รัฐสภาจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2555 นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภากล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ปัญหาบ้านเมืองขณะนี้เป็นเพราะการเมืองไทยคิดหาผลประโยชน์ส่วนตัว และมีแต่กิเลส จึงทำให้บ้านเมืองไม่เจริญ ดังนั้นอยากให้นักการเมืองใช้ธรรมนำหน้าเพื่อเอาชนะกิเลส และทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ สังคมมีแต่ความสงบ และเมื่อคนไทยมีแต่ความรัก ความเมตตาต่อกัน สังคมจะน่าอยู่ขึ้น
“เหตุการณ์ที่เป็นปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมา ประชาชนเขามองอย่างไม่สบายใจ ซึ่งผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก ดังนั้นถึงเวลาที่เราต้องเริ่มต้นหันหน้าเข้าสู่ธรรมะ การเมืองต้องใช้ธรรมนำหน้าเพื่อให้ประเทศไทยไปรอด และยิ่งสถานการณ์ขณะนี้มีความจำเป็นต้องใช้ธรรมในการแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง และการเมืองไทย” นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กล่าว
ต้องยอมรับว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาของประเทศไทย เฉียบคมมากที่คิดได้อย่างนี้ สังคมของเราจึงควรที่จะยกย่องนายสมศักดิ์ให้เป็นผู้นำทางความคิดเพื่อที่จะนำสังคมไทยไปสู่ความวัฒนาสถาพรมีนักการเมืองดี และจะทำให้ปัญหาบ้านเมืองของเราดีขึ้น เป็นต้นว่า มีประธานสภาฯ ที่มีความสง่างาม มีความเป็นกลาง มิใช่คอยแต่สำนึกในบุญคุณคนที่เขาหยิบยื่นตำแหน่งให้จนต้องอาสาอุ้มเผือกร้อนเอาไว้แทนคนอื่น
ประเทศของเราจะได้มีนักการเมืองที่เป็นคนกล้า คนจริงที่จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แทนที่จะไปรับใช้นักโทษหนีคุก แทนที่จะคิดแต่หาหนทางปรองดองซึ่งมิใช่การปรองดองจริงๆ หากแต่เป็นการล้างผิดให้คนโกงโดยเอาคำว่า สมัครสมานสามัคคีปรองดองมาหลอกประชาชน
ประชาชนในประเทศของเราจะได้ตระหนักว่า อำนาจอธิปไตยมี 3 อำนาจคือ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ
และตระหนักว่าประเทศของเราเป็นประเทศนิติรัฐ เมื่อฝ่ายตุลาการใช้อำนาจตัดสินคดีความคดีใดคดีหนึ่งจะต้องเคารพคำตัดสินมิใช่หาทางหลีกเลี่ยงด้วยคำว่า ปรองดอง หรือไม่ยอมรับคำตัดสินด้วยการหาเหตุว่า ไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม สองมาตรฐาน ฯลฯ อย่างที่นักการเมืองชั่วกลุ่มหนึ่งคิด และทำอยู่ขณะนี้
ต้องเอาธรรมนำหน้าอย่างที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาพูดไว้นั้นถูกต้องแล้ว นักการเมืองจะได้มีความสง่างาม ไม่หน้าด้าน รู้จักสำรวจตัวเอง มองดูตัวเองว่ามีธรรม ในใจหรือไม่ เมื่ออำนาจหรือได้รับมอบจากประชาชนแล้ว ใช้อำนาจเป็นธรรมหรือไม่ เอาแต่พวกตัวเอง แต่ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่คนอื่นๆ เขาหรือไม่ พวกของตัวเผาบ้านเผาเมืองก็เอามารับตำแหน่งตั้งแต่รัฐมนตรี เลขาฯ ที่ปรึกษา ฯลฯ หรือไม่ และที่สำคัญ คนเหล่านี้มีความรู้ความสามารถสมกับเงินเดือนที่เอาไปจากภาษีประชาชนหรือไม่
และถ้าหากจะให้ดีนักการเมืองตัวเบ้งๆ ไม่ว่าจะเพิ่งเข้าสู่เวทีการเมืองแล้วได้ตำแหน่งใหญ่โตก็สมควรส่องกระจกดูตัวเอง ให้เห็นตัวเอง โดยใช้ธรรมนำหน้าอย่างที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ พูด จึงจะรู้ว่าตัวมีความรู้มีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งแห่งที่ที่ตัวอยู่ ตัวเป็นหรือไม่ มิใช่มีคนมาให้ได้เป็นใหญ่ กูก็เป็น จะแสดงความโง่เง่าเต่าตุ่นเป็นตัวตลก หรือประเทศชาติประชาชนจะอับอายอย่างไร ดิฉันไม่สน อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
ต้องเอาธรรมนำหน้า จึงจะมีสติปัญญาได้คิดว่า นโยบายต่างๆ ที่กำหนดลงไปนั้นสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชนหรือไม่ เช่น นโยบายรับจำนำข้าว เพื่อจะได้คะแนนเสียงจากชาวไร่ชาวนานั้นต้องใช้งบประมาณไปเท่าไร ขาดทุนมากน้อยขนาดไหน มีหนทางอื่นดีกว่านี้หรือไม่ หรือว่านี่เหมาะแล้วที่จะได้คอร์รัปชัน แสวงหาประโยชน์ในหมู่ของตัวโดยที่ไม่สนใจว่า ความฉิบหายที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร เพราะมิใช่เงินโคตรพ่อโคตรแม่ของตน
ต้องเอาธรรมนำหน้าจะได้เห็นธาตุแท้หรือตัวตนของตนที่บอกว่า ดิฉันมาเพื่อประเทศชาติและประชาชนค่ะ นั่นแท้จริงเป็นคำตอแหล ตลบตะแลง ปลิ้นปล้อน หรือเป็นจริง น่ายกย่องนับถือ และต้องไม่เอาธรรมนำหน้าเฉพาะคำพูด หากจะต้องหมายถึงการกระทำจริงๆ เป็นต้นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้เพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ หรือต้องการเปิดทางเพื่อที่จะล้างผิดให้ใครบางคนที่หนีคุก การเสนอกฎหมายปรองดอง เนื้อหาเป็นอย่างไร เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกหมู่เหล่า หรือต้องการล้างผิดให้ใคร
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ควรที่จะบอกกล่าวแนะนำสมาชิกรัฐสภาให้เห็นความสำคัญของการเอาธรรมนำหน้าเพื่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างที่นายสมศักดิ์พูด และควรที่จะประณามคนที่มันไม่เอาธรรมนำหน้า เป็นต้นว่า นักการเมืองที่มันแสวงหาประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองและครอบครัว เป็นต้น กำหนดนโยบายมาแล้วแสวงหาประโยชน์จากนโยบาย เช่น การเปลี่ยนจากค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต การให้ประเทศเพื่อนบ้านกู้ยืมเงินของประเทศแล้วเอามาซื้อข้าวของในบริษัทครอบครัวของตัว การให้เมียซื้อที่ดินที่รัฐเป็นผู้ขาย ฯลฯ นายสมศักดิ์ต้องกล้าพูด กล้าประณามคนชั่วๆ อย่างนี้
ที่สำคัญนายสมศักดิ์ต้องไม่คบคนชั่วๆ อย่างนี้ด้วย จะได้เป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่ดี ถูกไหมครับ
“เหตุการณ์ที่เป็นปัญหาทางการเมืองที่ผ่านมา ประชาชนเขามองอย่างไม่สบายใจ ซึ่งผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก ดังนั้นถึงเวลาที่เราต้องเริ่มต้นหันหน้าเข้าสู่ธรรมะ การเมืองต้องใช้ธรรมนำหน้าเพื่อให้ประเทศไทยไปรอด และยิ่งสถานการณ์ขณะนี้มีความจำเป็นต้องใช้ธรรมในการแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง และการเมืองไทย” นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ กล่าว
ต้องยอมรับว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาของประเทศไทย เฉียบคมมากที่คิดได้อย่างนี้ สังคมของเราจึงควรที่จะยกย่องนายสมศักดิ์ให้เป็นผู้นำทางความคิดเพื่อที่จะนำสังคมไทยไปสู่ความวัฒนาสถาพรมีนักการเมืองดี และจะทำให้ปัญหาบ้านเมืองของเราดีขึ้น เป็นต้นว่า มีประธานสภาฯ ที่มีความสง่างาม มีความเป็นกลาง มิใช่คอยแต่สำนึกในบุญคุณคนที่เขาหยิบยื่นตำแหน่งให้จนต้องอาสาอุ้มเผือกร้อนเอาไว้แทนคนอื่น
ประเทศของเราจะได้มีนักการเมืองที่เป็นคนกล้า คนจริงที่จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แทนที่จะไปรับใช้นักโทษหนีคุก แทนที่จะคิดแต่หาหนทางปรองดองซึ่งมิใช่การปรองดองจริงๆ หากแต่เป็นการล้างผิดให้คนโกงโดยเอาคำว่า สมัครสมานสามัคคีปรองดองมาหลอกประชาชน
ประชาชนในประเทศของเราจะได้ตระหนักว่า อำนาจอธิปไตยมี 3 อำนาจคือ นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ
และตระหนักว่าประเทศของเราเป็นประเทศนิติรัฐ เมื่อฝ่ายตุลาการใช้อำนาจตัดสินคดีความคดีใดคดีหนึ่งจะต้องเคารพคำตัดสินมิใช่หาทางหลีกเลี่ยงด้วยคำว่า ปรองดอง หรือไม่ยอมรับคำตัดสินด้วยการหาเหตุว่า ไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม สองมาตรฐาน ฯลฯ อย่างที่นักการเมืองชั่วกลุ่มหนึ่งคิด และทำอยู่ขณะนี้
ต้องเอาธรรมนำหน้าอย่างที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาพูดไว้นั้นถูกต้องแล้ว นักการเมืองจะได้มีความสง่างาม ไม่หน้าด้าน รู้จักสำรวจตัวเอง มองดูตัวเองว่ามีธรรม ในใจหรือไม่ เมื่ออำนาจหรือได้รับมอบจากประชาชนแล้ว ใช้อำนาจเป็นธรรมหรือไม่ เอาแต่พวกตัวเอง แต่ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่คนอื่นๆ เขาหรือไม่ พวกของตัวเผาบ้านเผาเมืองก็เอามารับตำแหน่งตั้งแต่รัฐมนตรี เลขาฯ ที่ปรึกษา ฯลฯ หรือไม่ และที่สำคัญ คนเหล่านี้มีความรู้ความสามารถสมกับเงินเดือนที่เอาไปจากภาษีประชาชนหรือไม่
และถ้าหากจะให้ดีนักการเมืองตัวเบ้งๆ ไม่ว่าจะเพิ่งเข้าสู่เวทีการเมืองแล้วได้ตำแหน่งใหญ่โตก็สมควรส่องกระจกดูตัวเอง ให้เห็นตัวเอง โดยใช้ธรรมนำหน้าอย่างที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ พูด จึงจะรู้ว่าตัวมีความรู้มีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งแห่งที่ที่ตัวอยู่ ตัวเป็นหรือไม่ มิใช่มีคนมาให้ได้เป็นใหญ่ กูก็เป็น จะแสดงความโง่เง่าเต่าตุ่นเป็นตัวตลก หรือประเทศชาติประชาชนจะอับอายอย่างไร ดิฉันไม่สน อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้
ต้องเอาธรรมนำหน้า จึงจะมีสติปัญญาได้คิดว่า นโยบายต่างๆ ที่กำหนดลงไปนั้นสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชนหรือไม่ เช่น นโยบายรับจำนำข้าว เพื่อจะได้คะแนนเสียงจากชาวไร่ชาวนานั้นต้องใช้งบประมาณไปเท่าไร ขาดทุนมากน้อยขนาดไหน มีหนทางอื่นดีกว่านี้หรือไม่ หรือว่านี่เหมาะแล้วที่จะได้คอร์รัปชัน แสวงหาประโยชน์ในหมู่ของตัวโดยที่ไม่สนใจว่า ความฉิบหายที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร เพราะมิใช่เงินโคตรพ่อโคตรแม่ของตน
ต้องเอาธรรมนำหน้าจะได้เห็นธาตุแท้หรือตัวตนของตนที่บอกว่า ดิฉันมาเพื่อประเทศชาติและประชาชนค่ะ นั่นแท้จริงเป็นคำตอแหล ตลบตะแลง ปลิ้นปล้อน หรือเป็นจริง น่ายกย่องนับถือ และต้องไม่เอาธรรมนำหน้าเฉพาะคำพูด หากจะต้องหมายถึงการกระทำจริงๆ เป็นต้นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้เพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ หรือต้องการเปิดทางเพื่อที่จะล้างผิดให้ใครบางคนที่หนีคุก การเสนอกฎหมายปรองดอง เนื้อหาเป็นอย่างไร เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกหมู่เหล่า หรือต้องการล้างผิดให้ใคร
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ควรที่จะบอกกล่าวแนะนำสมาชิกรัฐสภาให้เห็นความสำคัญของการเอาธรรมนำหน้าเพื่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างที่นายสมศักดิ์พูด และควรที่จะประณามคนที่มันไม่เอาธรรมนำหน้า เป็นต้นว่า นักการเมืองที่มันแสวงหาประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองและครอบครัว เป็นต้น กำหนดนโยบายมาแล้วแสวงหาประโยชน์จากนโยบาย เช่น การเปลี่ยนจากค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต การให้ประเทศเพื่อนบ้านกู้ยืมเงินของประเทศแล้วเอามาซื้อข้าวของในบริษัทครอบครัวของตัว การให้เมียซื้อที่ดินที่รัฐเป็นผู้ขาย ฯลฯ นายสมศักดิ์ต้องกล้าพูด กล้าประณามคนชั่วๆ อย่างนี้
ที่สำคัญนายสมศักดิ์ต้องไม่คบคนชั่วๆ อย่างนี้ด้วย จะได้เป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่ดี ถูกไหมครับ