ภายหลังผลการตัดสินสุดอัปยศนัดชิงชนะเลิศมวยสากลสมัครเล่นรุ่นไลท์ฟลายเวต ซึ่ง "ซู ชิงหมิง" นักชกจากจีน เอาชนะ "แก้ว พงษ์ประยูร" ท่ามกลางเสียงโห่จากผู้ชมทั้งสนาม ที่มองว่านักชกไทยทำคะแนนได้จะแจ้งกว่า และทันทีที่กรรมการชูมือให้กับ ซู ชิงหมิง กำปั้นไทยวัย 32 ปี ถึงกับทรุดตัวกลางพื้นเวทีพร้อมกับหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมาอย่างไม่อาย อย่างไรก็ตาม สหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ ยืนยันว่าทุกอย่างโปร่งใส ขณะที่"เสธ.อ้าย"ลาออก เลิกสังฆกรรมไอบา
เมื่อผลการตัดสินไม่เป็นธรรมทางออกสุดท้ายที่นักชกไทยและทีมงานทำได้คือยื่นประท้วงผลการแข่งขัน แต่ทว่ากฎข้อบังคับของไอบาในบรรทัดสุดท้ายนั้น ระบุว่า หากจะทำการประท้วงในรอบชิงชนะเลิศจะต้องยื่นภายใน 5 นาทีนับจากลงเวที ซึ่งเวลาอันน้อยนิดนั้นทำให้ “แก้ว” และ สมาคมฯมวยไทยหมดสิทธิ
ขณะเดียวกันยังสร้างความขุ่นมัวในอารมณ์ให้กับ “เสธ.อ้าย” พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ เพราะแม้กระทั่ง ดร.ชิง โกะ วู ประธานไอบาที่เข้ามาสังเกตุการณ์อยู่หลังเวที ยังช่วยจัดการอะไรไม่ได้ ทั้งหมดนี้ทำให้ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นไทย ประกาศอำลาตำแหน่งทันที โดยให้เหตุผลส่วนหนึ่งว่า “ผมไม่อยากจะทำงานร่วมกับไอบาอีกต่อไปแล้ว”
ขณะที่ฝ่ายของดร. ชิง โกะ วู ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการรายวัน ผ่านข้อความทางโทรศัพท์ว่า “พอใจกับผลการตัดสินทั้งหมดใน โอลิมปิก 2012 และเชื่อว่าไอบา ทำงานได้โปร่งใสขึ้น”
ทั้งนี้ “เสธ.อ้าย” ซึ่งเดินเข้าไปหลังเวทีพร้อมด้วย ดร.ชิง โกะ วู ประธานไอบา ปรากฏว่าต้องเดินกลับออกมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว โดยกล่าวว่า
"ผมถามเขาว่าจะประท้วงผลการตัดสินทำได้หรือไม่ ชิง โกะ วู บอกว่าทำได้ แต่เจ้าหน้าที่ของ LOGOC บอกว่าทำไม่ได้ เพราะกำหนดเวลาประท้วงไว้ที่ 5 นาที เป็นแบบนี้ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร ที่ผ่านมาสมาคมมวยฯของไทย ช่วยไอบามาโดยตลอด ทำแบบนี้เหมือนอยากจะให้นายกสมาคมลาออก แน่นอนว่าผมออกอยู่แล้วผมรักษาคำพูดที่ให้เอาไว้ และถ้าเป็นอย่างนี้ คนอย่างผมไม่สามารถทำงานด้วยได้ เห็นกันอยู่ว่ามวยของเราต่อยได้ดีขนาดไหน แต่ต้องมาแพ้เพราะกรรมการตัดสินไม่ดี จะพูดว่าถูกโกงชัยชนะไปก็ยังได้"
หลังออกอาการหงุดหงิดกับการทำงานของไอบา นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ประกาศทันทีว่า "ถึงตอนนี้ผมก็ขอรักษาคำพูด คือออกจากตำแหน่งทันที เพราะถ้าต้องเจอกับเหตุการณแบบนี้ บ่อยๆ ผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน ส่วนเรื่องความร่วมมือกับไอบา ไม่ว่าจะเป็น World Youth Championship" ซึ่งจะมีขึ้นในเมืองไทยนั้น นายกมวยฯคนนี้บอกได้เลยว่า เราไม่สามารถให้ความสนับสนุนได้ แต่คนอื่นที่จะมาแทนแล้วจะให้ความสนับสนุนต่อหรือไม่ ผมไม่รู้ เพราะเล่ห์เหลี่ยมของคนในวงการนี้เยอะมาก”
ทางด้าน “เสธ.ศักดา” พ.อ. จินดา เพ็ชรจินดา ผู้จัดการทีมซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาโดยตลอดได้กล่าวถึงการพูดคุยกับดร. ชิง โกะ วูว่า "หลังจากกาประท้วงไม่สำเร็จ ดร.ชิง โกะ วู ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ กับผลการแตัดสิน พอเห็นว่าทางเราไม่สามารถประท้วงได้ ท่านก็เดินกลับไปนั่งในสนาม" นอกจากนี้ยังเผยว่า "ทาง ดร.ชิง โกะ วู อยากคุยเป็นการส่วนตัวกับ ท่านนายกสมาคมฯ แต่ ทางเราไม่สะดวกที่จะพูดในเวลานี้ ทางประธานสหพันธ์ฯ เลยเดินเข้าไปในสนามชมการแข่งขันต่อ"
ส่วนประธานสหพันธ์ฯ ดร. ชิง โกะ วู ซึ่งกลับไปนั่งชมการแข่งขันต่อในสนามนั้นทางผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการายวัน ได้ติดต่อไปยัง นายเซบาสเตียน จิลเลียต (Mr. Sebastien Gillot) หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไอบา (Media Relation) เพื่อขอสัมภาษณ์สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในไฟท์ระหว่าง แก้ว และ ซู ชิง หมิง แต่ปรากฏว่า ดร.ชิง โกะ วู ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ หรือแสดงความคิดเห็นเฉพาะการชกไฟท์ใดไฟท์หนึ่งเท่านั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้ขอถามเพียงคำถามเดียวกลับไปว่า “พอใจกับผลการตัดสินที่มีขึ้นในโอลิมปิกขนาดไหน” ซึ่ง ประธานสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ ได้ตอบกลับมาว่า
Dr Ching-Kuo Wu: "Overall we can be satisfied by the judging at the London 2012 Olympic Games. Only two results out of more than 270 bouts had to be overturned. And the fact that we did so proves how transparent AIBA is now. Of course we can always improve things. And be sure that after these Games, we will review the scoring system and make any adjustment that needs to be done to get to the perfection."
(ดร.ชิง โกะ วู - “สำหรับภาพรวมของการตัดสินการชกในโอลิมปิก 2012 นั้นทางไอบา พอใจเป็นอย่างยิ่ง มีเพียงการตัดสินเพียงแค่ 2 นัดจาก 270 ไฟท์ที่ต้องมีการกลับคำตัดสิน และด้วยการพิจารณาดังกล่าวได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ในเวลานี้ ไอบา มีความโปร่งใสเพียงใด และแน่นอนว่าเราจะปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขณะที่ภายหลังจบการแข่งขันในเกมนี้ เราจะทำการ รีวิวระบบการให้คะแนนเพื่อพัฒนาให้การตัดสินบริสุทธยุติธรรมกว่านี้") ซึ่งการชี้แจงของ ดร.ชิง โกะ วู นั้นได้ส่งข้อความผ่านมายังโทรศัพท์และ ทางอีเมล์ ของผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการรายวัน ที่ไปเกาะติดสถานการณ์อยู่ขอบสนาม
ภายหลังเมื่อการประท้วงไม่ได้ผล และ แก้ว ขึ้นรับเหรียญเป็นที่เรียบร้อยความตึง'เครียดด้านหลังเวทีเริ่มลดน้อยลง “โค้ชธง” พันตรี ธง ทวีคูณ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตัดสินในนัดนี้ว่า "ยกแรกนั้นเราควรจะได้คะแนนมากกว่านี้ แต่ปรากฎว่า คะแนนไม่ขึ้น ยกที่สองพยายามไล่แล้ว แต่ก็เหมือนเดิมขณะที่ ซู ชิงหมิง นั้นเล่นตุกติกเยอะแล้วกรรมการไม่ยอมตัดคะแนน มาตัดคะแนนในยกที่สาม แถมยังมาตัดคะแนนฝั่งเราด้วยทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร หนนี้ แก้ว แพ้กรรมการของไอบา" ขณะเดียวกัน “โค้ชธง” ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ประท้วงที่ไม่สามารถทำได้ว่า
“เรื่องประท้วงนั้นทางไอบา ได้แจกแจงรายละเอียดในวันประชุมผู้จัดการทีม แต่ข้อสุดท้ายที่ระบุว่ารอบชิงชนะเลิศให้ประท้วงผลการตัดสินภายใน 5 นาทีนั้นเขาไม่ได้แจ้ง แต่มาระบุไว้ในเอกสารที่แจก เมื่อรูปเหตุการณ์มาอย่างนี้ซู ชิงหมิง ได้เปรียบเราอยู่แล้ว ถึงตอนนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพราะคนเห็นกันทั้งสนาม และ คนไทยทั้งประเทศก็เห็นเช่นกัน”ส่วนการประกาศออกจากตำแหน่งของเสธอ้าย นั้น โค้ชธง เผยว่า “ถ้าท่านออก ผมก็คงต้องออกตามเนื่องจากไม่รู้ว่านายกฯคนใหม่ท่านจะมี โค้ชอยู่ในใจแล้วหรือไม่ ผมถือว่าเวลานี้ได้ทำหน้าที่ของตนเองดีที่สุดแล้ว ถ้าไม่ได้ทำทีมชาติก็น่าจะกลับไปรับราชการทหารเหมือนเดิม”
ทางด้าน แก้ว หลังจากขึ้นรับเหรียญเงินจ้าตัวมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่าได้คุยโทรศัพท์กับทางบ้านแล้ว ซึ่งแม่ก็บอกมาว่า “ไม้ต้องเสียใจ ไม่ต้องร้องไห้ เราได้ทำดีที่สุดแล้ว คนทั้งประเทศก็เห็น” ทั้งนี้แก้ว จะได้ติดยศนายร้อย จากจ่าสิบเอกเป็นร้อยตรี ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า อนาคตต่อจากนี้จะต่อยมวยหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่ว่าจะไว้ใจให้ทำอะไร ส่วนตัวผมอยากเป็นโค้ชเพื่อสร้างเด็กรุ่นใหม่ จบโอลิมปิกผมคงกลับบ้านไปพักผ่อนสักระยะหนึ่งก่อน จากนั้นคงปรึกษากับครอบครัวว่าจะทำอย่างไรกันต่อ เพราะชีวิตผมก็มีแต่ซ้อมมวย และรับราชการทหาร”
นอกจากนี้ แก้ว ยังพูดถึง ซู ชิงหมิงด้วยว่า “ผมไม่ติดใจอะไรกับ ซู ชิงหมิง เพราะเขาเป็นนักกีฬาเหมือนกับเรา แต่ผมติดใจกรรมการที่ทำให้ผลการตัดสินนั้นคาใจ และทำให้รู้สึกเหมือนกับตนเองโดนโกงชัยชนะ”
ทั้งนี้ แก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมมวยสากลสมัครเล่นนั้นมีกำหนดกลับถึงเมืองไทยในวันที่ 13 สิงหาคม เวลาประมาณ 15.05 น. โดยเบื้องต้นแก้วได้เงินอัดฉีด 10 ล้านบาทจาก ตัน ภาสกรณ์นที เจ้าของชาเขียวแบรนด์ดัง ที่ใจป้ำมอบให้กับแก้วแม้ว่าจะไม่ถึงเหรียญทองก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้แก้ว จะแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ ได้เพียงเหริญเงิน แต่การทำหน้าที่ในโอลิมปิกครั้งนี้ ก็ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ
เมื่อผลการตัดสินไม่เป็นธรรมทางออกสุดท้ายที่นักชกไทยและทีมงานทำได้คือยื่นประท้วงผลการแข่งขัน แต่ทว่ากฎข้อบังคับของไอบาในบรรทัดสุดท้ายนั้น ระบุว่า หากจะทำการประท้วงในรอบชิงชนะเลิศจะต้องยื่นภายใน 5 นาทีนับจากลงเวที ซึ่งเวลาอันน้อยนิดนั้นทำให้ “แก้ว” และ สมาคมฯมวยไทยหมดสิทธิ
ขณะเดียวกันยังสร้างความขุ่นมัวในอารมณ์ให้กับ “เสธ.อ้าย” พล.อ. บุญเลิศ แก้วประสิทธิ เพราะแม้กระทั่ง ดร.ชิง โกะ วู ประธานไอบาที่เข้ามาสังเกตุการณ์อยู่หลังเวที ยังช่วยจัดการอะไรไม่ได้ ทั้งหมดนี้ทำให้ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นไทย ประกาศอำลาตำแหน่งทันที โดยให้เหตุผลส่วนหนึ่งว่า “ผมไม่อยากจะทำงานร่วมกับไอบาอีกต่อไปแล้ว”
ขณะที่ฝ่ายของดร. ชิง โกะ วู ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการรายวัน ผ่านข้อความทางโทรศัพท์ว่า “พอใจกับผลการตัดสินทั้งหมดใน โอลิมปิก 2012 และเชื่อว่าไอบา ทำงานได้โปร่งใสขึ้น”
ทั้งนี้ “เสธ.อ้าย” ซึ่งเดินเข้าไปหลังเวทีพร้อมด้วย ดร.ชิง โกะ วู ประธานไอบา ปรากฏว่าต้องเดินกลับออกมาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว โดยกล่าวว่า
"ผมถามเขาว่าจะประท้วงผลการตัดสินทำได้หรือไม่ ชิง โกะ วู บอกว่าทำได้ แต่เจ้าหน้าที่ของ LOGOC บอกว่าทำไม่ได้ เพราะกำหนดเวลาประท้วงไว้ที่ 5 นาที เป็นแบบนี้ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร ที่ผ่านมาสมาคมมวยฯของไทย ช่วยไอบามาโดยตลอด ทำแบบนี้เหมือนอยากจะให้นายกสมาคมลาออก แน่นอนว่าผมออกอยู่แล้วผมรักษาคำพูดที่ให้เอาไว้ และถ้าเป็นอย่างนี้ คนอย่างผมไม่สามารถทำงานด้วยได้ เห็นกันอยู่ว่ามวยของเราต่อยได้ดีขนาดไหน แต่ต้องมาแพ้เพราะกรรมการตัดสินไม่ดี จะพูดว่าถูกโกงชัยชนะไปก็ยังได้"
หลังออกอาการหงุดหงิดกับการทำงานของไอบา นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ประกาศทันทีว่า "ถึงตอนนี้ผมก็ขอรักษาคำพูด คือออกจากตำแหน่งทันที เพราะถ้าต้องเจอกับเหตุการณแบบนี้ บ่อยๆ ผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน ส่วนเรื่องความร่วมมือกับไอบา ไม่ว่าจะเป็น World Youth Championship" ซึ่งจะมีขึ้นในเมืองไทยนั้น นายกมวยฯคนนี้บอกได้เลยว่า เราไม่สามารถให้ความสนับสนุนได้ แต่คนอื่นที่จะมาแทนแล้วจะให้ความสนับสนุนต่อหรือไม่ ผมไม่รู้ เพราะเล่ห์เหลี่ยมของคนในวงการนี้เยอะมาก”
ทางด้าน “เสธ.ศักดา” พ.อ. จินดา เพ็ชรจินดา ผู้จัดการทีมซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาโดยตลอดได้กล่าวถึงการพูดคุยกับดร. ชิง โกะ วูว่า "หลังจากกาประท้วงไม่สำเร็จ ดร.ชิง โกะ วู ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ กับผลการแตัดสิน พอเห็นว่าทางเราไม่สามารถประท้วงได้ ท่านก็เดินกลับไปนั่งในสนาม" นอกจากนี้ยังเผยว่า "ทาง ดร.ชิง โกะ วู อยากคุยเป็นการส่วนตัวกับ ท่านนายกสมาคมฯ แต่ ทางเราไม่สะดวกที่จะพูดในเวลานี้ ทางประธานสหพันธ์ฯ เลยเดินเข้าไปในสนามชมการแข่งขันต่อ"
ส่วนประธานสหพันธ์ฯ ดร. ชิง โกะ วู ซึ่งกลับไปนั่งชมการแข่งขันต่อในสนามนั้นทางผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการายวัน ได้ติดต่อไปยัง นายเซบาสเตียน จิลเลียต (Mr. Sebastien Gillot) หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของไอบา (Media Relation) เพื่อขอสัมภาษณ์สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในไฟท์ระหว่าง แก้ว และ ซู ชิง หมิง แต่ปรากฏว่า ดร.ชิง โกะ วู ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ หรือแสดงความคิดเห็นเฉพาะการชกไฟท์ใดไฟท์หนึ่งเท่านั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้ขอถามเพียงคำถามเดียวกลับไปว่า “พอใจกับผลการตัดสินที่มีขึ้นในโอลิมปิกขนาดไหน” ซึ่ง ประธานสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ ได้ตอบกลับมาว่า
Dr Ching-Kuo Wu: "Overall we can be satisfied by the judging at the London 2012 Olympic Games. Only two results out of more than 270 bouts had to be overturned. And the fact that we did so proves how transparent AIBA is now. Of course we can always improve things. And be sure that after these Games, we will review the scoring system and make any adjustment that needs to be done to get to the perfection."
(ดร.ชิง โกะ วู - “สำหรับภาพรวมของการตัดสินการชกในโอลิมปิก 2012 นั้นทางไอบา พอใจเป็นอย่างยิ่ง มีเพียงการตัดสินเพียงแค่ 2 นัดจาก 270 ไฟท์ที่ต้องมีการกลับคำตัดสิน และด้วยการพิจารณาดังกล่าวได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ในเวลานี้ ไอบา มีความโปร่งใสเพียงใด และแน่นอนว่าเราจะปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขณะที่ภายหลังจบการแข่งขันในเกมนี้ เราจะทำการ รีวิวระบบการให้คะแนนเพื่อพัฒนาให้การตัดสินบริสุทธยุติธรรมกว่านี้") ซึ่งการชี้แจงของ ดร.ชิง โกะ วู นั้นได้ส่งข้อความผ่านมายังโทรศัพท์และ ทางอีเมล์ ของผู้สื่อข่าว ASTVผู้จัดการรายวัน ที่ไปเกาะติดสถานการณ์อยู่ขอบสนาม
ภายหลังเมื่อการประท้วงไม่ได้ผล และ แก้ว ขึ้นรับเหรียญเป็นที่เรียบร้อยความตึง'เครียดด้านหลังเวทีเริ่มลดน้อยลง “โค้ชธง” พันตรี ธง ทวีคูณ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลการตัดสินในนัดนี้ว่า "ยกแรกนั้นเราควรจะได้คะแนนมากกว่านี้ แต่ปรากฎว่า คะแนนไม่ขึ้น ยกที่สองพยายามไล่แล้ว แต่ก็เหมือนเดิมขณะที่ ซู ชิงหมิง นั้นเล่นตุกติกเยอะแล้วกรรมการไม่ยอมตัดคะแนน มาตัดคะแนนในยกที่สาม แถมยังมาตัดคะแนนฝั่งเราด้วยทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร หนนี้ แก้ว แพ้กรรมการของไอบา" ขณะเดียวกัน “โค้ชธง” ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ประท้วงที่ไม่สามารถทำได้ว่า
“เรื่องประท้วงนั้นทางไอบา ได้แจกแจงรายละเอียดในวันประชุมผู้จัดการทีม แต่ข้อสุดท้ายที่ระบุว่ารอบชิงชนะเลิศให้ประท้วงผลการตัดสินภายใน 5 นาทีนั้นเขาไม่ได้แจ้ง แต่มาระบุไว้ในเอกสารที่แจก เมื่อรูปเหตุการณ์มาอย่างนี้ซู ชิงหมิง ได้เปรียบเราอยู่แล้ว ถึงตอนนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพราะคนเห็นกันทั้งสนาม และ คนไทยทั้งประเทศก็เห็นเช่นกัน”ส่วนการประกาศออกจากตำแหน่งของเสธอ้าย นั้น โค้ชธง เผยว่า “ถ้าท่านออก ผมก็คงต้องออกตามเนื่องจากไม่รู้ว่านายกฯคนใหม่ท่านจะมี โค้ชอยู่ในใจแล้วหรือไม่ ผมถือว่าเวลานี้ได้ทำหน้าที่ของตนเองดีที่สุดแล้ว ถ้าไม่ได้ทำทีมชาติก็น่าจะกลับไปรับราชการทหารเหมือนเดิม”
ทางด้าน แก้ว หลังจากขึ้นรับเหรียญเงินจ้าตัวมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่าได้คุยโทรศัพท์กับทางบ้านแล้ว ซึ่งแม่ก็บอกมาว่า “ไม้ต้องเสียใจ ไม่ต้องร้องไห้ เราได้ทำดีที่สุดแล้ว คนทั้งประเทศก็เห็น” ทั้งนี้แก้ว จะได้ติดยศนายร้อย จากจ่าสิบเอกเป็นร้อยตรี ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า อนาคตต่อจากนี้จะต่อยมวยหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางผู้ใหญ่ว่าจะไว้ใจให้ทำอะไร ส่วนตัวผมอยากเป็นโค้ชเพื่อสร้างเด็กรุ่นใหม่ จบโอลิมปิกผมคงกลับบ้านไปพักผ่อนสักระยะหนึ่งก่อน จากนั้นคงปรึกษากับครอบครัวว่าจะทำอย่างไรกันต่อ เพราะชีวิตผมก็มีแต่ซ้อมมวย และรับราชการทหาร”
นอกจากนี้ แก้ว ยังพูดถึง ซู ชิงหมิงด้วยว่า “ผมไม่ติดใจอะไรกับ ซู ชิงหมิง เพราะเขาเป็นนักกีฬาเหมือนกับเรา แต่ผมติดใจกรรมการที่ทำให้ผลการตัดสินนั้นคาใจ และทำให้รู้สึกเหมือนกับตนเองโดนโกงชัยชนะ”
ทั้งนี้ แก้ว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมมวยสากลสมัครเล่นนั้นมีกำหนดกลับถึงเมืองไทยในวันที่ 13 สิงหาคม เวลาประมาณ 15.05 น. โดยเบื้องต้นแก้วได้เงินอัดฉีด 10 ล้านบาทจาก ตัน ภาสกรณ์นที เจ้าของชาเขียวแบรนด์ดัง ที่ใจป้ำมอบให้กับแก้วแม้ว่าจะไม่ถึงเหรียญทองก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้แก้ว จะแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ ได้เพียงเหริญเงิน แต่การทำหน้าที่ในโอลิมปิกครั้งนี้ ก็ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ