ปัตตานี - เกิดเหตุคนร้ายบุกบริษัทปัตตานีฮอนด้าคาร์ ทุบกระจกรถ และใช้น้ำมันเบนซินราดเผารถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 15 คัน เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการทำลายฐานเศรษฐกิจในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปัตตานี รายงานว่า วันนี้ (22 ส.ค.) เมื่อเวลา 02.30 น. เกิดเหตุคนร้ายกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนสงครามได้ปีนกำแพงบุกเข้าไปภายในบริษัทปัตตานีฮอนด้าคาร์ ซึ่งจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ เลขที่ 295 บ้านโคกม่วง ม.7 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยคนร้ายได้กระจายกำลังเข้าไปล็อกตัวเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จำนวน 3 คน พร้อมใช้อาวุธปืนจี้บังคับไม่ให้ขัดขืน ก่อนที่คนร้ายอีกชุดจะทุบกระจกรถ และใช้น้ำมันเบนซินราดไปยังรถยนต์ จำนวน 15 คัน ซึ่งจอดไว้ในโรงรถด้านหลัง แล้วจุดไฟเผารถยนต์ป้ายแดงได้รับความเสียหายทั้งหมด
หลังปฏิบัติการอุกอาจ กลุ่มคนร้ายได้ปีนกำแพงหนีไปทางด้านหลังอย่างลอยนวล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 10 คันระดมเข้ามาฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกไหม้กว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น. พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดระเบิดเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ปรากฏว่าเพลิงได้ลุกไหม้รถยนต์ป้ายแดงได้รับความเสียหายทั้งหมดจนเหลือแต่ซากเศษเหล็ก เหลือเพียง 1 คัน ที่รถถูกเผาทั้งคันเหลือแต่ป้ายแดง ทะเบียน ศ 9759 กทม. ยังสมบูรณ์
จากการตรวจสอบพบร่องรอยของคนร้ายหลายแห่ง และมีคราบน้ำมันเบนซิน โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บวัตถุพยานหลักฐานทั้งที่สามารถเก็บได้ และจากดีเอ็นเอเพื่อตรวจสอบ พร้อมกันนี้ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ริมถนน และของบริษัทที่เกิดเหตุ พบว่ากล้องสามารถจับภาพคนร้ายซึ่งมีประมาณกว่า 10 คน โดยทุกคนสวมหมวกไหมพรม พร้อมอาวุธปืนสงคราม และปืนสั้นปีนเข้ามาจากกำแพง ก่อนที่จะกระจายกำลังเข้าไปก่อเหตุ
สำหรับรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 15 คัน ทั้งหมดเป็นรถใหม่ป้ายแดง โดยเป็นของลูกค้า 1 คัน รถเตรียมส่งมอบให้ลูกค้าอีก 10 คัน และเป็นรถทดลองขับ 4 คัน
ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นชุดแนวร่วมในพื้นที่ และบางส่วนต่างพื้นที่ มีการวางแผนมาก่อน ซึ่งจุดที่เกิดเหตุอยู่ริมถนน มีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนตลอดเวลา แต่คนร้ายฉวยจังหวะเจ้าหน้าที่ขับผ่าน และใช้จังหวะกลางดึกบุกเข้าไปด้านใน และล็อกตัว รปภ.ไว้ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังกระจายเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นแล้ว เนื่องจากกลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะยังคงอยู่ในพื้นที่
นอกจากนั้น ให้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดว่าคนร้ายเป็นใคร ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่พอมีข้อมูลบ้างแล้ว รอให้มีการตรวจสอบพยานต่างๆ ก่อน ส่วนสาเหตุเชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อต้องการทำลายฐานเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ กำชับให้เพิ่มมาตราการดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรายหนึ่งที่ประสบเหตุ เล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 3 คน โดยจะแบ่งการดูแล 3 ด้าน คือด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง โดยคนร้ายสวมไอ้โม่งบุกเข้ามาใช้อาวุธปืนจี้ทั้ง 3 คน และให้หมอบกับพื้น และยังได้นำโทรศัพท์มือถือโยนทิ้งไปในป่า เพื่อไม่ให้มีการโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ คนร้ายปฏิบัติการอย่างอุกอาจโดยการทุบกระจกรถแล้วราดน้ำมันจุดไฟเผา ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไป จากนั้นตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ
ขณะที่เวลา 03.00 น. วันเดียวกัน คนร้ายได้ลอบวางเพลิงเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือเอไอเอส ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่ ม.5 ต.ดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เชื่อเป็นการป่วนสร้างสถานการณ์