยู่ภายในเขตรั้วศาลอาญาได้
** ระดมตร.650นายคุมเข้ม
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการรับมือการชุมนุมของกลุ่ม นปช. บริเวณหน้าศาลอาญา รัชดา เพื่อมารับฟังผลการพิจารณาของศาลฯ ในวันนี้ ว่า ได้มีการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆ พร้อมกับหารือ และกำชับกับไปทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ดำเนินการจัดกำลังเพื่อดูแลความปลอดภัยแล้ว โดยเบื้องต้น จะใช้กำลังประมาณ 650 นาย ดูแลบริเวณโดยรอบศาลอาญา แต่คิดว่าสถานการณ์ไม่น่าจะมีอะไร ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมนั้น คาดว่าจะมีจำนวนน้อยกว่าการชุมนุมหน้าศาลอาญาครั้งที่ผ่านมา สำหรับเรื่องของมือที่ 3 นั้น ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น มั่นใจว่าสถานการณ์จะสงบเรียบร้อย
นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึง กรณีที่ศาลนัดสอบถาม นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ผู้ช่วยเลขานุการ รมว. มหาดไทย กับพวกแกนนำนปช. จำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย รวม 19 คนกระทำผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว กรณี ปราศรัยโจมตีข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันนี้ (22ส.ค.) ว่า ในส่วนของจำเลย 18 คน นั้นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้สอบถามจำเลยเสร็จแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนในฐานะอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ได้ร่วมให้คำปรึกษากับผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน จนได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว โดยองค์คณะได้ยกร่างคำสั่ง และเหตุผลมาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงนำมาปรึกษาและปรับเหตุผล และอยู่ระหว่างนำกลับไปเรียบเรียง เพื่อเขียนคำสั่งที่จะเตรียมอ่านในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เชื่อว่าจะเสร็จสิ้น ส่วนคำวินิจฉัยของศาล จะชี้ขาดคำร้องเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยอย่างไร ไม่สามารถบอกได้ ซึ่งมีหลายแนวทางเหมือนที่เคยบอกไปแล้ว
** ยึดข้อเท็จจริงเป็นหลักพิจารณา
นายทวี กล่าวว่า เมื่อศาลมีคำสั่งชี้ขาดคำร้องเพิกถอนปล่อยชั่วคราวจำเลยแล้ว ศาลก็จะอธิบายเหตุผลไว้ในคำสั่ง ซึ่งองค์คณะผู้พิพากษา และผู้บริหารศาลอาญาได้ประชุมปรึกษากันอย่างรอบคอบ โดยเอาเหตุผลข้อเท็จจริงที่ปรากฏในสำนวน ประกอบกับหลักข้อกฎหมาย ไม่มีการนำเอาความคิด หรือข้อเท็จจริงนอกสำนวนมาเกี่ยวข้อง ซึ่งหลักฐานในสำนวนมีทั้งภาพ และเสียงจากแผ่นวีซีดี คำถอดเทปการปราศรัย ว่ากันไปตามข้อกฎหมาย
อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวต่อว่า นายยศวริศ ได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานบุคคล จำนวน 2-3 ปาก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้ง นายจรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช มาแถลงเป็นพยาน ซึ่งเป็นดุลพินิจขององค์คณะผู้พิพากษาว่า จะอนุญาตหรือไม่ ในช่วงเช้าวันที่ 22 ส.ค. องค์คณะผู้พิพากษาคงจะปรึกษาตนอีกครั้ง ว่า จะออกหมายเรียกหรือไม่ เพราะมีเงื่อนไขใหม่เข้ามา
**ขอให้สอบพยานเพิ่มหวังประวิงเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานก่อนนัดสอบถามเพียงวันเดียว แสดงว่า มีเจตนาประวิงเวลาเพื่อให้เลื่อนฟังคำสั่งออกไปหรือไม่ นายทวี กล่าวว่า เป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ แต่อยู่ที่องค์คณะจะพิจารณามีความเห็นว่าอย่างไร เมื่อจำเลยมีเวลายื่นคำร้องหลายวัน กลับมายื่นคำร้องวันนี้ เพราะกระบวนการส่งหมายเรียกบุคคลภายนอก ที่จำเลยนำมาศาลไม่ได้ให้มาเป็นพยานนั้น ไม่สามารถส่งหมายได้ภายในวันเดียว เป็นดุลพินิจอิสระขององค์คณะที่จะพิจารณาพฤติการณ์ ว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวการเผยแพร่เสียงในห้องพิจารณาคดี ไปยังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม (เคเบิลทีวี) บางช่องหรือไม่ นายทวี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการกระทำดังกล่าว การกระจายเสียงศาลอนุญาตเพียงกระจายเสียงผ่านลำโพง ให้ผู้ฟังด้านนอกห้องพิจารณาคดีเท่านั้น หากมีการเชื่อมต่อไปออกทางสถานีโทรทัศน์ หรือเคเบิลช่องต่างๆ อาจเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล
**"เจ๋ง"ยังหวังให้ศาลแค่ตักเตือน
นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋งดอกจิก แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) จำเลยคดีก่อการร้าย กล่าวถึง กรณีศาลอาญานัดฟังคำสั่งเพิกถอนประกันตัว 19 แกนนำ นปช. ในวันนี้ (22 ส.ค.) ว่า ทีมทนายความของ ตนได้เตรียมพยานบุคคล เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมพื้นที่การชุมนุมหน้ารัฐสภา และได้ฟังคำปราศัยของตนมาแถลงเป็นพยานต่อศาล รวมทั้งหลักฐานแผ่นวีซีดี พร้อมเอกสารถอดเทปคำปราศรัย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. มายื่นต่อศาล เชื่อว่าศาลอาญาจะมีความยุติธรรม และเมตตาอีกครั้ง เพราะตนแสดงความคิดเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นศาลการเมือง ไม่ใช่ศาลยุติธรรม และที่ตนปราศรัยนั้น ก็ไม่ได้มีเจตนาปลุกปั่น เชื่อว่าศาลจะว่ากล่าวตักเตือน และเพิ่มเงื่อนไขการประกันตัวมากกว่าที่จะมีคำสั่งถอนประกันตัว เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความพร้อมในเรื่องสุขภาพร่างกาย และมีเหตุที่จะขอเลื่อนฟังคำสั่งไปอีกครั้งหรือไม่ นายยศวริศ กล่าวว่า ตนมีความพร้อมในเรื่องของร่างกาย และไม่ขอเลื่อนฟังคำสั่งแล้ว เพราะศาลก็คงไม่อนุญาตให้เลื่อนอีกแล้ว
เมื่อถามว่าหากผลคำสั่งศาลออกมาในทางลบ จะยอมรับหรือไม่ นายเจ๋ง กล่าวว่า พร้อมน้อมรับ เมื่อถามว่าจะมีจำเลยที่เป็นส.ส. และมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เดินทางมาร่วมฟัง และให้กำลังใจด้วยหรือไม่ นายยศวริศ กล่าวว่า จำเลยในคดีส่วนมากจะมาร่วมฟังแน่นอน รวมถึงจำเลยที่เป็น ส.ส.ด้วย และคาดการณ์ว่าในวันนี้แนวร่วม นปช. น่าจะเดินทางมาศาลเยอะกว่าในวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เพราะเป็นวันนัดฟังคำสั่งว่าจะถอนประกันหรือไม่
**"เต้น"วอนขอเมตตาจากศาล
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติตัวที่ศาลกับกลุ่มนปช.แล้ว และอยากให้ทุกคนยึดแนวปฏิบัติเดิม มั่นใจว่าศาลจะให้ความเมตตา แต่ศาลจะมีหลักปฏิบัติอะไรเพิ่มเติม ต้องรอคำวินิจฉัยต่อไป ส่วนจะเป็นผลบวก หรือลบ ก็น้อมรับคำวินิจฉัย และไม่มีเงื่อนไขอื่นๆ
ส่วนที่ศาลยังติดใจ กรณีนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำนปช. กรณีขึ้นเวทีประกาศ เบอร์โทรศัพท์ ของครอบครัวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการชี้แจงเพิ่มเติม โดยได้เตรียมข้อมูลไว้แล้วรวมทั้งคลิปวีดีโอ ที่ประกาศบนเวทีห้ามปรามประชาชนว่า อย่าได้ไปกดดันศาลรัฐธรรมนูญ และ จากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ไปต้องใช้ความระมัดระวังในคำพูดที่ละเอียดอ่อนมากขึ้น โดยเฉพาะแกนนำนปช. เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองยังไม่นิ่ง และยังอยู่ในความขัดแย้ง แต่ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บงการสั่งฆ่าประชาชน ที่ขณะนี้คดียังไม่คืบหน้า และดำเนินคดีใดๆ ถึงแม้จะมีการเรียกทั้งสองคน เข้าไปให้ปากคำในฐานะพยาน รวมถึงที่ทั้งสองคนได้ประกาศเสมอว่า พร้อมชี้แจง แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
**"กี้ร์" ขู่ อยากปรองดอง อย่าถอนประกัน
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาแกนนำ นปช. มีการพูดคุยกับองค์คณะผู้พิพากษา เพื่อร้องขอความเมตตา เพราะการขึ้นปราศรัยนั้น อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องของวุฒิภาวะทางอารมณ์ หากศาลพิจารณาแล้ว มีการลงโทษตักเตือนแกนนำกลุ่ม นปช. และไม่ได้มีคำสั่งถอนประกัน ตนก็คิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี นำไปสู่ความปรองดอง แสดงให้เห็นว่า ศาลมีอิสระ และใช้ดุลพินิจในการพิจารณา
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กล่าวว่า ศาลจะถอนประกันตัวแกนนำนปช. ทั้ง19 คนหรือไม่ นั้น ส่วนตัวไม่มีอะไรต้องกังวล มั่นใจว่าแกนนำเสื้อแดงจะไปฟังคำพิพากษาหมด ไม่มีใครเดินทางออกนอกประเทศ
" คนที่ตื่นเต้น มีเพียงนายยศวริศ ก็ขอให้แพ็กกระเป๋าติดไปด้วยก็ดี ไม่ต้องห่วง ติดคุกยังมีวันออก ผมติดคุก 9 เดือน พอออกมา ก็มาอยู่กับลูกกับเมีย แต่พวกที่ไปกัมพูชา ลาว ฮ่องกง ยุโรป กว่าจะได้กลับมา ลำบาก หากนายยศวริศ ถูกดำเนินคดีจริง ก็อยากให้ไปอยู่เรือนจำบางเขน เพราะมีแต่คนเสื้อแดงทั้งนั้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย"
เมื่อถามถึงปฏิกิริยาคนเสื้อแดงต่อผลคำตัดสิน นายก่อแก้ว กล่าวว่า ไม่ต้องกลัว คงไม่มีความวุ่นวาย คนเสื้อแดงคุยง่าย แต่ในแง่ความรู้สึกอาจมีกันบ้าง แต่แกนนำที่เดินทางไป จะช่วยดูแลให้เกิดความสงบ ไม่มีอะไรต้องกังวล
** ชี้ "เจ๋ง ดอกจิก" ทำผิดซ้ำซาก
ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังเดินทางมายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลอาญา ว่า ตนได้นำแผ่นวีซีดีการปราศัยของนายยศวริศ ที่ปราศัยโจมตีศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ 5 ครั้งมาเพื่อยื่นให้ศาลตรวจสอบ เพื่อชี้ให้เห็นว่า นายยศวริศ มีพฤติกรรมการปราศรัยซ้ำซาก ในการโจมตีองค์กรต่างๆ ซึ่งผิดเงื่อนไขการประกันตัว ส่วนศาลจะถอนประกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ แต่ตนมั่นใจในพยานหลักฐานของตนมาก ส่วนที่มีข่าวว่านายยศวริศ จะนำพยานบุคคลมาเบิกความด้วยนั้น ตนก็จะขออนุญาตต่อศาลใช้สิทธิซักถามด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาได้เตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย โดยเตรียมนำแผงเหล็กประมาณ 100 แผง มากั้นบริเวณทางเดินเข้าสู่ศาล ซึ่งในการฟังคำสั่งครั้งนี้ ศาลยังคงมีมาตราการข้อกำหนด 4 ข้อเหมือนเดิมคือ
1. ห้ามประพฤติตนในทางไม่สงบเรียบร้อย หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญ 2. ห้ามส่งเสริมยั่วยุการกระทำดังกล่าว 3. ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงรบกวนการพิจารณา 4. ห้ามกีดขวางทางเข้าออก วางขายสินค้าในบริเวณศาล และได้มีการประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.น. 2 กองปรามปราม และสน.พหลโยธินรวม 3 กองร้อย จำนวน 450 นาย เพื่อมาดูแลรักษาความปลอดภัยเพราะคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงจำนวนมาก เดินทางให้กำลังแกนนำ นปช. แต่ไม่อนุญาตเข้ามาอยู่ภายในเขตรั้วศาลอาญาได้
** ระดมตร.650นายคุมเข้ม
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการรับมือการชุมนุมของกลุ่ม นปช. บริเวณหน้าศาลอาญา รัชดา เพื่อมารับฟังผลการพิจารณาของศาลฯ ในวันนี้ ว่า ได้มีการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ต่างๆ พร้อมกับหารือ และกำชับกับไปทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้ดำเนินการจัดกำลังเพื่อดูแลความปลอดภัยแล้ว โดยเบื้องต้น จะใช้กำลังประมาณ 650 นาย ดูแลบริเวณโดยรอบศาลอาญา แต่คิดว่าสถานการณ์ไม่น่าจะมีอะไร ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมนั้น คาดว่าจะมีจำนวนน้อยกว่าการชุมนุมหน้าศาลอาญาครั้งที่ผ่านมา สำหรับเรื่องของมือที่ 3 นั้น ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น มั่นใจว่าสถานการณ์จะสงบเรียบร้อย