xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ศาลรธน.ฮึ่ม ไล่เช็กบิล สัญญาณร้ายแกนนำแดง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยศวริศ ชูกล่อม
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ไล่เช็กบิลแบบกราวรูดเลยทีเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่จากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับบรรดา “หัวโจก” คนเสื้อแดงแบบกราวรูดรวมแล้ว เกือบ 30 คน ยิ่งถ้าไล่หน้าตาดูแล้วก็คือหัวโจกแดงหน้าเดิม ที่กำลังจะต้องขึ้นเขียง กรณียื่นถอนประกันตัวจากท่าทีคุกคาม ปากกล้า ปลุกระดมมวลชนข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลอาญานัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ในคดีก่อการร้ายที่แกนนำเสื้อแดงทั้ง 24 คน ยังต้องรอชะตากรรมในวันดังกล่าว

ทั้งนี้ นายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่าเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ที่กองปราบปราม ต่อบุคคล คือ 1.นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา136 และ 198 และข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวและการตกใจ โดยการขู่เข็ญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 จากการกล่าวปราศรัย ที่หน้าบริเวณรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.55

คดีที่ 2. นายก่อแก้ว พิกุลทอง ในข้อหาข่มขืนใจเจ้าพนักงาน ให้ปฏิบัติการอันไม่ชอบด้วยหน้าที่ หรือให้ละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษา ในการพิจารณาพิพากษาคดี หรือทำการขัดขวางการพิจารณา หรือพิพากษาของศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139, 140 และมาตรา 198 และข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392 จากการปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง เวทีมีนบุรี เมื่อวันที่16 มิ.ย. และจากการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา

คดีที่ 3. จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และดูหมิ่นศาล ในการพิจารณาพิพากษาคดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 136 ,198 จากการแถลงข่าวผ่านทางทีวีเอเชียอัพเดต เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.55

คดีที่ 4.นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ ข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ ว่าคณะตุลาการกระทำความผิด เพื่อให้ได้รับโทษทางอาญา ที่กองปราบปราม เมื่อวันที่ 5 ก.ค.55 ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172-174

คดีที่ 5. กลุ่มบุคคลประกอบด้วย 1. นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ 2. นายมาลัยรักษ์ ทองชัย 3. น.ส.เพ็ญสุดา สินธุญา4. น.ส.นวพร ประเสริฐอำนวย 5. นายวิสันต์บุญประกอบ 6. น.ส.สุวรรณา แสงรัตน์ 7. นายวันชัย สหกิจ 8. น.ส.สุพร แซ่จึง 9. นายไพโรจน์ทิพวารี 10. น.ส.ปราณี ปรางทอง 11. นายอิทธิวัฒน์ อนุวัตรวิมล 11. นายถนอม สุทธินันท์13. นายปาน พลหาญ 14. นายแดง บำเพ็ญสิน15. นายมะลิ หอระดาน 16. นายสุรเดช บัณดิต17. น.ส.นันทกา อินทรานนท์ 18. นายนคิรินทร์ทุมพันธ์ 19. นายไพร็อท ภูกาน 20. นายธีรชัยอุตรวิเชียร 21.ว่าที่ร้อยตรีณราสิน ศรีสันต์22. น.ส.สำเนียง นาคพิทักษ์ 23. นางเวียงศรีคร้าม 24. นายสมศักดิ์ นาคา 25. นายศุภชัย ตระกูลธนกร และ 26. นายสุริน เพ็ชรรัตน์ ในข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่า คณะตุลาการ กระทำความผิดเพื่อให้รับโทษทางอาญา ที่สถานีตำรวจภูธรคูคต อ.ลำลูกกาจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 14 ก.ค.55 ซึ่งถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172-174

คดีที่ 6. นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณหรือ โกตี๋ และ พวกไม่ทราบชื่อ จำนวนประมาณ50 คน ในข้อหาร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และดูหมิ่นศาลในการพิจารณาพิพากษาคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ,136 และ มาตรา 198 เหตุเกิดบริเวณหน้าอาคารสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าเหนือความคาดหมายเล็กน้อย สำหรับแกนนำคนเสื้อแดงที่อาจคิอว่าเรื่องคงเงียบหายไปแล้ว ศาลคงปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป หรือไม่ก็เน้นจัดการเฉพาะพวกหัวโจกที่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองระดับที่พอมีชื่อ อย่างเช่น จตุพร พรหมพันธุ์ และอีกหลายๆ คน เพราะมีตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญไปยื่นเรื่องต่อศาลอาญาให้พิจารณาถอนประกัน อันเนื่องจากผิดเงื่อนไขสัญญาประกันตัว ในคดีก่อการร้าย ซึ่งคดีดังกล่าวศาลได้นัดฟังคำสั่งพร้อมกับหัวโจกคนอื่นอีก 23 คน พร้อมกันในวันที่ 9 สิงหาคม

แต่เท่าที่ออกมารูปแบบนี้ก็ต้องบอกว่า รอบนี้ทางศาลรัฐธรรมนูญ มีท่าทีชัดเจนอย่างมากเลยทีเดียว ที่จะดับซ่าแกนนำเสื้อแดงทั้งหลาย

กล่าวถึงแกนนำคนเสื้อแดงหลายคนหากพิจารณาดูแล้ว ที่ถูกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปร้องต่อกองปราบ ทำให้น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะรายละเอียดการฟ้องก็เป็นในลักษณะแบบไม่ละเว้นหลายกระทง ต่างกรรมต่างวาระ ถือว่าตามเก็บทุกเม็ดเลยด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าย้อนไปดูพฤติกรรมแต่ละคนด้วยแล้ว ก็บอกได้คำเดียวว่าน่าเสียวไส้แบบสุดๆ ก็แล้วกัน

นอกจากนั้นแล้ว ถ้ากล่าวถึงความน่าหวาดเสียวไส้ของแกนนำเสื้อแดงที่ต้องรอคอยชะตากรรมอยู่ก็คงต้องฉายหนังตัวอย่างเสียสักหน่อย ในคดีศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยและนายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ สส.อุดรธานีพรรคเพื่อไทยเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดหมิ่นประมาทผู้อื่นกรณีจำเลยทั้งสองร่วมกันให้ข่าวสื่ออ้างว่า โจทก์ให้ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์เข้าพบเป็นการส่วนตัวในระหว่างที่มีการพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และกล่าวหาว่าโจทก์ประพฤติตนไม่เหมาะสม ขาดความยุติธรรม และขาดความเป็นกลาง

โดย ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในคดีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีที่นายพร้อมพงศ์ และนายเกียรติ์อุดม ร่วมกันแถลงข่าวกล่าวหาประธานศาลรัฐธรรมนูญ ว่าประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่น่าเชื่อถือ ขัดต่อจริยธรรมของตุลาการ ขาดความยุติธรรมและขาดความเป็นกลาง เป็นเหตุให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

เรียกว่าเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู โดยแท้สำหรับคดีนี้ ที่มีผลการพิพากษามาในช่วงเวลาที่น่าสิ่วหน้าขวานของเหล่าแกนนำเสื้อแดงที่รอชะตากรรมอย่างหวาดเสียวพอดีพอดีด้วยซ้ำ

ดังนั้น อย่าได้แปลกใจหากจะไม่เห็นพวกเหล่าแกนนำเสื้อแดง ออกอาการสงบเสงี่ยมแบบผิดปกติ เหมือนกับกลัว ต่างกับตอนยืนปากกล้า ขาสั่น ต่อหน้าคนเสื้อแดงแบบฟ้ากับเหวเลยทีเดียว

และดูเหมือนว่าจะดูนอบน้อมผิดปกติไปด้วยเลยทีเดียว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ สส.สุรินทร์พรรคเพื่อไทยแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกกังวลกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความต่อกองบังคับการกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีในข้อหาดูหมิ่นข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันว่าไม่เคยพูดข่มขู่และพร้อมพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรม

เช่นเดียวกับนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช.ที่กล่าวว่า ไม่ได้ติดใจกับการแจ้งความของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเข้าใจดีว่าเป็นการทำไปเพื่อปกป้ององค์กรของศาลรัฐธรรมนูญเอง และไม่คิดที่จะฟ้องกลับในข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะต้องทำตามนโยบายพรรคเพื่อไทยคือ แก้ไขไม่แก้แค้น แต่ส่วนใครจะไม่แก้ไขและคิดแก้แค้นก็ตามสบาย

ขณะเดียวกันสัญญาณร้ายของแกนนำเสื้อแดงไม่ได้หมดเพียงแค่นั้น เพราะวันพิพากษาศาลก็ยังได้ออกกฎเข้มเพื่อป้องปรามคนเสื้อแดงอย่างรู้เท่าทันอีกต่างหาก นายจุมพล ชูวงษ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ออกข้อกำหนดเพื่อรักษาความเรียบร้อยในวันที่ 9 ส.ค.2555 ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดฟังคำสั่งต่อคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญที่ขอให้เพิกถอนการประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธ์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับพวกรวมที่เป็นทั้งแกนนำ และแนวร่วมกลุ่มนปช. 24 คน ซึ่งเป็นจำเลยในคดีร่วมกันก่อการร้าย เนื่องจากคาดว่าจะมีประชาชน ผู้สนใจ ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชนมาศาลเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น เพื่อรักษาความเรียบร้อยและให้กระบวนพิจารณาดำเนินไปด้วยความเที่ยงธรรมและรวดเร็ว อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ศาลอาญา โดยห้ามมิให้ผู้ใดประพฤติตนในทางที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ก่อความรำคาญในบริเวณศาลหรือกระทำการในลักษณะที่เป็นการยั่วยุสนับสนุนในบริเวณศาล

ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดัง อันเป็นการรบกวนการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาล, ห้ามนำสินค้ามาวางจำหน่าย อันเป็นการกีดขวางทางเข้าออกศาลอาญา และศาลอื่นริมถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลอุทธรณ์ ศาลแพ่ง จรดศาลอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนการกระทำดังกล่าว ถือกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ระวางโทษจำคุก 6 เดือน

เมื่อพิจารณาจากสัญญาณของศาลที่เข้มงวดกว่าเดิม เหมือนเป็นการเตือนให้เห็นว่าอย่าเหิมเกริมล้ำเส้นท้าทายศาลเป็นอันขาด แน่นอนยังไม่มีใครทราบได้ว่าผลของคำพิพากษาจะออกมาในทางใด จะเป็นฝันดีหรือฝันร้ายของแกนนำเสื้อแดงกันแน่ แต่เมื่อได้เห็นสัญญาณที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่เพิ่งเกิดขึ้นกรณีสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความเช็กบิลกราวรูด และท่าทีของศาลอาญาที่ได้ออกกฎเข้มด้วยแล้ว หรือจะเป็นท่าทีของแกนนำเสื้อแดงที่ดูสงบเสงี่ยมเหมือนหนังผิดม้วน

เหล่านี้คือ สัญญาณอันตรายที่แกนนำเสื้อแดงก็น่าจะทราบดี และคงจะนั่งหนาวๆ ร้อนๆ อยู่มากอย่างแน่นอน
ก่อแก้ว พิกุลทอง
จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ
พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
กำลังโหลดความคิดเห็น