xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” หนีบ “น้องไปป์” เปิดตัว “บัตรรูดปรื๊ดเกษตรกร” ยาหอมปลอดดอกเบี้ย 5 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี พาบุตรชายนอกสมรส ลงพื้นที่ ครม.สัญจรภาคอีสานวันแรก ที่ร้อยเอ็ด เปิดตัว “บัตรเครดิตเกษตรกร” ใช้แทนเงินสดซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิต พร้อมสิทธิพิเศษปลอดดอกเบี้ย 5 เดือน ชำระตรงขยายวงเงินให้อีก เผย นำร่องแจกไปแล้ว 5 จังหวัด พร้อมแจกทั่วประเทศแล้ววันนี้ นำร่องชาวนาก่อน ยันใช้รูดซื้อมือถือ-มอเตอร์ไซค์ ไม่ได้

วันนี้ (29 ก.ค.) มีรายงานภารกิจการลงพื้นที่ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการประชุม ครม.นอกสถานที่ ที่ จ.สุรินทร์ ระหว่างวันที่ 29-30 ก.ค.โดยเมื่อเวลา 13.30 น.ที่ท่าอากาศยานจังหวัดร้อยเอ็ด นายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีบางส่วน อาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง, นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์, นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเมื่อมาถึงผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และข้าราชการระดับสูง พร้อมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชายนอกสมรสของนางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ร่วมคณะเดินทางด้วย จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางโดยขบวนรถยนต์ไปยัง ต.เหล่าหลวง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เพื่อเป็นประธานเปิดตัวโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรให้แก่ผู้แทนเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 19 ราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต้อนรับ และ นายกิตติรัตน์ กล่าวรายงานการดำเนินโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่ง ว่า คงจำกันได้เมื่อครั้งที่ตนหาเสียงเคยมาที่นี่มาเปิดตัวเคยคุยไว้ที่ อ.เกษตรพิสัย จ.ร้อยเอ็ด และได้รับฟังเรื่องราวต่างๆ และความคิดเห็นมากมาย ทั้งในเรื่องของราคาสินค้าเกษตรกรตกต่ำ ขาดเงินทุนหมุนเวียน ขาดแหล่งน้ำ รัฐบาลนี้ทำงานมาเกือบครบ 1 ปี ได้นำความคิดเห็นของประชาชนไปผลักดันเป็นนโยบาย รวมถึงในส่วนของทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งในเรื่องพันธุ์ข้าวต่างๆ การยกระดับราคาพืชเกษตร โดยเฉพาะเรื่องข้าวซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องแหล่งน้ำในการประชุม ครม.สัญจร จะนำปัญหาเรื่องน้ำไปหารือ ซึ่งแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนจะไม่หยุดแค่เรื่องน้ำท่วม แต่จะดูถึงปัญหาน้ำแล้งไปในตัว และการใช้แหล่งน้ำที่มีอยู่ช่วยในการทำการเกษตรการปลูกข้าว รวมทั้งพืชเกษตรอื่นๆ เพื่อนำกลับมาเป็นรายได้ปากท้องให้แก่ประชาชน ส่วนปัญหาการขาดเงินทุนที่จะทำอย่างไรให้ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มวงเงินการลงทุน รวมไปถึงการค้าขายซื้อปัจจัยการผลิต เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ตึงเป็นที่มาของบัตรสินเชื่อเกษตรกร เพื่อลดค่าใช้จ่ายเข้าถึงแหล่งเงินทุน และลดดอกเบี้ย

นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ใน 1 ปีรัฐบาลได้ผลักดันการจัดทำบัตรสินเชื่อเกษตรกร และได้เกิดขึ้นแล้วที่จะนำแจกจ่ายให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ โดยบัตรดังกล่าวจะให้วงเงินร้อยละ 70 ของผลผลิตที่เหลือขาย โดยทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.จะเป็นผู้พิจารณา ขณะที่หลายคนกังวลว่าบัตรเครดิตดงกล่าวจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนหรือไม่นั้น ในการใช้บัตรเครดิตนี้จะแตกต่างกับการใช้บัตรเครดิตทั่วไป เพราะบัตรดังกล่าวไม่สามารถนำไปซื้อมือถือ หรือมอเตอร์ไซค์ได้ แต่จะซื้อได้เฉพาะปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เกษตรกรมีเงินเหลือในการดูแลครอบครัว และบัตรดังกล่าวจะใช้ควบคู่กับประชาชน ส่วนเรื่องของดอกเบี้ย ธ.ก.ส.จะไม่มีการเก็บดอกเบี้ยใน 4 เดือนแรก และร่วมกับร้านค้าทั่วไปอีก 1 เดือน ดังนั้น 5 เดือนแรกจะไม่มีการเก็บดอกเบี้ยจากรอบการผลิตแรก แต่หากเกิน 5 เดือนแรกก็จะมีการเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 7 ซึ่งจะไม่เสียวินัยการเงินการคลัง และหากมีการชำระตรงก็จะมีการขยายวงเงินให้อีก โดยบัตรดังกล่าวใน 3 เดือนที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้นำร่องแจกไปแล้ว 5 จังหวัด และวันนี้จะเป็นวันแรกที่จะทำการแจกจ่ายทั่วประเทศ โดยจะเริ่มดูแลประชาชนที่ปลูกข้าวก่อน และในอนาคตจะดูแลประชาชนที่ปลูกผลิตผลอื่นต่อไป ตนขอยืนยันว่า ทุกคนได้ทำด้วยความภาคภูมิใจ หวังจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนลดค่าใช้จ่ายลดภาระต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสในการขยายผลผลิตของตนเอง และจะส่งผลต่อรายได้ประชาชนซึ่งถือเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล

จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะชมการสาธิตใช้บัตรสินเชื่อเกษตรกรผ่านเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Data Capture (EDC) ซึ่งเป็นโครงการที่อำนวยความสะดวกรวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มช่องทางการจัดหาปัจจัยการผลิต ให้กับเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส.โดยนายกรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมโรงสีสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดของลูกค้าของ ธ.ก.ส.และเยี่ยมชมร้านค้าในมหกรรมสินค้าราคาถูก และตลาดนัดเครื่องจักรกล โดยทางจังหวัดได้จัดเตรียมความพร้อมซึ่งภายในบริเวณงาน มีหัวหน้าหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและใกล้เคียงรอให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยังโรงสีสหกรณ์การเกษตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อพบปะกลุ่มเกษตรกรและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพของเกษตรกรพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้

จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางต่อไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อพบปะกลุ่มเกษตรกรและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพของเกษตรกรพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ โดย นายศักดา คงเพชร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะ ส.ส.พื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ได้เสนอแผนการแก้ไขปัญหาทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม ที่กระทบต่อพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าวหอมมะลิของทุ่งกุลาร้องให้ที่มีแห่งเดียวในโลก ได้รับผลกระทบต่อผลผลิตมาก ซึ่งการที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล อาจเป็นเพราะผลกระทบจากการปลูกไม้ยูคาลิปตัสที่มีหนาแน่น ตรงนี้อยากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษา ว่า เป็นต้นเหตุหรือไม่ พร้อมกันนี้ นายศักดา ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาวางยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งของพื้นที่ 5 จังหวัดในภาคอีสาน ที่มีผลกระทบต่อข้าวหอมมะลิของทุ่งกุลาร้องไห้ด้วย

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวรับข้อเสนอดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ทั้งนี้ ขอให้นายศักดา ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องเขียนแผนส่งมาให้ชัดเจนและถามความเห็นจากประชาชนด้วย เพื่อที่จะได้นำแผนไปบูรณาการกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำที่มีแผนบริหาร 25 ลุ่มน้ำ ที่รวมถึงแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีอยู่ด้วย พร้อมกันนี้ จะมีการปรับปรุงมาตรฐาน แก้ไขปัญหาข้าวทุ่งกุลาร้องให้เพื่อให้ได้มาตรฐานในการส่งออก และรัฐบาลได้มีการบูรณาการข้อมูลกระทรวงแล้วในการเตรียมรัวเข้าสู่อาเซียน จะเหลือในส่วนจังหวัด ที่จะเข้าสู่หนทางความเจริญด้วยความรวดเร็ว ในการเข้าถึงชุมชน แหล่งท่องเที่ยว และวัฒนธรรม โดยกำหนดยุทธศาสตร์หลักทั้งในเรื่องเกษตรกรรม อุตสาหกรรม คมนาคม โดยท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อเป็นรูปธรรมด้วยความรวดเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ปรากฏว่า มวลชนที่นั่งอยู่ได้ดึงนายกรัฐมนตรีเข้ามากอดและหอมแก้ม ทำให้นายกรัฐมนตรีเสียหลักล้มหน้าขมำเข้าใส่มวลชน จนทีมอารักขาความปลอดภัยต้องรีบเข้าไปช่วยกันดึงนายกรัฐมนตรีขึ้น ขณะที่นายกรัฐมนตรียังยิ้มแย้มไม่ได้ตกใจอะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น