xs
xsm
sm
md
lg

แดงแตกคอถล่ม“รมต.สุชาติ” ยังกล้าอ้างรัก-เทิดทูนสถาบันฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ท่าจะเป็นเรื่องราวลามเป็นประเด็นการเมืองเสียแล้ว หลังสะเก็ดไฟกระเด็นเป็นเชื้อปะทุขึ้นในกระทรวงศึกษาธิการ ที่มี “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” กุมบังเหียน นั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการอยู่ เรื่องที่สะกิดใจคนบางส่วนก็กลายเป็นเรื่องขึ้นมาจนได้!!
หลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการ ทำการแต่งตั้งตำแหน่งบางอย่างชนิดเย้ยฟ้าท้าดิน ประกอบด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช. นายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านนโยบายและแผนการ นายไกรสิน โตทับเที่ยง อดีตผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคไทยรักไทย นายสมาน เลิศวงศ์รัฐ อดีตนายทะเบียนพรรคไทยรักไทย และ นายสิงห์ทอง บัวชุม อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางกะปิ พรรคเพื่อไทย เป็นคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา (สกศ.)
**ฉงนสงสัยว่าตั้งคนเหล่านี้มาทำอะไรกันแน่!!
ไม่ต้องจาระไนภาพลักษณ์ ปูมหลัง ให้เมื่อยสมอง เพราะชื่อที่ปรากฏเหล่านี้หลายคนเห็นๆ กันอยู่ในเวทีการเมืองยามนี้ กำพืด หรือไส้กี่ขดๆ ก็รู้เช่นเห็นชาติกันไปแล้ว
ไม่ต้องเห็นหน้า เห็นแค่เงาก็รู้ว่า แกนนำแดง เครือข่ายคนเสื้อแดงทั้งนั้น จึงเกิดคำถามในแวบแรกทันทีว่า “จะทำอะไรกับระบบการศึกษาไทย” ต้องการจะเปลี่ยนแปลงแทรกซึมระบอบเสื้อแดงเข้าไปสู่หลักสูตรการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการกระนั้นหรือ ??
หลายคนรับไม่ได้กับการกระทำที่อนุมานล่วงหน้าได้ว่า จะมีการสอดไส้ความเหลวแหลกทางความคิด ที่ฝ่ายเสื้อแดงย้ำคิดย้ำทำ บนจินตนาการของฝ่ายตัวเองว่าดีแล้ว ถูกต้องแล้ว เข้ามาปั่นสมอง หลอกหลอนชาวบ้าน โดยไม่มีมาตรฐานใดๆ รองรับทั้งสิ้น !!
เป็นความพยายามอย่างต่อเนื่องยาวนานที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้อื่นที่เห็นต่างมาเข้าด้วยกับฝ่ายตัวเอง แต่ทำอย่างไรก็ไม่มีวันสำเร็จ จึงคิดทำทุกวิถีทางอย่างไร้ยางอาย กล้าแม้กระทั่งคิดจะเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของไทยนั่นเลย!!
เป็นความคิดที่สุดโต่ง ร้ายกาจ แต่สนุกอยู่บนอำนาจที่ครอบครองอยู่ ในที่สุดแม้แต่คนกันเองก็สุดจะทานทน ต้องออกมาเคลื่อนไหวทัดทาน ตัดไฟแต่ต้นลม
แม่ทัพหน้าท้าความเลว ถึงใครจะมองว่าชั่ว ว่าร้าย อย่างไร ก็ต้องถือเป็นผู้หนึ่งที่กล้าออกมาสะกิดเตือนสังคม “ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทบชิ่งไปถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
โทษฐานที่ทำตัวเป็นครูใหญ่ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเสื้อแดงอย่างเปิดเผย พร้อมระบุ ป.ล.แนบท้ายรัฐธรรมนูญห้ามไม่ให้รัฐมนตรีทำธุรกิจด้านการศึกษาซ้ำซ้อน เพราะโรงเรียนเสื้อแดง เข้าข่ายเป็นโรงเรียนเอกชน
ที่ผ่านมา “สุชาติ” ปวารณาตัวชัดเจนว่าเป็นสาวกเสื้อแดงคนหนึ่ง เคยไปล่มหัวจมท้ายกับเครือข่ายคนเสื้อแดงในการตั้งโรงเรียนเสื้อแดง หมู่บ้านเสื้อแดง อย่างเอิกเกริกก่อนมานั่งแป้นเป็นรัฐมนตรี
วันนี้ “สุชาติ” มีตำแหน่งใหญ่ เป็นเสนาบดีควบคุมการศึกษา ดูแลโรงเรียนทั่วประเทศ เหมือนเป็นการเปิดทางสะดวกให้โรงเรียนเสื้อแดงเกิดขึ้นในสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม ไม่มีการสกรีนเนื้อหา ไม่มีการตรวจสอบหลักสูตร ว่ามันเป็นการล้างสมอง หรือสร้างระบบใหม่ ที่คล้ายเคียงกับระบอบคอมมิวนิสต์หรือไม่ ซึ่งมันอาจเป็นภัยร้ายแรงต่อไปในอนาคต
“มงคลกิตติ์” อยากให้ตรวจสอบการจัดตั้งโรงเรียนเสื้อแดง ว่ามีใบอนุญาตจัดตั้งถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบด้วยว่า นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการโรงเรียนเสื้อแดง มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู และบุคลากรทางการศึกษาถูกต้องหรือเปล่า สุดท้ายเรียกร้องให้ยกเลิกการแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาที่ตั้งขึ้นมายกชุด
เป็นการเดินหน้าท้าชนที่ตรงใจ พร้อมชูจั๊กกะแร้สนับสนุนเต็มเหนี่ยว...
แต่มันก็ให้ตะขิดตะขวงใจตรงที่ว่า “มงคลกิตติ์” เสนอให้แต่งตั้ง ตัวเอง รวมทั้ง ธีรพัฒน์ คำคูบอน กรรมการคุรุสภา ประแสง มงคลศิริ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าไปดำรงตำแหน่งอนุกรรมการสภาการศึกษาแทน
**เหมือนกำลังอ่านนวนิยายฮีโร่ถล่มเหล่าร้าย แต่พอมาถึงบรรทัดนี้ บทพลิกกลับเป็นตลกร้าย อยากจะขว้างทิ้งไปเสียฉิบ!!
เมื่อไปขุดดูประวัติ “มงคลกิตติ์” และพวกพ้องที่เสนอตัวเข้ามา ล้วนแดงฮาร์ดคอร์เหมือนกัน ถูกก่นด่าจากสังคมจนฟอนเฟะ เน่าจนหนอนชอนไชไม่ต่างกัน
“จริงอยู่ว่า คุณประแสง คุณธีรพัฒน์ และผมก็เป็นเสื้อแดง เหมือนกัน แต่พวกผมเป็นเสื้อแดงรักกษัตริย์ แต่หลายคนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก นายสุชาตินั้น เป็นแดงล้มกษัตริย์อย่างชัดเจน หากให้คนเหล่านั้นมาเป็นอนุกรรมการของ สกศ. อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงหลักสูตร การจัดศึกษาให้คนไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” เหมือนผีเน่ากับโลงผุ หยิบซากศพมาประจานความเลวทราม ว่าใครชั่วช้ากว่ากัน แทนที่สังคมจะยิ้มย่องด้วยความเห็นด้วย กลับกลายเป็นการยิ้มแสยะ ระคนขยะแขยง เพราะไม่มีหลักประกันอะไรเลยว่า ข้อหาที่นำมาทิ่มแทงกันนั้น ตัวเองก็สำเหนียกด้วยหัวใจอยู่จริง ??
แม้เหตุผลของการเอ่ยอ้างคัดค้านจะสวยหรูดูดี แต่เนื้อแท้แล้วกลับกลายเป็นเรื่องของ “แดงแตกคอ” กระชากไม่พ้นจากมิติมืดดำ เพราะหากฝ่ายของ “มงคลกิตติ์” เป็นผู้มีชัยดำเนินการเรื่องนี้จนสำเร็จ สุดท้ายแนวทาง “โรงเรียนแดง” อาจไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก หลักใหญ่ใจความยังคงเป็นการอัดหลักสูตรสามานย์ลงไปในสังคมไทย บิดรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเป็นพิธี
**เพราะเป้าหมายที่แท้จริงล้วนเกี่ยวเนื่องกับผลประโยชน์
เหมือนเป็นการเล่นเกมภายในกันเอง ประแสง มงคลศิริ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเคยถูก “สุชาติ” แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ จนต้องไขก๊อก ลาออกไปด้วยความบอบช้ำโคม่า จากข้อหาฝักใฝ่ฝ่ายตรงข้าม
** วันนี้จึงเดินเกมเอาคืนด้วยสงครามตัวแทน ส่ง “มงคลกิตติ์” เป็นนายหน้าค้าบัญชีเลือด ด้วยการขย่มเขย่าเก้าอี้เสนาบดีอย่างรุนแรง
ด้วยรู้ดีว่าสถานภาพของ “สุชาติ” ก็ง่อนแง่นโงนเงน เก้าอี้ใกล้กระเด็นอยู่เหมือนกัน จึงฉวยจังหวะเหยียบคันเร่งมิดด้าม หากจะตายก็ต้องตายตกไปตามกัน หรือจับพลัดจับผลู ฝ่ายตัวเองส้มหล่น กลับคืนสู่ถนนอำนาจอีกครั้ง นับเป็นโบนัสพิเศษ
ความผิดชอบชั่วดีถูกบังตาด้วยรอยแค้น ไม่จริงหรอก ที่จะคิดนึกถึงสิ่งที่ควรจะเป็น สิ่งที่ควรคู่กับสังคมไทย อำนาจและบารมีเท่านั้นที่เฝ้าหามาประคองกอดไว้ เรื่องที่เคลื่อนไหวเป็นเพียงข้ออ้างสวยหรู เพื่อให้คนคล้อยตาม
**เนื้อแท้แล้วเป็นอย่างไรก็รู้กันดี ไม่อยากจะพูดให้บาปปาก.

เสือกระดาษ
กำลังโหลดความคิดเห็น