xs
xsm
sm
md
lg

สู้เพื่อ “นายเหนือหัว” ทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

หลายคนตั้งคำถามด้วยหัวใจระทดท้อว่า เราจะปล่อยให้คนเสื้อแดงแสดงอำนาจบาตรใหญ่ในบ้านเมืองอย่างนี้ตลอดไปหรือ คำตอบสำหรับผมแล้ว การแสดงพลังทางการเมืองของคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นสิ่งที่เสียหายอะไร ถ้าสิ่งที่พวกเขาต่อสู้ในฐานะประชาชนนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมืองจริงๆ

แต่สิ่งที่เรามองเห็นก็คือ พวกเขาเป็นคนที่ถูกปลุกขึ้นมาเพียงเพื่อเป็นเครื่องมือของนักการเมืองขี้โกงคนหนึ่งเท่านั้นเอง นักการเมืองคนนั้นรักประชาธิปไตยหรือไม่ นักการเมืองคนนั้นมองเห็นความไม่เท่าเทียมหรือความเหลื่อมล้ำที่คนเสื้อแดงถูกปลุกปั่นให้มาต่อสู้จริงหรือไม่ คำตอบก็เห็นอยู่แล้วในช่วงที่เขามีอำนาจว่า เป้าหมายของเขาในการเข้าสู่อำนาจการเมืองก็เพียงเพื่อแสวงหาความร่ำรวยยิ่งขึ้นให้กับวงวานว่านเครือของเขาเท่านั้นเอง

ความขัดแย้งในอุดมการณ์ทางการเมืองการแบ่งสีเสื้อไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจอะไร ถ้าต่างฝ่ายต่างก็มีอุดมการณ์เพื่อชาติบ้านเมืองที่แท้จริง

อาจมีคำถามถึงคนที่มองคนเสื้อแดงด้วยสายตาที่เป็นลบว่า ถ้าการต่อสู้ของคนเสื้อแดงไม่ใช่สิ่งที่ดีงาม แล้วทำไมจึงมีประชาชนหลายล้านคนลุกขึ้นมาสนับสนุน และพวกเขาเข้าใจว่าเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศด้วยซ้ำไป แล้วมันจะไม่ดูถูกสติปัญญาของคนเสื้อแดงที่มีคุณค่าความเป็นคนเท่าเทียมกันเกินไปหรอกหรือ

ต้องถามกลับว่าคนเสื้อแดงเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมตอนนี้จริงๆ หรือ คำตอบคือ ถ้าคิดคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งก็อาจจะใช่ แต่ถ้ามองถึงจำนวนคนในประเทศนี้ เสียงของคนเสื้อแดงอาจไม่ถึงครึ่งของครึ่งด้วยซ้ำไป

แล้วทำไมคนเสื้อแดงถึงเสียงดัง คำตอบแรกก็คงเป็นเพราะพรรคที่คนเสื้อแดงให้การสนับสนุนนั้นเป็นฝ่ายยึดกุมอำนาจรัฐ และเพราะคนส่วนใหญ่ในประเทศจริงๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวและไม่นำพาต่อเรื่องราวความเป็นไปในบ้านเมือง

มีคนจำนวนมากเกินไปในประเทศนี้ที่มีมองเห็นความแตกต่างเรื่องเสื้อสีทางการเมืองทั้งสองฝ่ายว่าเป็นพวกที่สร้างความวุ่นวายให้กับประเทศ และน่าเศร้าใจที่คนแบบนี้มีมากกว่าคนทั้งสองเสื้อสี

ออกตัวนะครับว่า ความจริงแล้วผมไม่อยากแบ่งแยกว่าความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้เป็นเรื่องของคนสองเสื้อสี “แดง” กับ “เหลือง” เพราะผมคิดว่า แก่นแท้ของคนเสื้อเหลืองนั้นไม่ได้ยึดกับเรื่องสีเป็นสรณะ ต่างกับความเข้มข้นและรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ “สีแดง” ของคนเสื้อแดง แต่สังคมและสื่อพยายามนิยามให้เข้าใจอย่างนี้อาจเพื่อให้ง่ายขึ้นในการแบ่งฝักฝ่าย ทั้งที่เอาเข้าจริงแล้วฝ่ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดงก็ไม่ได้เจาะจงลงไปว่าจะต้องยึดติดกับสีเพื่อแสดงพลังสัญลักษณ์อย่างที่ฟากเสื้อแดงกระทำ

มันน่าคิดนะครับว่า ถ้าอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงเป็นการต่อสู้เพื่อคนยากคนจน เพื่อความเท่าเทียมและความเหลื่อมล้ำในสังคมจริงๆ ทุกคนก็ควรจะรักคนเสื้อแดงใช่ไหม เพราะสิ่งที่พวกเขาต่อสู้เป็นสิ่งที่ควรจะสนับสนุน การต่อสู้เพื่อสิ่งเหล่านี้เป็นการต่อสู้ที่เป็นสากลและโลกรับรู้กันว่านี่คือความถูกต้อง

แต่ทำไมอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงจึงไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนชั้นกลางส่วนใหญ่และคนในสังคมเมือง

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่พูดเกินเลยความจริง เพราะถ้าไปดูผลเลือกตั้งในเขตเมืองเขตเทศบาลทั่วประเทศคะแนนของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากคนเสื้อแดงจะแพ้เกือบทุกเขตแม้แต่ในจังหวัดภาคอีสานหรือภาคเหนือ

ถ้าจะว่าคนชั้นกลางคนในเขตเมืองไม่รักความเป็นธรรมก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเชื่อได้ว่าโดยจิตสำนึกพื้นฐานของมนุษย์ส่วนใหญ่ที่มีจิตสำนึกใฝ่ดีก็ล้วนแต่จะต้องรักความเป็นธรรมและมีความยุติธรรมในจิตใจทั้งสิ้น

แต่ทำไมอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงจึงยังซื้อใจคนชั้นกลางและคนในสังคมเมืองไม่ได้

หรือเพราะคนชั้นกลางและคนในสังคมเมืองมองเห็นนั่นเองว่า แท้จริงแล้วคนเสื้อแดงที่ถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาเป็นพลังเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น ล้วนแล้วแต่ถูกหลอกให้เป็นเครื่องมือของการช่วงชิงอำนาจทางการเมือง

ผมไม่มองว่าคนในเขตเมืองหรือคนชั้นกลางจะฉลาดหรือมีความรู้ความเข้าใจทางการเมืองมากกว่าคนชั้นล่างหรือคนที่อยู่นอกเขตเมือง แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า คนชั้นกลางและคนในเขตเมืองนั้นมีโอกาสรับรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากกว่า

แต่เมื่ออีกฝ่ายย้อนกลับว่า แล้วทำไมยังมีปัญญาชนกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจทางการเมืองดียังคงสนับสนุนแนวทางของคนเสื้อแดง

และเราได้เห็นปัญญาชนกลุ่มที่เคลื่อนไหวตามแนวทางและอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงเหล่านี้เที่ยวชี้หน้าฝ่ายตรงข้ามว่า ไม่ได้ศึกษาค้นคว้าปัญหาการเมืองให้ถ่องแท้ เป็นพวกสนับสนุนเผด็จการ ไม่เอาประชาธิปไตย และเห็นดีเห็นงามกับการเข่นฆ่าคนไทยด้วยกันเอง รวมทั้งกล่าวหาว่าเป็นพวกขวาจัดและเป็นพวกคลั่งเจ้า

น่าสงสัยนะครับว่า สังคมไทยทุกวันนี้สามารถแบ่งซ้ายขวาได้แบบยุคสงครามเย็นจริงๆ หรือ

และคงต้องถามว่า ปัญญาชนเสื้อแดงเหล่านั้นไม่รู้หรือว่า การตื่นตัวของมวลชนคนเสื้อแดงมวลชนที่รายล้อมพวกเขานั้น เป็นพวกที่ตื่นตัวด้วยจิตสำนึกทางการเมืองที่ต้องการประชาธิปไตยหรือเพราะเขาตื่นตัวเพราะรักทักษิณกันแน่

และเมื่อเทียบกับทุกประเทศทั่วโลกสังคมไทยยังมีความแบ่งแยกและกีดกันทางชนชั้นมี “ไพร่” กับ “นาย” จริงๆ หรือ

ผมคิดว่า ปัญญาชนเหล่านั้นรู้ดี เพียงแต่ปัญญาชนเหล่านี้อาศัยมวลชนเสื้อแดงเข้ามาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะยังคงยึดติดในอุดมการณ์ “ซอมบี้” ของตัวเอง ที่ยังมีความหวังจะพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินและโค่นล้มสถาบัน แล้วพยายามหลอกตัวเองทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่า มวลชนส่วนใหญ่ที่ลุกขึ้นมานั้น พวกเขาเพียงแต่มีความเชื่อว่า ทักษิณนั้นทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น ไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับอุดมการณ์อันคร่ำครึของตัวเอง

สิ่งเหล่านี้เป็นความทับซ้อนอยู่ในอุดมการณ์ของคนเสื้อแดงที่ต่างฝ่ายต่างพยายามใช้ความแตกต่างเป็นเครื่องมือของกันและกัน พวกที่หลงว่าตัวเองเป็นฝ่ายซ้ายในเสื้อแดงก็พยายามหลอกตัวเองว่า การลุกขึ้นตื่นของมวลชนเสื้อแดงนั้นจะนำพาไปสู่การลุกขึ้นของประชาชนแบบปฏิวัติฝรั่งเศสบ้าง แบบปฏิวัติประชาชนของเหมาบ้าง ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดินบ้าง พวกทักษิณก็เห็นว่าปัญญาชนเหล่านี้เป็นวัวงานที่เอางานเอาการ

ปัญญาชนแดงนี่ก็ตลกนะครับ ใช้มวลชนของทักษิณมาสำเร็จความใคร่ในอุดมการณ์ซอมบี้ แต่ไม่ชอบให้ใครเรียกว่า เป็นพวกทักษิณ เคลื่อนไหวทุกอย่างเพื่ออุ้มชูทักษิณ แต่ไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองกระทำว่าทักษิณเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์

ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่า ถ้าทักษิณมีอำนาจก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน หรือทำให้ความไม่เท่าเทียมกันความเหลื่อมล้ำในสังคมหายไปได้ คิดว่าจะหลอกใช้ทักษิณแต่ไม่ยอมรับว่าถูกทักษิณและพวกหลอกใช้

ผมเห็น “วัฒน์ วรรลยางกูร” โกรธที่ “วิมล ไทรนิ่มนวล” บอกว่า สู้เพื่อนายเหนือหัวแล้วก็ได้แต่ขำ

ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ดีนะครับ แต่ย่อมไม่ใช่เพราะสู้เพื่อ “นายเหนือหัว” ที่ชื่อทักษิณแน่ๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น