xs
xsm
sm
md
lg

น่าหวาดเสียวไล่เช็กบิลหัวโจกหมิ่นศาลเรียงตัว!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ยังคาดไม่ถึงว่าจู่ๆ เมื่อเจ้าหน้าที่จากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีต่อบรรดา “หัวโจก” คนเสื้อแดงแบบกราวรูดรวมแล้ว เกือบ 30 คน ถ้าเอาเฉพาะคนที่พอรู้จัก และเคลื่อนไหวแบบโดดเด่น ก็ เช่น ก่อแก้ว พิกุลทอง ยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก รวมทั้งคนอื่นๆที่ไม่ค่อยรู้จักรวมแล้ว 26 คน โดนกันไปหลายข้อหา ต่างกรรมต่างวาระ

นี่ยังไม่นับกรณีของ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ที่ศาลได้ดำเนินการในกรณีเดียวกัน แต่เป็นกรณียื่นถอนประกันตัวจากท่าทีคุกคาม ปากดีปลุกระดมมวลชนข่มขู่ศาล โดยศาลอาญานัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 สิงหาคมที่จะถึงนี้ พร้อมกับ พวกแกนนำคนอื่นที่ถูกดำเนินคดีก่อการร้ายรวม 23 คน

อย่างไรก็ดี ถ้าได้ได้ยินคำพิพากษาจำคุก พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และ เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี จากคดีหมิ่นประมาทประธานศาลรัฐธรรมนูญ วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ที่กล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง โดย เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ศาลอาญาได้ตัดสินจำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 5 หมื่นบาท แต่ปราณีโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี

หากพิจารณากันแบบผิวเผินก็คงไม่มีอะไรให้คิดนอกเหนือไปไกล ใครทำผิด ปากดีพูดจากล่าวหา ใส่ร้ายคนอื่นก็ต้องถูกดำเนินคดีถูกจำคุก ซึ่งหากวกมาที่กรณีศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งศาลอื่นๆจะเห็นว่ามักถูกดูหมิ่นเหยียดหยามจากเครือข่ายระบอบทักษิณ อย่างจงใจ ไล่ลงมาตั้งแต่หัวขบวนใหญ่ คือ ทักษิณ ชินวัตร หลังจากถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปีในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ถูกยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาทและถูกออกหมายจับในคดีทุจริตอื่นๆอีกหลายคดี ยาวเป็นหางว่าว ล่าสุด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้รับฟ้องกรณีการทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยจำนวน 9 พันล้าน โดยก่อนหน้านี้ทั้งตัว ทักษิณ และลูกน้องต่างออกมาโจมตีศาลอย่างเสียหาย เช่น ว่า “ยุติความเป็นธรรม” โจมตีใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรมของไทยในต่างประเทศจนป่นปี้

ที่เลวร้ายทำกันได้ถึงขนาดที่มีทนายความของตัวเองหอบถุงขนม 2 ล้านบาทพยายามติดสินบนศาล จนถูกดำเนินคดีฐานละเมิดศาล มีการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความมาแล้ว แต่ในที่สุดทนายความคนดังกล่าวก็ได้รับการสนับสนุนให้มาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน

ถ้าโฟกัสกันพิจารณาเฉพาะกรณีที่ตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความดำเนินคดีต่อบรรดาหัวโจกคนเสื้อแดงกราวรูด แบบไม่ละเว้นแม้สักคนเดียว ทำให้น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนึกไปว่าคำพูดปลุกระดมดูหมิ่นและข่มขู่คุกคามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แบบคะนองปากของคนพวกนี้ได้เกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว ทั้งก่อนและหลังมีคำวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ออกมา

หลายคนคงนึกไปว่าเรื่องคงเงียบหายไปแล้ว ศาลคงปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไป ให้ผ่านไปแบบสายลม หรือไม่ก็เน้นจัดการเฉพาะพวกหัวโจกที่สร้างความวุ่นวายให้แก่บ้านเมืองระดับที่พอมีชื่อ อย่างเช่น จตุพร พรหมพันธุ์ เพราะมีตัวแทนของศาลรัฐธรรมนูญไปยื่นเรื่องต่อศาลอาญาให้พิจารณาถอนประกัน อันเนื่องจากผิดเงื่อนไขสัญญาประกันตัว ในคดีก่อการร้าย ซึ่งคดีดังกล่าวศาลได้นัดฟังคำสั่งพร้อมกับหัวโจกคนอื่นอีก 23 คน พร้อมกันในวันที่ 9 สิงหาคม

เมื่อพิจารณาจากการเข้าแจ้งความแบบกราวรูด ไม่ละเว้นหลายกระทง ต่างกรรมต่างวาระ ถือว่าตามเก็บ “ทุกเม็ด” อีกทั้ง เมื่อฟังผลจากการสั่งจำคุก พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และ ส.ส.อุดรธานี เกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ คนละ 1 ปี แม้ว่าจะมีการปราณีรอลงอาญา 2 ปีก็ตาม แต่นั่นมันไม่ต่างจากการส่งสัญญาณ “เข้ม” แสดงให้เห็นว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายเครดิต ความน่าเชื่อถือของระบบศาลยุติธรรมอีกต่อไป เพราะศาลกระทำในนามพระปรมาภิไธยต้องมีความศักดิ์สิทธิ์และยุติธรรม เป็นที่พึ่งสุดท้าย หากศาลถูกย่ำยีบ้านเมืองก็ไร้ขื่อแปจะวุ่นวายปั่นป่วนแน่

ที่ผ่านมาอาจมีการแสดงออก มีท่าทีที่เหิมเกริมถึงขั้นข่มขู่คุกคามศาล ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้แต่ในยุคเผด็จการทหารแบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จก็ไม่เคยปรากฏว่าพวก “กเฬวราก” จะกล้าทำถึงเพียงนี้ แต่ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากสัญญาณของศาลที่เข้มงวดกว่าเดิม มันก็เหมือนเป็นการเตือนให้เห็นว่าอย่าเหิมเกริมล้ำเส้นท้าทายศาลเป็นอันขาด

แม้ว่านี่คือการคาดหมายไว้ล่วงหน้า ว่าคำพิพากษากับพวกหัวโจกที่ดูหมิ่นคุกคามศาลจะออกมาอย่างไร ยังไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหน แต่เมื่อได้เห็นสัญญาณที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่เพิ่งเกิดขึ้นกรณีการแจ้งความกราวรูด รับรองว่าต้องหนาวแน่ โดยเฉพาะพวกที่เป็น ส.ส.มีตำแหน่งทางการเมืองติดตัว อาจต้องเข้าไปนอนคุก ไม่สนุกแน่นอน และเชื่อว่าคนพวกนี้ย่อมมีความรู้สึกรับรู้ได้แล้วเช่นเดียวกัน

เพราะนี่คือเหตุการณ์น่าหวาดเสียวสำหรับทักษิณ และเครือข่ายทั้งมวล!!
กำลังโหลดความคิดเห็น