ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-โจรใต้เหิมเกริมหนัก ไม่หวั่นอำนาจรัฐบาล "ปู" บุกโชว์รูมรถยนต์ปัตตานีฮอนด้าฯ ใช้ปืนจี้หัว รปภ. ทุบกระจกสำนักงาน ใช้น้ำมันเบนซินราดเผารถยนต์ป้ายแดง 15 คัน เสียหายกว่า 20 ล้าน ผู้จัดการโชว์รูมเผยโดนเผารอบสอง ด้าน ผบก.ปัตตานี สั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดล่าคนร้าย เชื้อเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการทำลายเศรษฐกิจ ระบุฝีมือแนวร่วมในพื้นที่ "ยุทธศักดิ์" ชี้ผู้ก่อความไม่สงบเล็งเปลี่ยนเป้าหมาย
เมื่อเวลา 02.30 น.วานนี้ (22 ส.ค.) ร.ต.ท.กฤษณพงษ์ กุษา ร้อยเวร.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุวางเพลิงที่บริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด (ศูนย์รถยนต์ฮอนด้า) ตั้งอยู่ริมถนนสาย 42 ปากทางจะเจ้าเมืองปัตตานี เลขที่ 295 ม.7 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยรถดับเพลิงของอำเภอหนองจิก ประมาณ 3 คันเข้าไปอำนวยการดับเพลิง
ที่เกิดเหตุ พบว่าไฟไหม้บริเวณลานจอดรถยนต์ฮอนด้า โดยไฟได้โหมไหม้รถที่จอดอยู่ในโชว์รูม 17 คัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามควบคุมเพลิงไว้ แต่เนื่องจากรถยนต์เป็นเชื้อไฟอย่างดี จนกระทั่งประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ไฟได้ไหม้รถป้ายแดงเสียหายหมดทั้งคัน 15 คัน ประกอบด่วยรุ่น แจซ 3 คัน รุ่นซีวิค 6 คัน, รุ่นซีตี้ 3 คัน, รุ่น แอคคอร์ด 1 คัน, รุ่น 7 ที่นั่งฟีด 1 คัน และรุ่น 7 ที่นั่งสเต๊รป 1 คัน และไฟได้ไหม้ รถจักรยานยนต์เสียหายทั้งคันรวม 2 คัน นอกจากนั้น ใกล้กับรถที่ถูกเผา 15 คัน คนร้ายได้งัดขโมยเครื่องเสียงรถยนต์กะบะยี่ห้ออีซูซุ แค็บ สีแดง ทะเบียน กง 5000 สงขลา และรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน กค.9359 ปัตตานี และยังมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเจส สีน้ำตาล และรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นบรีโอ ซึ่งจอดอยู่ตรงข้ามถูกความร้อนของเปลวเหลิง ทำให้ขอบประตูเสียหาย
**ผบก.ปัตตานีรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ต่อมาเวลา 08.00 น.พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษรฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา รอง ผบก. พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผกก.สภ.หนองจิก พร้อมด้วยหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.ปัตตานี, เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ พบฝา แกลลอนขนาด 5 ลิตรตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ 1 ฝา และพบรอยรองเท้าของคนร้ายที่พยายามจะปีนเข้าไปในอาคารซ่อมแต่เข้าไปไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บลายนิ้วมือ และหลักฐานอื่นๆ รวบรวมเพื่อส่งพิสูจน์ต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า เป็นบริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด (ศูนย์จำหน่ายและซ่อมรถยนต์ฮอนด้า) สาขาปัตตานี เป็นเครือข่ายของตระกูล "สุวรรณมงคล" เจ้าของโรงแรม ซี เอส ปัตตานี ซึ่งมีนายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว โดยมีนางสาวมยุรี สงแก้ว เป็นผู้จัดการทั่วไปคอยดูแล และก่อนหน้านี้ได้ถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์โรงแรม ซี เอส ปัตตานีได้รับความเสียหายไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค.
**รถยนต์ถูกเผา 15 คัน-สูญ 2 0ล้าน
ก่อนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ รปภ.เฝ้าศูนย์ฮอนด้า 3 คน คือ นายอาทิตย์ แวดาแม อายุ 27 ปี, นายรอนิง มะเซ็ง อายุ 40 ปี, นายประดิษฐ์ ศรีละภา อายุ 35 ปี ขณะที่กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ได้มีคนร้ายกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือใช้รถยนต์ปิกอัพไม่ทราบชนิด ได้กระโดดเข้ามประตูเหล็กด้านข้างเข้ามากระจายโอบล้อมอาคาร โดยคนร้าย 3 คน ได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ทั้ง 3 คนหมอบกับพื้น ส่วนอีก 2 คนได้ใช้น้ำมันเบนซินราดรถยนต์ป้ายแดง ซึ่งเป็นรถทดลองขับ 4 คัน
นอกนั้นเป็นรถป้ายแดงที่พึ่งส่งมาถึง เตรียมที่จะล้างเพื่อมอบให้กับลูกค้าในวันที่ 22 ส.ค.นี้ และจอดอยู่นอกอาคารโชว์รูมด้านหลัง ซึ่งเป็นอาคารโล่ง ไม่มีประตู ได้ถูกคนร้ายจุดไฟเผา และคนร้ายส่วนหนึ่งพยายามจะปีนเข้าภายในอาคารที่เป็นโชว์รูมและศูนย์ซ่อม ที่มีรถยนต์ป้ายแดงและรถที่นำมาซ่อมรวมเกือบ 40 กว่าคัน แต่ประตูปิดไม่สามารถเข้าได้ โดยคนร้ายใช้เวลาในการปฏิบัติการเพียง 5 นาที จึงหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ รปภ. จึงได้แจ้งตำรวจ
ทั้งนี้ สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้มีจำนวน 15 คันทั้งหมดเป็นรถใหม่ป้ายแดง โดยเป็นของลูกค้า 1 คัน รถเตรียมส่งมอบให้ลูกค้าอีก 10 คัน และเป็นรถทดลองขับ 4 คัน มุลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนสาเหตุ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่พยายามทำลายเศรษฐกิจปัตตานีที่รถยนต์กำลังเดิบโต
**สั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดล่าคนร้าย
พล.ต.ต.พิเชษฐ์กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นชุดแนวร่วมในพื้นที่และบางส่วนต่างพื้นที่ มีการวางแผนมาก่อน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน มีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตลอดเวลา แต่คนร้ายฉวยจังหวะเจ้าหน้าที่ขับผ่าน และใช้จังหวะกลางดึกบุกเข้าไปด้านในและล็อกตัว รปภ.ไว้ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังกระจายเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นแล้ว เนื่องจากกลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะยังคงอยู่ในพื้นที่ และได้ให้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดว่าคนร้ายเป็นใคร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่พอมีข้อมูลบางแล้ว รอให้มีการตรวจสอบพยานต่างๆ ก่อน ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการทำลายฐานเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้กำชับให้เพิ่มมาตราการณ์ดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาเวลา 03.00 น.วันเดียวกัน คนร้ายได้ลอบวางเพลิงเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เอไอเอส ตั้งอยู่ที่ ม.5 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ฮอนด้าประมาณ 2 กม.ได้รับความเสียหายใช่การไม่ได้
**เผยโชว์รูมนี้ถูกลอบวางเพลิงเป็นครั้งที่2
น.ส.มายุรี ส่งแก้ว ผู้จัดการบริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด กล่าวว่า การลอบวางเพลิงนั้นครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ได้ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงมาแล้วเมื่อปี 2550 ซึ่งขณะนั้นคนร้ายเข้ามาวางเพลิงด้านในของบริษัท หรือโชว์รูม แต่ครั้งนี้คนร้ายได้วางเพลิงรถยนต์ที่จอดภายในโรงเก็บรถเพื่อเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้า เพราะบางคันเป็นรถที่กำลังปรับแต่งเพิ่มเติมให้กับลูกค้า ส่วนความเสียหายทางบริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และรวบรวมความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากบริษัทได้มีการทำประกันอัคคีภัย
***ปัดโดนเรียกค่าคุ้มครอง 20 ล้าน
นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี เจ้าของบริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด และโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการเรียกค่าคุ้มครองกว่า 20 ล้านบาท ก่อนที่จะเกิดระเบิดคาร์บอมบ์หลังโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี และล่าสุดบุกเข้าวางเพลิงเผาโชว์รูมรถยนต์ว่า ขอปฏิเสธและไม่ทราบรายละเอียดว่าใครมีการต่อรองอะไรกับใคร ปล่อยให้เป็นการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่
**"ยุทธศักดิ์"ชี้โจรใต้เปลี่ยนเป้าหมาย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์บุกเผาโชว์รูมรถยนต์ว่า เป็นการจงใจก่อเหตุโดยผู้ก่อความไม่สงบที่เห็นว่าไม่สามารถก่อเหตุในสถานที่ที่เป็นหน่วยงานราชการได้ จึงเลือกก่อเหตุรุนแรงกับเป้าหมายใดก็ตามที่อ่อนแอ ไม่มีการเฝ้าระวัง ดังนั้น ภาคเอกชนหรือประชาชนทั่วไป สามารถตกเป็นเป้าหมายได้ เพื่อสร้างสถานการณ์ความรุนแรงและทำลายธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องลงไปแก้ปัญหา ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นการที่ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนยุทธวิธีหรือเปลี่ยนเป้าหมายแต่อย่างใด ตนเคยระบุแล้วว่าทหารและตำรวจต้องเพิ่มความเข้มงวดและความเอาใจใส่ดูแลพื้นที่เขตเมือง 7 เขต โดยวันที่ 23 ส.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ตนจะเรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) เฉพาะด้านการข่าวและหน่วยปฏิบัติ ซึ่งจะหารือกันถึงเหตุการณ์นี้ด้วย
เมื่อถามถึงการติดตามจับกุมแกนนำผู้ก่อความไม่สงบ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งระดับปฏิบัติและระดับกลางได้แล้ว และกำลังจะไปถึงระดับแกนนำ ต่างจากที่ผ่านมา ที่เป็นการไปมุ่งไล่จับกุมผู้ก่อเหตุระดับล่างเท่านั้น เมื่อถึงเวลา เราจะมีการนำตัวผู้ก่อเหตุที่เป็นระดับแกนนำมาเปิดเผยต่อไป ส่วนการที่มีผู้ก่อความไม่สงบติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐนั้น มีประมาณ 40 คนที่ติดต่อเข้ามาแล้ว แต่มีการร้องขอข้อละเว้นบางอย่างก่อนจะมามอบตัว ซึ่งเราจะต้องพิจารณาตามกฎหมายด้วย โดยยังไม่สามารถเปิดเผยคำขอดังกล่าวได้
เมื่อเวลา 02.30 น.วานนี้ (22 ส.ค.) ร.ต.ท.กฤษณพงษ์ กุษา ร้อยเวร.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุวางเพลิงที่บริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด (ศูนย์รถยนต์ฮอนด้า) ตั้งอยู่ริมถนนสาย 42 ปากทางจะเจ้าเมืองปัตตานี เลขที่ 295 ม.7 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยรถดับเพลิงของอำเภอหนองจิก ประมาณ 3 คันเข้าไปอำนวยการดับเพลิง
ที่เกิดเหตุ พบว่าไฟไหม้บริเวณลานจอดรถยนต์ฮอนด้า โดยไฟได้โหมไหม้รถที่จอดอยู่ในโชว์รูม 17 คัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามควบคุมเพลิงไว้ แต่เนื่องจากรถยนต์เป็นเชื้อไฟอย่างดี จนกระทั่งประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ไฟได้ไหม้รถป้ายแดงเสียหายหมดทั้งคัน 15 คัน ประกอบด่วยรุ่น แจซ 3 คัน รุ่นซีวิค 6 คัน, รุ่นซีตี้ 3 คัน, รุ่น แอคคอร์ด 1 คัน, รุ่น 7 ที่นั่งฟีด 1 คัน และรุ่น 7 ที่นั่งสเต๊รป 1 คัน และไฟได้ไหม้ รถจักรยานยนต์เสียหายทั้งคันรวม 2 คัน นอกจากนั้น ใกล้กับรถที่ถูกเผา 15 คัน คนร้ายได้งัดขโมยเครื่องเสียงรถยนต์กะบะยี่ห้ออีซูซุ แค็บ สีแดง ทะเบียน กง 5000 สงขลา และรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีดำ ทะเบียน กค.9359 ปัตตานี และยังมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเจส สีน้ำตาล และรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นบรีโอ ซึ่งจอดอยู่ตรงข้ามถูกความร้อนของเปลวเหลิง ทำให้ขอบประตูเสียหาย
**ผบก.ปัตตานีรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ต่อมาเวลา 08.00 น.พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษรฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ วังสุภา รอง ผบก. พ.ต.อ.อาคม บัวทอง ผกก.สภ.หนองจิก พร้อมด้วยหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.ปัตตานี, เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานปัตตานี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ พบฝา แกลลอนขนาด 5 ลิตรตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ 1 ฝา และพบรอยรองเท้าของคนร้ายที่พยายามจะปีนเข้าไปในอาคารซ่อมแต่เข้าไปไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บลายนิ้วมือ และหลักฐานอื่นๆ รวบรวมเพื่อส่งพิสูจน์ต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า เป็นบริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด (ศูนย์จำหน่ายและซ่อมรถยนต์ฮอนด้า) สาขาปัตตานี เป็นเครือข่ายของตระกูล "สุวรรณมงคล" เจ้าของโรงแรม ซี เอส ปัตตานี ซึ่งมีนายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว โดยมีนางสาวมยุรี สงแก้ว เป็นผู้จัดการทั่วไปคอยดูแล และก่อนหน้านี้ได้ถูกกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์โรงแรม ซี เอส ปัตตานีได้รับความเสียหายไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค.
**รถยนต์ถูกเผา 15 คัน-สูญ 2 0ล้าน
ก่อนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ รปภ.เฝ้าศูนย์ฮอนด้า 3 คน คือ นายอาทิตย์ แวดาแม อายุ 27 ปี, นายรอนิง มะเซ็ง อายุ 40 ปี, นายประดิษฐ์ ศรีละภา อายุ 35 ปี ขณะที่กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ได้มีคนร้ายกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนยาวครบมือใช้รถยนต์ปิกอัพไม่ทราบชนิด ได้กระโดดเข้ามประตูเหล็กด้านข้างเข้ามากระจายโอบล้อมอาคาร โดยคนร้าย 3 คน ได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ทั้ง 3 คนหมอบกับพื้น ส่วนอีก 2 คนได้ใช้น้ำมันเบนซินราดรถยนต์ป้ายแดง ซึ่งเป็นรถทดลองขับ 4 คัน
นอกนั้นเป็นรถป้ายแดงที่พึ่งส่งมาถึง เตรียมที่จะล้างเพื่อมอบให้กับลูกค้าในวันที่ 22 ส.ค.นี้ และจอดอยู่นอกอาคารโชว์รูมด้านหลัง ซึ่งเป็นอาคารโล่ง ไม่มีประตู ได้ถูกคนร้ายจุดไฟเผา และคนร้ายส่วนหนึ่งพยายามจะปีนเข้าภายในอาคารที่เป็นโชว์รูมและศูนย์ซ่อม ที่มีรถยนต์ป้ายแดงและรถที่นำมาซ่อมรวมเกือบ 40 กว่าคัน แต่ประตูปิดไม่สามารถเข้าได้ โดยคนร้ายใช้เวลาในการปฏิบัติการเพียง 5 นาที จึงหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ รปภ. จึงได้แจ้งตำรวจ
ทั้งนี้ สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้มีจำนวน 15 คันทั้งหมดเป็นรถใหม่ป้ายแดง โดยเป็นของลูกค้า 1 คัน รถเตรียมส่งมอบให้ลูกค้าอีก 10 คัน และเป็นรถทดลองขับ 4 คัน มุลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนสาเหตุ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่พยายามทำลายเศรษฐกิจปัตตานีที่รถยนต์กำลังเดิบโต
**สั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดล่าคนร้าย
พล.ต.ต.พิเชษฐ์กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นชุดแนวร่วมในพื้นที่และบางส่วนต่างพื้นที่ มีการวางแผนมาก่อน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน มีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตลอดเวลา แต่คนร้ายฉวยจังหวะเจ้าหน้าที่ขับผ่าน และใช้จังหวะกลางดึกบุกเข้าไปด้านในและล็อกตัว รปภ.ไว้ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังกระจายเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นแล้ว เนื่องจากกลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะยังคงอยู่ในพื้นที่ และได้ให้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดว่าคนร้ายเป็นใคร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่พอมีข้อมูลบางแล้ว รอให้มีการตรวจสอบพยานต่างๆ ก่อน ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการทำลายฐานเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้กำชับให้เพิ่มมาตราการณ์ดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาเวลา 03.00 น.วันเดียวกัน คนร้ายได้ลอบวางเพลิงเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เอไอเอส ตั้งอยู่ที่ ม.5 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ฮอนด้าประมาณ 2 กม.ได้รับความเสียหายใช่การไม่ได้
**เผยโชว์รูมนี้ถูกลอบวางเพลิงเป็นครั้งที่2
น.ส.มายุรี ส่งแก้ว ผู้จัดการบริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด กล่าวว่า การลอบวางเพลิงนั้นครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากก่อนหน้านี้ได้ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงมาแล้วเมื่อปี 2550 ซึ่งขณะนั้นคนร้ายเข้ามาวางเพลิงด้านในของบริษัท หรือโชว์รูม แต่ครั้งนี้คนร้ายได้วางเพลิงรถยนต์ที่จอดภายในโรงเก็บรถเพื่อเตรียมส่งมอบให้กับลูกค้า เพราะบางคันเป็นรถที่กำลังปรับแต่งเพิ่มเติมให้กับลูกค้า ส่วนความเสียหายทางบริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และรวบรวมความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากบริษัทได้มีการทำประกันอัคคีภัย
***ปัดโดนเรียกค่าคุ้มครอง 20 ล้าน
นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.ปัตตานี เจ้าของบริษัท ปัตตานีฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด และโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการเรียกค่าคุ้มครองกว่า 20 ล้านบาท ก่อนที่จะเกิดระเบิดคาร์บอมบ์หลังโรงแรม ซี.เอส. ปัตตานี และล่าสุดบุกเข้าวางเพลิงเผาโชว์รูมรถยนต์ว่า ขอปฏิเสธและไม่ทราบรายละเอียดว่าใครมีการต่อรองอะไรกับใคร ปล่อยให้เป็นการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่
**"ยุทธศักดิ์"ชี้โจรใต้เปลี่ยนเป้าหมาย
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์บุกเผาโชว์รูมรถยนต์ว่า เป็นการจงใจก่อเหตุโดยผู้ก่อความไม่สงบที่เห็นว่าไม่สามารถก่อเหตุในสถานที่ที่เป็นหน่วยงานราชการได้ จึงเลือกก่อเหตุรุนแรงกับเป้าหมายใดก็ตามที่อ่อนแอ ไม่มีการเฝ้าระวัง ดังนั้น ภาคเอกชนหรือประชาชนทั่วไป สามารถตกเป็นเป้าหมายได้ เพื่อสร้างสถานการณ์ความรุนแรงและทำลายธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องลงไปแก้ปัญหา ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นการที่ผู้ก่อเหตุเปลี่ยนยุทธวิธีหรือเปลี่ยนเป้าหมายแต่อย่างใด ตนเคยระบุแล้วว่าทหารและตำรวจต้องเพิ่มความเข้มงวดและความเอาใจใส่ดูแลพื้นที่เขตเมือง 7 เขต โดยวันที่ 23 ส.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ตนจะเรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.จชต.) เฉพาะด้านการข่าวและหน่วยปฏิบัติ ซึ่งจะหารือกันถึงเหตุการณ์นี้ด้วย
เมื่อถามถึงการติดตามจับกุมแกนนำผู้ก่อความไม่สงบ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งระดับปฏิบัติและระดับกลางได้แล้ว และกำลังจะไปถึงระดับแกนนำ ต่างจากที่ผ่านมา ที่เป็นการไปมุ่งไล่จับกุมผู้ก่อเหตุระดับล่างเท่านั้น เมื่อถึงเวลา เราจะมีการนำตัวผู้ก่อเหตุที่เป็นระดับแกนนำมาเปิดเผยต่อไป ส่วนการที่มีผู้ก่อความไม่สงบติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่รัฐนั้น มีประมาณ 40 คนที่ติดต่อเข้ามาแล้ว แต่มีการร้องขอข้อละเว้นบางอย่างก่อนจะมามอบตัว ซึ่งเราจะต้องพิจารณาตามกฎหมายด้วย โดยยังไม่สามารถเปิดเผยคำขอดังกล่าวได้