xs
xsm
sm
md
lg

“มงคลกิตติ์” แฉ ร.ร.เสื้อแดงเป็นภัยกับประเทศ ร้องนายกฯ จัดการ “สุชาติ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายประแสง-นายมงคลกิตติ์-ศ.ดร.สุชาติ
แดงแตกคอ “ประแสง มงคลศิริ” ส่ง “มงคลกิตติ์” เดินหน้าแฉต่อสื่อ ระบุ ร.ร.เสื้อแดง เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ล้างสมองชาวบ้านให้ล้มเจ้า พร้อมเดินหน้ายื่นหนังสือถึงนายกฯผ่านทางปลัด ศธ.ขอให้ดำเนินคดีกับ “สุชาติ” ครูใหญ่ ร.ร.เสื้อแดง ฐานผิดรัฐธรรมนูญ ทำธุรกิจด้านการศึกษาซ้ำซ้อนกับตำแหน่ง รมว.ศธ.และตรวจสอบ “ธิดา ถาวรเศรษฐ์” ผู้จัดการ ร.ร.เสื้อแดง มีตั๋วครูหรือไม่ พร้อมเรียกร้องยกเลิกแต่งตั้งก๊วนแดงมาเป็นอนุกรรมการ สกศ.เสนอตัว “ประแสง-ธีรพัฒน์” ทำหน้าที่แทน


นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือผ่าน น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กรณีแสดงตัวเป็นครูใหญ่/ผู้อำนวยการ ร.ร.เสื้อแดง อย่างเปิดเผย ทั้งนี้ เพราะรัฐธรรมนูญห้ามไม่ให้รัฐมนตรีทำธุรกิจด้านการศึกษาซ้ำซ้อน แต่โรงเรียนเสื้อแดงนั้น เข้าข่ายเป็น ร.ร.เอกชน การที่ ศ.ดร.สุชาติ แสดงตัวต่อหน้าสื่อว่าเป็นครูใหญ่ ร.ร.เสื้อแดง จึงอาจเข้าข่ายมีธุรกิจซ้ำซ้อน

“มีประเด็นด้วยว่า ร.ร.เสื้อแดงจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมาย ร.ร.เอกชนหรือไม่ เพราะเท่าที่รู้ไม่ได้มีการขออนุญาตจัดตั้งอย่างถูกต้องมายัง ศธ.และไม่สามารถปฏิเสธในเชิง ว่า ร.ร.เสื้อแดงเป็นแค่การรวมกลุ่มให้ความรู้ ไม่ได้อยู่สถานะ ร.ร.อย่างเต็มตัว เพราะทุกอย่างที่นำเสนอออกมา ทำให้สังคมเข้าใจว่า ร.ร.เสื้อแดงมีสถานภาพเป็นโรงเรียน มีการเก็บค่าเทอม ค่าธรรมเนียมจากผู้เรียน และมีการแจกใบประกาศนียบัตรให้กับผู้เรียนด้วย โดยมี ศ.ดร.สุชาติ เป็นผู้เซ็นรับรองในใบประกาศนียบัตรดังกล่าว” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

เลขาธิการ ภตช.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบการจัดตั้ง ร.ร.เสื้อแดง ว่า มีใบอนุญาตจัดตั้งถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบด้วยว่า นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช.ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็น ผู้จัดการ ร.ร.เสื้อแดง มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกต้องหรือไม่ ขณะเดียวกัน ขอเรียกร้องให้ยกเลิกการแต่งตั้ง นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. นายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายและแผนการ นายไกรสิน โตทับเที่ยง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคไทยรักไทย (พท.) นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ อดีตนายทะเบียนพรรคไทยรักไทย และนายสิงห์ทอง บัวชุม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พท.เขตบางกะปิ กทม.เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา (สกศ.) และเสนอให้ นายธีรพัฒน์ คำคูบอน กรรมการคุรุสภา นายประแสง มงคลศิริ อดีตที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ และ นายมงคลกิตติ์ มาดำรงตำแหน่งอนุกรรมการสภาการศึกษาแทน

“จริงอยู่ว่า คุณประแสง คุณธีรพัฒน์ และผมก็เป็นเสื้อแดง เหมือนกัน แต่พวกผมเป็นเสื้อแดงรักกษัตริย์ แต่หลายคนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ศ.ดร.สุชาตินั้น เป็นแดงล้มกษัตริย์อย่างชัดเจน อย่าง รศ.ดร.วรเจตน์ ซึ่งเป็นคนเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 112 หรืออย่างคุณธิดานั้น ทั้งตัวเขาเอง และลูกน้อง นปช.ของเขาทุกคนล้วนแต่ถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หากให้คนเหล่านี้มาเป็นอนุกรรมการของ สกศ.อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงหลักสูตร การจัดศึกษาให้คนไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จริงๆ แล้ว คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ประมาณ 99% เป็นแดงที่จงรักภักดีต่อกษัตริย์ แต่ 1% ที่ไม่เอากษัตริย์นั้น เป็นพวกที่มีบทบาท เป็นแกนนำควบคุมเสื้อแดงทั้งประเทศ และคอยเสี้ยมสอนให้คนไม่จงรักภักดี โดยเฉพาะ ร.ร.เสื้อแดงนั้น เนื้อหาที่สอนจริงๆ คือ ชักจูงให้คนไปเป็นคอมมิวนิสต์ เพราะคนพวกนี้ส่วนใหญ่เคยเป็นคอมมิวนิสต์จีนมาก่อน จึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นคอมมิวนิสต์ตามแนวทางการปฏิวัติของประชาชนแบบเหมาเจ๋อตุง ต้องการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ บอกได้เลยว่า ร.ร.เสื้อแดงนี้ เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

ด้าน รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สิ่งที่ นปช.ใช้ปลุกระดมคนนั้น อิงอยู่บนทฤษฎีมาร์กซิสต์ ซึ่งแบ่งสังคมออกเป็นชนชั้นต่างๆ และเน้นการต่อสู้ทางชนชั้น แต่ ร.ร.เสื้อแดง ปรับทฤษฎีมาร์กซิสต์ คลาสสิก ให้เป็นนีโอ มาร์กซิสต์ (Neo-Marxism) จะไม่ใช้วิธีคิดแบบเศรษฐศาสตร์ แต่จะใช้วิธีคิดแบบการศึกษาเป็นตัวหล่อหลอม เพราะฉะนั้น ร.ร.เสื้อแดง จะใช้ทฤษฎีนี้ในการหล่อหลอม และสร้างอุดมการณ์ ปลุกระดมคน โดยใช้เนื้อหาสังคมนิยม แต่อิงประชาธิปไตย วิธีการของโรงเรียน นปช.จะสอดแทรกในเรื่องของความแตกต่าง ชนชั้น มีชุดวาทกรรมที่ชัดเจน เช่น คนรวย คือชนชั้นนายทุน ขุนศึก คือ ทหาร อำมาตย์ ส่วน กรรมกร ชาวนา คือ ไพร่

อย่างไรก็ตาม การใช้การศึกษาเป็นตัวสร้างมวลชน จะเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น โรงเรียน นปช.ที่เปิดหลักสูตร 2-3 วันจะสอนเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์การต่อสู้เรื่องชนชั้น มีเรื่องเอาทฤษฎีเหมาเจ๋อตุง มาประกอบ คือ การปฏิวัติโดยประชาชน จะอิงอยู่ 3 ส่วน คือ มีส่วนของพรรค ส่วนของกองทัพ และส่วนของมวลชน ครบทั้ง 3 ส่วน ซึ่งรวมทั้ง นีโอ มาร์กซิสต์ เหมา และ เชกูมารา คือ พวกสังคมนิยม ซึ่งจะใช้เวลาการอบรมเพียงครึ่งวัน จากนั้นก็การระดมคน ไปหากำลังคน จาก 1 เป็น 3 จาก 3 กลายเป็น 9 เมื่อได้สมาชิกมาแล้ว ก็จะเปิดอบรมตามโรงแรม รีสอร์ต และโรงเรียน หลักสูตร เป็นหลักสูตรนีโอ มาร์กซิสต์ ทั้งนั้น

“เมื่อก่อนเราต้องการต่อต้านการปฏิวัติรัฐประหาร ต่อต้านเผด็จการ แต่ขณะนี้สิ่งที่มวลชนเข้าไปหาเขา เพราะชาวบ้านได้รับความอยุติธรรม เพราะเขาโดนเอารัดเอาเปรียบ เป็นกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากที่รัฐดำเนินการมา เขาได้รับการปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน พวกนายทุนขุนศึก เขาจะอินกับอุดมการณ์มาก ซึ่งโรงเรียน นปช.ได้ดำเนินการมานานแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ท่านอภิสิทธิ์ยังไม่รู้เลยว่ามีการปลุกระดมลักษณะอย่างนี้ ตอนนี้กำลังเข้ามาในกรุงเทพฯแล้ว” รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น