xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“แดง” กัด “แดง” เปิดสนามถล่ม “สุชาติ” เดิมพันเก้าอี้ “เสมา1”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุชาติ ธาดาธำรงเวช
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ผลจากการจรดปากกาเซ็นต์ชื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา (สกศ.) เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ของ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานบอร์ดสภาการศึกษา ส่งผลให้เกิดประเด็นทางสังคมทันทีที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้นำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของ สกศ.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะเสียงวิจารณ์ และติติงถึงความไม่เหมาะสมเมื่อเห็นรายชื่อของคณะอนุกรรมการ สกศ. ร้อนจนทางสภาการศึกษา ที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่ สกศ.ที่รับผิดชอบเกิดอาการตกอกตกใจ ลนลานลบลิงค์ดังกล่าวทันที

จะไม่วิจารณ์ได้อย่างไร เมื่อกว่า 10 รายชื่อจาก 36 รายชื่อคณะอนุกรรมการ สกศ. แต่ละด้านที่โชว์ขึ้นหราอยู่นั่นล้วนแล้วเป็นชื่อของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. นายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายและแผนการศึกษา นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ เป็นคณะอนุรรมการสภาการศึกษา ด้านกฎหมายการศึกษา นายไกรสิน โตทับเที่ยง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคไทยรักไทย นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ อดีตนายทะเบียนพรรคไทยรักไทย และนายสิงห์ทอง บัวชุม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตบางกะปิ กทม.เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านติดตามและประเมินผลการศึกษา นายอุดมเกียรติ ปานมี ทนายเสื้อแดงและอดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคเพื่อไทย เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา ด้านการสร้างจิตสำนึกคุณธรรม และจริยธรรม น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา ด้านการพัฒนา และเสริมสร้าง นวัตกรรมทางการศึกษา หรือแม้แต่นางเยาวเรศ ชินวัตร พี่สาว น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา ด้านพัฒนาศักยภาพเยาวชนสตรีในสถานศึกษา

ทั้งนี้ การตั้งแกนนำ นปช. มาเป็นคณะอนุกรรมการ สกศ. ไม่ได้วิจารณ์กันกระหึ่มเฉพาะแต่คนในสังคม นักวิชาการการศึกษา หรือขั้วตรงข้ามทางการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น และแม้จะเป็นความจริงที่ว่าการมีชื่อเป็นคณะอนุกรรมการ สกศ.นั้นไม่ได้หมายความว่าจะมีบทบาทสำคัญ หรืออำนาจบารมีใด แต่การตั้งพวกพ้องที่มีแนวคิดในวิถีทางเดียวกันเพียงเฉพาะกลุ่มคนเพียงกลุ่มเดียวย่อมไม่ส่งผลดี ที่สำคัญไม่ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อ “พรรคเสื้อแดง” เท่าใดนัก

เพราะต้องไม่ลืมว่า สถานการณ์ความนิยมในตัว ศ.ดร.สุชาติ ช่วงที่ผ่านมา ๆ กับคนในพรรคด้วยกันเองก็ใช่ว่าจะอยู่ในทางลมที่ดีนัก ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะประเมินสถานการณ์ผิดไป และคงไม่ทันคาดถึงผลกระทบที่จะตามมา โดยเฉพาะผลกระทบที่มาจากคนสีแดงด้วยกัน ซึ่งแม้ว่าที่ผ่าน ๆ รมว.ศึกษาธิการ จะรู้ตัวดีและพยายามเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ออกสื่อ ไม่ค่อยเป็นข่าวเพราะอยู่ในภาวะที่ทำอะไรไปก็ผิด แต่สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้น และน่าจะแน่ชัดแล้วว่าเวลานี้เกิดรอยร้ายขึ้นระหว่างคนในพรรคสีเดียวกัน

ล่าสุด..การปรากฏตัวของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ที่ประกาศตัวว่าเป็นคนเสื้อแดง ยิ่งย้ำชัดว่าความร้าวลึกของคนเสื้อแดงด้วยกันนั้นเกิดขึ้นจริง!!

เริ่มงานสาวไส้ กับเหตุการณ์ที่ นายมงคลกิตติ์ ได้มายื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ ศ.ดร.สุชาติ โดยอ้างว่า ศ.ดร.สุชาติ แสดงตัวเป็นครูใหญ่หรือผู้อำนวยการโรงเรียนเสื้อแดงอย่างเปิดเผยซึ่งมองว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญ เป็นการทำธุรกิจด้านการศึกษาซ้ำซ้อน ตำแหน่ง จึงขอให้ดำเนินการเอาด้วย และขอให้ตรวจสอบโรงเรียนเสื้อแดงด้วยว่ามีการจัดตั้งอย่างถูกต้องหรือไม่เพราะโรงเรียนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นโรงเรียนเอกชน รวมทั้งนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำ นปช.ซึ่งเป็นผู้จัดการโรงเรียนเสื้อแดง ว่ามีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูหรือไม่

ขณะเดียวกันยังเสนอขอให้ยกเลิกคณะอนุกรรมการ สกศ.ชุดแกนนำ นปช.เสียด้วย โดยให้เหตุผลว่ารายชื่อที่ ศ.ดร.สุชาติ ได้ตั้งขึ้นมานั้นอาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของระบบการศึกษา พร้อมเสนอชื่อตัวเอง , นายธีรพัฒน์ คำคูบอน กรรมการคุรุสภา และ นายประแสง มงคลศิริ อดีตที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ พรรคพวกเสื้อแดงเหมือน ๆ กัน มาดำรงตำแหน่งอนุกรรมการสภาการศึกษาแทน

โดย นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า “จริงอยู่ว่า คุณประแสง คุณธีรพัฒน์ และผมก็เป็นเสื้อแดง เหมือนกัน แต่พวกผมเป็นเสื้อแดงรักกษัตริย์ แต่หลายคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากศ.ดร.สุชาตินั้น เป็นแดงล้มกษัตริย์อย่างชัดเจน หากให้คนเหล่านี้มาเป็นอนุกรรมการของ สกศ. อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงหลักสูตร การจัดศึกษาให้คนไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จงรักภักดี โดยเฉพาะ ร.ร.เสื้อแดงนั้น เนื้อหาที่สอนจริง ๆ คือ ชักจูงให้คน ไปเป็นคอมมิวนิสต์ จึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นคอมมิวนิสต์ตามแนวทางการปฏิวัติของประชาชนแบบเหมาเจ๋อตุง ต้องการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ บอกได้เลยว่าโรงเรียนเสื้อแดงนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ”

อย่างไรก็ตาม การเสนอตัวผู้ทำหน้าที่ใหม่ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มันออกแนวพิลึกตรงที่ นายมงคลกิตติ์ กล้าเสนอชื่อตัวเอง อีกทั้ง ยังเสนอชื่อ “นายประแสง” คนเคยคุ้นของ ศ.รด.สุชาติ ที่ภายหลังเกิดกินแหนงแคลงใจด้วยปัญหาการตรวจสอบทุจริตครุภัณฑ์อาชีวศึกษา เลยตัดสินใจลาออกไปแบบให้เหตุผลที่จบไม่ค่อยสวย ไหนจะ “นายธีรพัฒน์” ก็มีเอี่ยวพัวพันกับปัญหาของอาชีวศึกษาเช่นกัน ที่สำคัญ ทั่น ๆ เหล่านี้พรรคพวกเดียวกันทั้งสิ้น เลยไม่แน่ใจว่านี่ทำเพื่อวงการการศึกษา หรือ เพื่อขจัดเสี้ยนหนามตัวเอง?

ทั้งนี้ ตัวศ.ดร.สุชาติยืนยันว่าการตั้งคณะอนุกรรมการ สกศ.พิจารณาตามที่คณะทำงาน สกศ.เสนอชื่อมา ไม่ได้เลือกว่าใครมาจากสีไหน และท้าให้ดูดี ๆ จะเห็นว่ามีคนจากทุกสีอยู่ในคณะอนุกรรมการฯ และต้องการหาที่ซึ่งเหมาะสมให้ทุกคนมานั่งคุยเพื่อสร้างประโยชน์ต่อการศึกษาร่วมกัน

มิหนำซ้ำยัง บอกว่า “ผมเป็นผู้นำเสื้อขาว ที่ผ่านมาทุกคนรู้ว่าเป็นผู้นำเสื้อแดงยืนข้างพี่น้องมาตลอด เป็นคนเปิดหมู่บ้านเสื้อแดง วันนี้มาเป็น รมว.ศึกษาธิการ แล้วก็ดึงคุณธรรมขึ้นมาให้เห็นว่า การละชั่วทำดีทำจิตให้ผ่องแผ่ว จะเป็นสิ่งที่จะสร้างและพัฒนาชาติ”

แถมยังต่อว่า “การนำเสนอข่าวที่ออกไปทำให้คนดี ๆ พอเห็นข่าวก็ ไม่อยากจะมาร่วมงาน”

ดูท่าเวลานี้เกมการเมืองของรัฐบาลกับฝ่ายค้าน คงไม่น่าสนใจเท่าเกมการเมืองของคนในกลุ่มเสื้อแดงที่ไม่ลงรอยกันด้วยกันเอง ซึ่งดูท่าจะงัดลูกล่อลูกชนออกมาถล่มกันเละ ซึ่งถ้าผู้เล่นอย่าง ศ.ดร.สุชาติ ยังมัวแต่เล่นตามใจตัวชนิดที่ใคร ๆ ก็ไม่ปลื้มแล้ว ดูท่าคงถูกเขี่ยออกจากสนามในเวลาอันใกล้
กำลังโหลดความคิดเห็น