“ทนุศักดิ์” เผย “ธ.ก.ส.” จับมือ “ปตท.-บางจาก” เพิ่มสิทธิประโยชน์ “บัตรเครดิตเกษตรกร” รูดเติมน้ำมันในปั๊ม 1 พันแห่ง ทั้งส่วนลด ดบ. และส่วนลดเงินสด ขณะที่ 5 ส.ปัจจัยเกษตรพร้อมหนุนซื้อปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์ ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อได้ เผยโครงการในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัดประสบความสำเร็จน่าพอใจ ออกบัตรสินเชื่อไปแล้ว 8 แสนใบ คาดเดือนหน้าออกครบตามเป้า 2 ล้านใบ นายกฯ “ปู” เตรียมเปิดตัวบัตรอย่างเป็นทางการ ก.ค.นี้
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรระหว่าง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และตัวแทนเครือข่ายสมาคมผู้ผลิตปัจจัยการผลิตทางการเกษตร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดหาปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ ราคายุติธรรม เป็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ และลดภาระดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกร
นายทนุศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนจัดทำบันทึกข้อตกลงเพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์และแบ่งเบาภาระดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกรตามโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร โดยทาง ปตท. และบางจากฯ จะมอบสิทธิประโยชน์ด้านปัจจัยการผลิตประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเกษตรกรสามารถซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกรในสถานีบริการของ ปตท.และบางจากฯ ที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1,000 แห่งทั่วประเทศ วงเงินไม่เกินรายละ 3,000 บาทต่อฤดูกาลผลิต โดยทาง ธ.ก.ส.จะงดคิดดอกเบี้ยเป็นเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันที่ซื้อ ส่วนทาง ปตท. และบางจากฯ จะสนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้แก่เกษตรกรที่ซื้อน้ำมันของบริษัทผ่านระบบบัตรสินเชื่อเกษตรกรในอัตราลิตรละ 7 สตางค์ ไม่เกิน 100 ลิตรต่อราย
สำหรับตัวแทนเครือข่ายสมาคมผู้ผลิตปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ได้แก่ บริษัทปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์ 5 กลุ่ม ได้แก่ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร และสมาคมอารักขาพืชไทย จะจำหน่ายปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพ ราคายุติธรรมแก่เกษตรกรผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกร โดย ธ.ก.ส.งดคิดดอกเบี้ยเป็นเวลา 30 วันนับตั้งแต่วันที่เกษตรกรใช้บัตรสินเชื่อซื้อปัจจัยการผลิต
ส่วนบริษัทเครือข่ายผู้จำหน่ายปัจจัยการผลิตประเภทปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์ ที่เข้าร่วมโครงการจะสนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้แก่เกษตรกรที่ซื้อสินค้าของบริษัทผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกรในอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) MRR ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 7 ต่อปี เป็นระยะเวลา 120 วัน รวมแล้วเกษตรกรสามารถซื้อปัจจัยการผลิตผ่านบัตรสินเชื่อเกษตรกรโดยไม่มีภาระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาถึง 5 เดือน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวอีกว่า ธ.ก.ส.ได้ดำเนินโครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาลเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยเหลือเกษตรกรในการจัดหาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และมีการทดลองระบบในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสระบุรี ซึ่งผลการดำเนินงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีลูกค้าที่ทดลองใช้บัตรทั้งสิ้น 5,522 ราย มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสินเชื่อจำนวน 7,272,704 บาท
สำหรับการดำเนินงาน ปัจจุบันได้จัดทำบัตรสินเชื่อแล้ว 823,794 ใบ และอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาอนุมัติเพิ่มจำนวน 806,950 ใบ ซึ่งพร้อมที่จะมอบแก่เกษตรกรลูกค้าทั่วประเทศในวันเปิดตัวบัตรสินเชื่อเกษตรกรอย่างเป็นทางการโดยนายกรัฐมนตรี ภายในเดือนกรกฎาคม 2555 นี้ พร้อมกับติดตั้งเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่พร้อมใช้งานให้ร้านค้าเครือข่ายแล้ว 2,352 ร้านค้า
ทั้งนี้ จะทยอยมอบบัตรสินเชื่อเกษตรกรจนครบ 2,000,000 ใบในพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ และติดตั้งเครื่อง EDC ให้แก่สถานีบริการน้ำมันให้ครบทุกอำเภอประมาณ 1,000 แห่ง รวมถึงร้านค้าเครือข่ายในส่วนที่เหลือภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 นี้
