“สดศรี” แนะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มสัดส่วนผู้หญิงให้มีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น ชม “นายกฯ ปู” ทำงานไร้ตำหนิ พร้อมแนะเพิ่มบทบาทผู้นำในเวทีอาเซียน
วันนี้ (13 มิ.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมกับมูลนิธิฟรีดริช เนามัน (ประเทศไทย) จัดสัมมนา “ความพร้อมผู้นำสตรีสู่เวทีอาเซียน” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา สำนักงาน กกต.ครบรอบ 14 ปี โดยมีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.เป็นประธานกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของ กกต.ที่ได้มีโอกาสเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาททางการเมืองของสตรี นำไปสู่การวางแผนเตรียมความพร้อมในศักยภาพ สถานภาพ และบทบาทของสตรีไทย เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการเมืองเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กกต.มีโครงการพัฒนาการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีทั้งกิจกรรมระดับชาติ และระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายเพื่อให้สตรีเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง เช่น การพิจารณาคัดเลือกบุคคลแต่งตั้งเป็น กกต.จังหวัด และเปิดโอกาสให้สตรีเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์การตามรัฐธรรมนูญ และผู้บริหารระดับสูงสุดในหน่วยงาน เตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
จากนั้น นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรี” ตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันมีสตรีเพียง ร้อยละ 10 เท่า นั้นที่เข้ามามีบทบาททางการเมือง ซึ่งถือในทางปฏิบัติถือว่าน้อยมาก ขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดไว้ว่า สตรีความมีส่วนร่วมทางการเมืองที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกับผู้ชาย แต่โลกปัจจุบันบทบาทสตรีไทยมีบทบาทน้อยมากหากเปรียบเทียวกับผู้นำชายในหลายประเทศ การที่จะให้สตรีมีบทบาทสำคัญในประเทศมองว่าเป็นโอกาสที่ยากเย็นมาก
ขณะเดียวกัน สังคมไทยในปัจจุบันได้สะท้อนถึงความรุนแรงด้วยว่า มักจะกระทำการทารุณต่อเด็ก และสตรีเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากความอ่อนแอ หรือการที่ต้องพึ่งผู้ชาย อีกทั้งมองว่าหากผู้หญิงก้าวเข้ามาสู่หน้าที่ทางการเมืองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ที่จะมองผู้หญิงว่ามาจากการไต่เต้า จึงมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สำคัญที่สังคมไทยยังไม่ยอมรับบทบาทของ สตรีมากเท่าที่ควรอย่างไรก็ตาม หวังว่าผู้หญิงไทยจะไม่เป็นเพียงแต่ช้างเท้าหลังเท่านั้น แต่ควรได้รับโอกาสในการยอมรับ และมอบความเท่าเทียมกันในสังคมของสตรี เพื่อให้เข้ามามีบทบาทและทำหน้าที่ทางการเมืองในการพัฒนาประเทศชาติมากขึ้น
ด้าน น.ส.อรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภาผู้แทนฯ กล่าวว่า การส่งเสริมสตรีเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง จำเป็นต้องสร้างความรู้ความเข้าใจบทบาทที่ดีทางการเมืองที่สำคัญที่สุด คือ การทำความเข้าใจในเนื้อหาการเป็นนักการเมืองที่ดี อีกทั้งยังคาดหวังที่จะเห็นผู้หญิงในครอบครัวไทยเป็นทั้งแม่ และภรรยาที่ดีที่สุดตามวัฒนธรรมไทย ตลอดจนต้องการให้สตรีมีบทบาททั้งในบ้านและนอกบ้านเป็นไปในทางที่ดีและสมบูรณ์ แม้ว่าผู้หญิงจะมีความละเอียดอ่อนต่างจากผู้ชายก็ตาม อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมไทยยังเป็นปัญหาหนึ่งที่ยังไม่ยอมรับผู้หญิงในการทำหน้าที่ทางการเมือง ดังนั้น การขับเคลื่อนบทบาทของสตรีไทยในอนาคต ในฐานะที่ตนเองทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องให้กำลังใจและสนับสนุนการผลักดันงบประมาณไปสู่องค์กรผู้หญิง เพราะถือเป็นองค์การสำคัญในการขับเคลื่อนสตรีไทยต่อไป
ทั้งนี้ นางสดศรีให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มสัดสวนผู้หญิงให้มีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม อย่างที่หลายประเทศในอาเซียนที่กำหนดให้ผู้หญิงมีบทบาททางการเมืองมาก ส่วนบทบาทหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ถือว่าเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเป็นผู้นำได้ดีคนหนึ่ง และสิ่งที่นายกฯปฏิบัติยังไม่มีข้อตำหนิใดๆ บางครั้งที่พูดว่า “เอาอยู่” จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ที่สำคัญคือการที่นายกฯ ได้เข้ามารับใช้ประเทศ และได้แสดงความกล้าหาญในการตัดสินใจในแต่ละเรื่อง อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่านายกฯ ควรจะมีบทบาทในเวทีอาเซียนมากยิ่งขึ้น เช่น การทำอย่างไรให้ผู้หญิงมีบทบาทในเวทีอาเซียนมากยิ่งขึ้น